กรองกระแส / โฉมใหม่ การเมือง นวัตกรรม และเทคโนโลยี กับเลือกตั้ง 2562

กรองกระแส

โฉมใหม่ การเมือง

นวัตกรรม และเทคโนโลยี

กับเลือกตั้ง 2562

 

ไม่เพียงแต่ธนาคารจะถูก “ปรับโครงสร้าง” ไม่เพียงแต่สื่อมวลชนจะถูก “ปรับโครงสร้าง” หากเด่นชัดมากยิ่งขึ้นว่าการเมืองก็กำลังจะถูก “ปรับโครงสร้าง”

การเลือกตั้งในเดือนมีนาคม 2562 จะเป็นเครื่องพิสูจน์

มีความพยายามยกร่างกติกาผ่านรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 สร้างความได้เปรียบ มีการนำเอาอำนาจจากการรัฐประหารจัดแถวข้าราชการและองค์กรอิสระ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับการสืบทอดอำนาจอย่างน้อยที่สุด 4 ปี

แต่เมื่อประสบเข้ากับ “เทคโนโลยี” ที่ทะลวงเข้ามาภายในกระบวนการของการเลือกตั้ง ความพยายามอาจดำเนินไปในสภาพที่ว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามยังอยู่ที่นั่น

คำว่า “เทคโนโลยี” ในที่นี้มิได้ครอบคลุมแต่เพียงการเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างสูงของ “สื่ออิเล็กทรอนิกส์” หากแต่ยังเป็นนวัตกรรมใหม่ในทางการเมืองที่จะเข้าสู่กระบวนการเพื่อสกัดขัดขวางมิให้เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ประสบความสำเร็จ

แม้ว่า คสช.จะยังสามารถสืบทอดอำนาจได้ แต่ก็มิได้หมายความว่าการดำรงอยู่ในอำนาจจะเหมือนกับหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

 

กลยุทธ์แตกพรรค

กลยุทธ์ “เพื่อไทย”

 

ต้องยอมรับว่าการแยกแตกตัวของพรรคเพื่อไทยไปเป็นพรรคประชาชาติที่นำโดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา คือจุดเริ่มต้นโดยเน้นพื้นที่เฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นหลัก

จากพรรคประชาชาติก็เป็นพรรคไทยรักษาชาติ และรวมถึงพรรคเพื่อชาติ

แกนนำที่เข้าไปมีบทบาทในพรรคประชาชาติ พรรคไทยรักษาชาติ พรรคเพื่อชาติ ล้วนเคยสัมพันธ์กับพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย

ทั้งหมดนี้คือพรรคที่มีแนวทางสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทย เพียงแต่แยกกันเคลื่อนไหวเท่านั้น

น่าสังเกตว่าแม้ฝ่ายของ คสช.จะมีการแยกตัวในลักษณะเดียวกันนี้ ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็นพรรครวมพลังประชาชาติไทย ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังธรรมใหม่ หรือแม้กระทั่งพรรคประชาชนปฏิรูป

แต่ก็ต้องยอมรับว่าแม้ยุทธศาสตร์ของพรรคเหล่านี้จะหนุน คสช. แต่ยุทธศาสตร์ก็ไม่หนักแน่นและจริงจังเท่ากับพรรคที่แยกแตกตัวไปจากพรรคเพื่อไทย

นี่คือบาทก้าวสำคัญก้าวหนึ่งของฝ่ายที่จะสัประยุทธ์กับการสืบทอดอำนาจของ คสช.

 

การรุกคืบ ยึดครอง

ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

 

ไม่เพียงแต่จะมีการจัดรายการ Good Monday มาจากต่างแดนแสดงวิสัยทัศน์ที่รู้เท่าทันกับเทคโนโลยีโลก ขณะเดียวกันก็ประสานความจัดเจนนั้นมาเป็นข้อมูลหนึ่งในการแก้ไขปัญหาอันกำลังเกิดขึ้นในสังคมไทย

หากแต่ประสานไปกับการเคลื่อนไหวปราศรัยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ พรรคประชาชาติไทย พรรคเพื่อชาติ ได้ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ทางการเมืองอันแหลมคมยิ่ง

บรรดานักปราศรัยฝีปากกล้า ไม่ว่าจะเป็น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ไม่ว่าจะเป็นนายอดิศร เพียงเกษ ไม่ว่าจะเป็นนายจาตุรนต์ ฉายแสง ไม่ว่าจะเป็นนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ไม่ว่าจะเป็นนายจตุพร พรหมพันธุ์ ต่างเดินสายไปตามเวทีต่างๆ ด้วยความคึกคัก

จากนั้นรายละเอียดคำปราศรัยก็ปรากฏผ่านช่องทางของ “ยูทูบ” สามารถรับฟังแม้กำลังนอนอยู่ที่บ้านก็ตาม

เนื้อหาการปราศรัยเป็นไปในเนื้อหาเดียวกัน นั่นก็คือ สะท้อนให้เห็นอันตรายของการทำรัฐประหาร สะท้อนให้เห็นความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน สะท้อนให้เห็นปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชนตลอด 4 ปีภายหลังการอยู่ในอำนาจของ คสช.

การปราศรัยเหล่านี้มีเนื้อหาตรงกันข้ามและสวนกับที่ปรากฏผ่านรายการคืนวันศุกร์และทุกวันในตอนเย็นย่ำอย่างสิ้นเชิง

เป็นการนำเอายุทธศาสตร์ของการต้าน คสช.มาดำรงอยู่ในยุทธวิธีอันเหมาะสม

 

บทบาท เทคโนโลยี

การเมือง การเลือกตั้ง

 

หากประเมินจากนวัตกรรมในการแยกแตกตัวจากพรรคเพื่อไทย เป็นพรรคประชาชาติ เป็นพรรคไทยรักษาชาติ พรรคเพื่อชาติ เป็นต้น นี่คือการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ในทางการเมืองอันเป็นผลโดยตรงมาจากกฎกติกาของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560

เมื่อพิจารณาบทบาทของรายการ Good Moyday ประสานเข้ากับบทบาทการนำเอาคำปราศรัยของแต่ละคนนำเสนอผ่านช่องทางยูทูบ

นี่ไม่เพียงแต่เป็นการปรับประสานนวัตกรรมทางการเมืองให้สอดรับเข้ากับการเข้ามาของเทคโนโลยีอย่างใหม่ได้อย่างเหมาะสม หากแต่ในเนื้อหาของการปรับประสานทั้งหมดนี้คือ ทาง 1 วิพากษ์วิจารณ์ความผิดพลาดล้มเหลวในการบริหารจัดการของ คสช.

ขณะเดียวกัน ทาง 1 นำเสนอวิสัยทัศน์อันมีลักษณะก้าวหน้าและไต่ระดับไปกับเทคโนโลยีของโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

    ผลการเลือกตั้งในเดือนมีนาคม 2562 จะเป็นคำตอบว่าการใช้ยุทธวิธีเช่นนี้จะช่วยให้พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยรักษาชาติ พรรคเพื่อชาติ บรรลุยุทธศาสตร์ทางการเมืองในการต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช.ได้หรือไม่