หนุ่มเมืองจันท์ | The Power Game

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

ปลายปีที่ผ่านมา ผมเคยบอกว่าปีนี้จะหยุดพักเรื่อง Facebook Live

และมีแผนจะทำ Podcast

คิดก่อนคุณทักษิณ ชินวัตร จะทำ Good Monday นะครับ

แต่ผมแค่คิด และยังคิดอยู่

คุณทักษิณเขาทำเลย

แต่ถ้าถามว่าใครทำ Podcast ก่อนกัน

ผมก็ยังยืนยันว่าผมทำก่อนนะครับ

ประมาณ 10 กว่าปีที่แล้วมีน้องคนหนึ่งชื่อ “ภาสกร หงษ์หยก” มาคุยกับผมเรื่องธุรกิจเป็นตอนๆ แล้วนำไปทำเป็น Podcast

อยู่ในเว็บไซต์ “ช่างคุยดอทคอม” Changkhui.com

ถือเป็นเรื่องหนึ่งที่มาก่อนยุค

จากนั้นก็มาทำรายการคู่กับ “โหน่ง” วงศ์ทนง สมัยที่อยู่ a day

ชื่อรายการเรียกยากมากเลย

Carpe diem

ฟังดูก็รู้เลยว่า “โหน่ง” เป็นคนตั้งชื่อ

หลังจาก “โหน่ง” ออกจาก a day มาทำ The Standard รายการนี้ก็ยุติไป

วันนี้ที่คิดจะทำ Podcast เอง เพราะรู้สึกว่าทำง่ายกว่าการ Live เยอะเลย

ไม่ต้องระมัดระวังท่านั่งว่าพุงออกหรือเปล่า

ไม่ต้องดูมุมกล้องว่าเป็นอย่างไรบ้าง

เพราะ Podcast เหมือนรายการวิทยุใช้เสียงอย่างเดียว

อัดเสียงที่ไหนก็ได้

ช่วงนั้นเอง “เคน” นครินทร์ บรรณาธิการเว็บไซต์ The Standard ก็ติดต่อชวนให้ไปทำ Podcast รายการวิเคราะห์การเมือง

เป็นจังหวะที่ปี่กลองการเมืองเริ่มดังขึ้นมา ตามประสานักข่าวเก่าเลือดลมก็สูบฉีดแรง

นัดคุยกับ “แหล่งข่าว” การเมืองเป็นระยะๆ

ดังนั้น พอ “เคน” ติดต่อมา ผมก็นึกแบบสนุกๆ ว่ามีสนามใหม่ให้เล่นแล้ว

รับปากเลยครับ

ลืมเล่นตัวแบบ “นายกฯ ตู่”

วันที่นัดคุยกับ “เคน” และทีมงาน มี “ปิงปอง” คู่หูของ “โหน่ง” นั่งคุยด้วย

“ปิงปอง” บอกว่า กระแส Podcast กำลังมา

ยิ่ง “ทักษิณ ชินวัตร” ลุกขึ้นมาทำรายการ Podcast คนยิ่งฮือฮา

เพราะการเลือกช่องทาง Podcast สื่อสารกับประชาชนแทนที่จะเลือกช่องทางอื่น

แสดงว่าช่องทางนี้ต้องมีอะไรดี

สมัยก่อน เวลาหาโฆษณาเข้า Podcast ต้องเลือกคนที่คุ้นเคยจริงๆ

นั่งคุยช้าๆ ว่าวิธีการฟังทำอย่างไร แม้จำนวนคนจะไม่เยอะมากเหมือนดูคลิปใน Youtube

แต่คนที่ฟังคือคนที่มีสมาธิกับ “เนื้อหา”

ส่วนใหญ่ฟังจนจบ

ไม่ใช่คลิกแล้วปาดผ่านเหมือนดูคลิป

แต่หลังจากที่ “ทักษิณ” ทำ Podcast กลายเป็นว่าเอเยนซี่โฆษณาเริ่มโทร.มาหา

ถามว่า Podcast เป็นอย่างไร

อยากลงโฆษณา

สถานการณ์เปลี่ยนไปเลยครับ

เรานั่งคุยว่ารูปแบบรายการจะเป็นอย่างไรดี

ผมเสนอให้เป็นการพูดคุยของผมกับ “เอก” หรือ “ออฟ” ที่ดูแลข่าวการเมืองของที่นี่อยู่แล้ว

คุยการเมืองให้เป็นเรื่องสนุก

มีทั้งเล่าเกร็ดการเมือง หรือวิเคราะห์เบื้องลึกเบื้องหลังการเมืองแบบไม่เครียด

แล้วผมก็ลองเล่าเรื่องเกมและกลยุทธ์การเมืองให้ฟัง

แทรกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในอดีตไปด้วย

น้องๆ บอกว่าเอาแบบนี้เลยพี่

“สนุกมาก”

ไม่รู้ว่าพูดเอาใจหรือเปล่า

แต่เป็นคนเชื่อคนง่ายครับ

รายการนี้ชื่อ “The Power Game”

คุยการเมืองเป็นเรื่องสนุก

ออกอากาศวันไหนเหรอครับ

คุณทักษิณ วันจันทร์

พล.อ.ประยุทธ์ วันศุกร์

คิดให้สนุกก็ต้องวันพุธ ตอนเย็น

แทรกกลางเลย

ให้ฟังเล่นๆ ตอนขับรถกลับบ้าน

เริ่มวันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์

ครั้งแรก เรานัดอัดรายการวันอังคารก่อนออกอากาศจริง 1 วัน

แต่ต่อไปจะอัดวันพุธแล้วออกอากาศเลย

วันที่ไปอัดรายการ ผมตื่นเช้ามาด้วยอาการเจ็บข้อเท้า

มันมาแล้ว

เพื่อนเก่ามาแล้วครับ

เขาชื่อ “เก๊าต์”

นึกด่าเพื่อนในใจว่าทำไมมาวันนี้

รู้ว่า “คิดถึง” แต่มาวันอื่นได้ไหม

เพราะสำนักงาน The Standard เป็นที่ทำงานของ “คนรุ่นใหม่”

เป็นอาคาร 5 ชั้น

…ไม่มีลิฟต์คร้าบ

และห้องอัด Podcast อยู่ชั้น 5

ใครที่เคยเป็น “เก๊าต์” คงจะเข้าใจว่ามันทรมานแค่ไหน

แต่ยังไงก็ต้องไป

อัดรายการวันแรก ถึงจะเจ็บขาแต่ก็สนุกดีครับ

เป็นเรื่องความสัมพันธ์ของคุณทักษิณ ชินวัตร กับคุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์

คนที่ชักใยการเมืองอยู่หลังฝุ่น PM 2.5

ผมย้อนอดีตไปตอนที่เคยสัมภาษณ์คุณทักษิณในฐานะหัวหน้าพรรคไทยรักไทยครั้งแรกที่ตึกเอสซี แอสเสท หรือตึกชินวัตรทาวเวอร์ 3 ริมถนนวิภาวดีรังสิต

ตอนแรกนึกว่าจะเป็นการสัมภาษณ์เดี่ยว

ตัวต่อตัว ไม่มีรุม

แต่คุณทักษิณรุมครับ

ไม่ได้มาคนเดียว แต่มากับผู้ชายรูปร่างสูง ผมสีดอกเลาคนหนึ่ง

เขาชื่อ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์”

AFP PHOTO / EMMANUEL DUNAND

เชื่อไหมครับ ตลอดการสัมภาษณ์ประมาณ 1 ชั่วโมง

คุณสมคิดไม่พูดอะไรเลย

นั่งนิ่งๆ

นานๆ จะพยักหน้าที

นั่นคือ ครั้งแรกที่ผมได้เจออาจารย์สมคิด

จากวันนั้นเป็นต้นมา ทั้งคู่เหมือน “คอหอย” กับ “ลูกกระเดือก”

เจอ “ทักษิณ” ที่ไหน พบ “สมคิด” ที่นั่น

จากวันนั้นจนถึงวันนี้

ใครจะไปนึกว่าจากคนที่เคยรักกันกลับกลายมายืนกันคนละฝั่งฟาก

นับตั้งแต่หลังเหตุการณ์รัฐประหารปี 2549 เป็นต้นมา

ทั้งคู่สร้างดาวกันคนละดวง

“สมคิด” เคยอกหักจากตอนทำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ร่วมกับคุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ และคุณประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ในการเลือกตั้งปี 2550

เขาได้เรียนรู้ว่าตอนมี “อำนาจ” กับ “ไม่มีอำนาจ”

ไม่เหมือนกัน

นักธุรกิจที่สนิทชิดเชื้อตอนมีอำนาจแบบเท่าไรเท่ากัน

พอไม่มีตำแหน่ง

ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

จากบทเรียนครั้งนั้น เขาจึงไม่พลาดซ้ำในตอนชวนคนมาตั้งพรรคพลังประชารัฐ

การเมืองไทยวันนี้คนหนึ่งอยู่เบื้องหลังพรรคพลังประชารัฐ

อีกคนหนึ่งอยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อไทย ไทยรักษาชาติ

ภายใต้ยุทธศาสตร์ “อยู่ข้างหลัง แต่อย่าบังมิด”

คือ ไม่ยืนอยู่ข้างหน้า

ชักใยอยู่เบื้องหลัง

แต่โผล่ให้เห็นแวบๆ พอให้คนรู้ว่าใคร

ทำไมถึงต้องเป็นเช่นนั้น

ลองไปฟังกันดูนะครับ

“The Power Game”

ทุกวันพุธตอนเย็นๆ

…ทุกคนล้วนมีอดีต