วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย/เสถียร จันทิมาธร/ ไม้เท้าตีสุนัข ปรากฏ (176)

เสถียร จันทิมาธร

วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย/เสถียร จันทิมาธร

ไม้เท้าตีสุนัข ปรากฏ (176)

ของขวัญชิ้นที่ 3 จากเอี้ยก่วยสร้างความงุนงงสงกาให้อึ้งย้ง ก๊วยเจ๋ง มากกว่าของขวัญชิ้นก่อนหน้านี้ แต่เนื่องจากของขวัญชิ้นที่ 1 กับชิ้นที่ 2 เป็นผลดีต่อเมืองเซียงหยาง จึงนึกไม่ออกว่าของขวัญชิ้นที่ 3 ก็น่าจะเป็นไปตามนั้น

ดังนั้น 2 สามี-ภรรยาไม่เข้าไปเกี่ยวข้องการพันตูระหว่างตาเอ่อปากับฮ่อซืออั้ว

ตรงกันข้าม เย่ลุกชี้แม้ถูกฮ่อซืออั้วดำเนินแผนกระแทกกระทั่งพลัดตกเวที แต่ก็ตั้งปณิธานสืบทอดกิจการใหญ่ของแม่ยาย (งักบ้อ) คืออึ้งย้ง คิดรับใช้พรรคกระยาจก เห็นฮ่อซืออั้วถูกตาเอ่อปาคุกคามจนมือไม้ปั่นป่วนเป็นพัลวันจึงคิดจะเข้าไปช่วยเหลือ

ขณะพุ่งตัวถึงข้างเวทีก็ได้ยินเสียงห้ามดังจากทางด้านซ้ายมือ “ไม่ว่าผู้ใด ห้ามมิให้ขึ้นเวที”

ผู้ห้ามเป็นอันดับ 3 (เล่าซา) ในเหล่าพี่น้องตระกูลซือ ฉายาราชสีห์เกราะทอง ซือเจ่กกัง ขณะเย่ลุกชี้กำลังพันตูอยู่กับเล่าซา แชเล้งจื้อก็ยกกระบอกเหล็กขึ้น ยื่นมือซ้ายออกฟันใส่ตรงกลางกระบอกเหล็กแตกออก

แชเล้งจื้อดึงกระบอกเหล็กหักกลางทั้ง 2 ท่อนออกเห็นภายในบรรจุด้วยไม้เท้าไม้ไผ่สีเขียวสดใสด้ามหนึ่ง

เป็น “ไม้เท้าตีสุนัข”

นี่คือปริศนาอันสร้างความงุนงงให้เกิดขึ้นเป็นอย่างสูง เพราะเป็น “ไม้เท้าตีสุนัข” อันเคยอยู่ในความครอบครองของฮ่อซืออั้วมาก่อน

 

ทุกคนรอคอยแชเล้งจื้ออธิบายปมปริศนานี้แต่มันกลับไม่กล่าวอะไร กระโดดลงจากเวทีถือไม้เท้าตีสุนัขด้วย 2 มือ ส่งมอบต่อก๊วยเซียงอย่างนอบน้อม

เท่ากับยืนยันว่า นี่คือของขวัญชิ้นที่ 3

ก๊วยเซียงเห็นไม้เท้าตีสุนัขอดสะทกสะท้อนใจมิได้ เมื่อรับจากแชเล้งจื้อแล้วจึงส่งมอบต่อมารดาซึ่งเคยเป็นประมุขพรรคกระยาจก

ยิ่งติดตามชมดูการต่อกรระหว่างตาเอ่อปากับฮ่อซืออั้วยิ่งมากด้วยเงื่อนงำ

ภาระหน้าที่ของตาเอ่อปาเด่นชัดอย่างยิ่งว่ามุ่งเพื่อเปิดโปงฮ่อซืออั้วอย่างเป็นด้านหลัก กระทั่งผู้คนเริ่มมองออกว่าที่แท้ฮ่อซืออั้วเป็นการปลอมตัวมาของราชบุตรฮั่วตูศิษย์คนสำคัญของกิมลุ้นฮวบอ้วง

การที่ชาวยุทธ์เจ้าอินทรีส่งตาเอ่อปามาเปิดโปงแผนลับของราชบุตรฮั่วตูนับว่าเหมาะเจาะ

“เนื่องด้วยตาเอ่อปาจดจำออกว่าเขาเป็นซือตี๋จึงเสี่ยงชีวิตกับเขา การศึกษาที่ตำหนักเต้งเอี้ยง เอี้ยก่วยใช้กระบี่หนักเหล็กดำสะกดพิชิตตาเอ่อปากับฮั่วตู ฮั่วตูพลันดำเนินแผนอุบายทรยศอาจารย์หนีเอาตัวรอด”

ตาเอ่อปาจึงแค้นและเห็นชอบด้วยกับข้อเสนอของเอี้ยก่วยมาเปิดโปง การก็เป็นดังที่อึ้งย้งไขรหัสการก็ประลองยุทธ์ที่ฮ่อซืออั้วกระทำต่อเย่ลุกชี้

 

ฮั่วตู่ทรยศต่อสำนักอาจารย์ย่อมเกรงกลัวซือแป๋กับซือเฮียตามล่า ดังนั้น ปลอมแปลงโฉมเปลี่ยนเครื่องแต่งกายปะปนเข้าพรรคกระยาจก

แสร้งเป็นโง่เขลา เลอะเลือน ไม่เปล่งประกายแม้แต่น้อย

ใน 10 กว่าปีนี้เลื่อนตำแหน่งตามลำดับชั้นได้เป็น “ศิษย์ 5 กระสอบ” มิเพียงแต่ในพรรคกระยาจกไม่มีผู้ใดระแวงสงสัย มิหนำซ้ำ กิมล้วนฮวบอ้วงก็ตามหาไม่พบ

แต่ชนชั้นชั่วช้าที่ถือดีเช่นนี้ย่อมไม่ยอมกบดานไปชั่วชีวิต พอสบโอกาสต้องกระทำการใหญ่ วันนั้นลู่ปังจู้ออกนอกตัวเมืองไปลาดตระเวน คนผู้นี้หมอบซุ่มอยู่ด้านข้างพลันลงมืออำมหิต

แต่ตอนลงมือแสดงโฉมหน้าแท้จริงทั้งละเว้นชีวิตผู้คนให้ศิษย์พรรคกระยาจกฝากคำพูดมาว่า ผู้ที่ฆ่าลู่อูคาคือฮั่วตู หลังจากที่ช่วงชิงไม้เท้าตีสุนัขก็ซุกซ่อนอยู่ในกระบองเหล็กด้ามหนึ่ง รอจนพรรคเราดำเนินการคัดเลือกปังจู้

ก็เสนอหัวข้อ “เสาะหาไม้เท้าตีสุนัข” ขึ้นมา

นี่เป็นกฎบัญญัติสืบทอดติดต่อกันมาของพรรคเรา ยังมีผู้ใดโต้แย้งกับเขาได้ โอ้.. โจรโฉดฮั่วตู เจ้าอุบายความคิดถึงเพียงนี้

นับเป็นอัจฉริยะบุรุษผู้หนึ่ง

 

ขบคิดพิจารณาอย่างรอบด้านทั้งอึ้งย้ง ทั้งจูจื้อลิ้ว พลันสรุปออกมาตรงกันว่า นี่ย่อมเป็นอีกผลงานและความสำเร็จหนึ่งของเอี้ยก่วย

“เอี้ยก่วยผู้นี้ยอดเยี่ยมยิ่ง กลับล่วงรู้แผนอุบายของฮั่วตู

ทั้งช่วงชิงไม้เท้าตีสุนัขกลับมา และทั้งเปิดโปงโฉมหน้าแท้จริงของฮั่วตู ของขวัญที่มอบต่อก๊วยเซียงชิ้นนี้นับว่าไม่เล็กน้อย”

เท่ากับปลดปลิดปัญหาภายในให้กับพรรคกระยาจกอย่างสำคัญ