ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 8 - 14 กุมภาพันธ์ 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | ยานยนต์ |
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต |
เผยแพร่ |
ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]
‘CLS 300 d AMG Premium’
เบนซ์สปอร์ตคูเป้ ‘4 ประตู’ สุดจ๊าบ
ของเค้าแน่นอนจริงๆ??
ผมกำลังพูดถึงค่าย “ดาวสามแฉก” เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่เปิดตัวรถยนต์สปอร์ตรุ่นใหม่ “Mercedes-Benz CLS” รุ่นประกอบในประเทศ
เรียกว่าไม่รอให้เสียเวล่ำเวลาเลย เพราะจัดมาตั้งแต่เดือนแรกของปี
จึงพอประเมินได้ว่าปีนี้คงเป็นอีกปีที่เมอร์เซเดส-เบนซ์น่าจะยิงสลุตรถรุ่นใหม่ และรุ่นไมเนอร์เชนจ์ออกมาถี่ยิบไม่ต่างจากหลายปีที่ผ่านมา
เข้าใจว่าเป็นอีกยุทธวิธีกวาดยอดขายและปรามบรรดาบริษัทนำเข้ารถยนต์อิสระ หรือ “เกรย์”
และทำได้ตามเป้าเสียด้วย เพราะปัจจุบันมีรถดาวสามแฉกที่นำเข้าโดยเกรย์ไม่มากนัก เพราะบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด นำเข้ารถใหม่ที่เปิดตัวในเมืองนอกมาเองเกือบทั้งหมดเพื่อชิงนำตลาด จากนั้นสักพักก็จะปล่อยตัวประกอบในประเทศออกมา ในราคาที่ลดลงพอสมควร
ต่างจากเมื่อสักราวๆ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ขยับตัวค่อนข้างช้า ทำให้เกรย์นำเข้ารถรุ่นใหม่มาจำหน่ายกันเป็นล่ำเป็นสัน
จำได้ว่าสมัยนั้นเคยพูดคุยกับผู้บริหารคนหนึ่ง ซึ่งบอกตัวเลขที่ผมยังตกใจว่ารถเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่วิ่งบนถนนเมืองไทย (เมื่อ 10 กว่าปีก่อน) เป็นของที่บริษัทจำหน่ายแค่ครึ่งเดียว ส่วนอีกครึ่งเป็นของเกรย์มาร์เก็ต
หลังจากได้พูดคุยกันพักใหญ่ๆ เมอร์เซเดส-เบนซ์เริ่มมีมาตรการจำกัดการเข้ารับบริการของรถที่ไม่ได้ซื้อจากบริษัทโดยตรง หรือหากจะเข้ารับบริการในศูนย์อย่างเป็นทางการของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ต้องเสียค่าแรกเข้าหลายแสนบาท
แต่ก็ยังไม่ค่อยได้ผลมากนัก
จนในที่สุดเมอร์เซเดส-เบนซ์จึงใช้วิธีเร่งนำเข้ารถยนต์ที่เปิดตัวในเมืองนอกมาทำตลาดอย่างรวดเร็ว และดำเนินการต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้
จึงกลายเป็นที่มาให้เมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นค่ายรถที่เปิดตัวรถใหม่และรุ่นไมเนอร์เชนจ์มากที่สุดของเมืองไทยในช่วงหลายปีหลัง
รถรุ่นแรกของปีจากค่ายนี้ เป็นรุ่น “CLS 300 d AMG Premium” รุ่นประกอบในประเทศ หนึ่งในรถยนต์กลุ่ม “ดรีมคาร์” (Dream Car)
โดยปีที่แล้วเมอร์เซเดส-เบนซ์เปิดตัวรถรุ่นประกอบในประเทศมากถึง 7 รุ่น
“CLS 300 d AMG Premium” เป็นรถยนต์สปอร์ตคูเป้ 4 ประตู
มาพร้อมกับดีไซน์ที่น่าหลงใหล สะท้อนแนวคิดของการออกแบบรถยนต์ในแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เบนซ์
โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้า MULTIBEAM LED ดีไซน์ใหม่ พร้อมระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist) ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ALS (Active Light System)
กระจังหน้าแบบ diamond grille ที่มีเส้นตัดแบ่งเส้นเดียวอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์แบบคูเป้ของเมอร์เซเดส-เบนซ์
มีเส้นสายที่ดูกว้างและมีลักษณะทอดตัวลงไปที่พื้น คล้ายกับลักษณะของ Mercedes-AMG GT
กันชนหน้า-หลัง และสเกิร์ตข้างดีไซน์สปอร์ตจาก AMG ไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยีไฟเบอร์ออปติก
ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว ยางรถยนต์แบบ Run-flat tyres สัญลักษณ์ Mercedes-Benz บนคาลิปเปอร์เบรก
หลังคาซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า
เปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้มือ (HAND-FREE ACCESS)
ห้องโดยสารนั้นหรูหราเน้นความเรียบง่าย แต่เพิ่มความพิเศษด้วยการติดตั้งไฟประดับที่ช่องลมของเครื่องปรับอากาศ เพื่อเสริมรูปลักษณ์ของช่องลมที่ดูคล้ายเครื่องยนต์ของเครื่องบินเจ๊ต เสริมลูกเล่นด้วยการเปลี่ยนสีเมื่อมีการปรับอุณหภูมิ
ออกแบบแผงหน้าปัดสำหรับผู้ขับขี่แบบดิจิตอล ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกรูปแบบการแสดงผลของแผงหน้าปัดได้ 3 แบบ เพื่อให้เหมาะกับความรู้สึกขณะขับขี่ หรือให้เข้ากับการตกแต่งภายในห้องโดยสาร
พวงมาลัยเพาเวอร์พร้อมมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต 3 ก้านท้ายตัด ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถด้วยระบบไฟฟ้า หุ้มหนัง nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control
ระบบ AUDIO 20 GPS และหน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบ Digital widescreen cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย touchpad เลือกสีของไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารได้ถึง 64 สี
ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display) ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2 โซน
ระบบนำทาง (navigation system) ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester Surround Sound System ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay & Android Auto, ระบบ Bluetooth สำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่
กาบบันไดเรืองแสงพร้อมสัญลักษณ์ Mercedes-Benz ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต
ออกแบบเบาะที่นั่งให้ได้อารมณ์สปอร์ต หุ้มหนัง nappa เบาะที่นั่งคู่หน้าสามารถปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ เบาะที่นั่งตอนหลังยังสามารถพับลงแบบ 40/20/40
ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ 1,950 ซีซี พร้อมเทอร์โบคู่ และอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 245 แรงม้า ที่ 4,200 รอบต่อนาที แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,400 รอบต่อนาที ทำงานควบคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-TRONIC
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลา 6.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
มีระบบปรับรูปแบบการขับขี่ DYNAMIC SELECT ซึ่งทำให้ผู้เป็นเจ้าของสามารถสัมผัสถึงการขับขี่แบบเร้าใจหรือการขับขี่แบบนุ่มสบายตามความต้องการ
ระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Steering-wheel Gearshift Paddles) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว ควบคุมแรงเหวี่ยงจากการทำงานของเครื่องยนต์ให้ต่ำลง ช่วยให้สมรรถนะการขับขี่นุ่มนวลและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แน่นอน ค่ายนี้เขาจัดเต็มอยู่แล้วเรื่องความปลอดภัยและไฮเทค ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Active Distance Assist DISTRONIC) ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist) หรือระบบช่วยเบรกแบบแอ๊กทีฟ (Active Brake Assist)
ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot Including Active Parking Assist), เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC)
โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hil-Start Assist ระบบไฟเบรกกะพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake light)
ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าสู่ศูนย์บริการ, ระบบเตือนแรงดันลมยาง, ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ฯลฯ
มีอีกเพียบครับ อธิบายได้ไม่หมด
“Mercedes-Benz CLS 300 d AMG Premium” ราคา 4,390,000 บาท