ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 25 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2559 |
---|---|
คอลัมน์ | Pop Teen |
เผยแพร่ |
ตอนที่แล้วผมได้พูดเหตุผลของปรากฏการณ์แอนิเมชั่นญี่ปุ่น Your Name ฮิตระเบิดในเมืองไทยไปแล้ว
ในตอนนี้จะมาทำความรู้จักกับผู้กำกับฯ เรื่องนี้ให้มากขึ้นนะครับ
และแน่นอนว่าผู้ที่เล่าประวัติให้ผมดีกว่าใครก็คือคุณ “ภูภู่” แฟนพันธุ์แท้ของ มะโกโตะ ชินไค นั่นเอง
ภูภู่เล่าว่า มะโกะโตะ ชินไค จบเอกศึกษาวรรณกรรมญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยชูโอ ในปี 1994
อาชีพแรกที่เขาทำหลังเรียนจบคือกราฟิกดีไซเนอร์ให้กับบริษัทเกม Falcom นานกว่า 5 ปี
ระหว่างนั้นเขาได้ทดลองทำแอนิเมชั่นขนาดสั้น ชื่อ “Other Worlds” (1997) เกี่ยวกับชายหญิงคู่หนึ่งและความสัมพันธ์ของพวกเขา ที่เล่าเรื่องด้วยภาพขาว-ดำ มีการใช้เทคนิคภาพกราฟิก 3 มิติ และใช้เพลงประกอบจาก Erik Satie นักเปียโนคลาสสิคชาวฝรั่งเศส
ทั้งหมดนี้เขาทำด้วยตัวคนเดียว
เรื่องนี้เริ่มมีซิกเนเจอร์ของชินไค นั่นคือ “ฉากในรถไฟ”
ปี 1999 ชินไคได้สร้างแอนิเมชั่นขนาดสั้นเรื่อง “She and Her Cat” ขึ้นมา ซึ่งเรื่องนี้หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องแรกของชินไค แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ เพราะเรื่องนี้เป็น “เรื่องที่ได้รับรางวัลเรื่องแรก” ต่างหาก
She and Her Cat คือแอนิเมชั่นขาว-ดำ ยาว 5 นาที กล่าวถึงเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในห้องเช่าเล็กๆ กลางโตเกียวกับแมว โดยเป็นการเล่าเรื่องผ่านมุมของของแมว ซึ่งชินไคให้เสียงพากย์เป็นแมวด้วยตัวเอง และให้แฟนสาวพากย์เป็นผู้หญิงในเรื่อง
แอนิเมชั่นเรื่องนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศ DoGA CG Animation Contest ในปี 2000 จนทำให้ชื่อของชินไคกลายเป็นที่รู้จัก
หลังจากประสบความสำเร็จจาก She and Her Cat ชินไคก็เริ่มมีแผนจะลาออกจากบริษัทเกม Falcom แล้วออกมาทำแอนิเมชั่นอย่างจริงจัง
ตอนนั้นเขาเริ่มคิดที่จะทำเรื่องใหม่ และได้วาดภาพของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งในห้องนักบินไว้ในโทรศัพท์มือถือ เพื่อสเก๊ตช์เป็นไอเดีย
ปี 2001 ชินไคลาออกจากบริษัทเกม Falcom เนื่องด้วยบริษัท Manga-Zoo Comics & Animation บริษัทสัญชาติอเมริกา เล็งเห็นถึงศักยภาพของชินไคและได้เสนอที่จะมอบเงินทุนให้ทำแอนิเมชั่นแบบจริงจัง
ชินไคใช้เวลา 7 เดือน สร้างแอนิเมชั่นความยาว 25 นาที “Voices of a Distant Star” (เสียงเพรียกจากดวงดาว) ผลงานแอนิเมชั่นภาพสีชิ้นแรกขึ้นมา โดยมีทีมงานฝั่งโปรดักชั่นทั้งสิ้น 3 คน หนึ่งคือนักแต่งเพลง ชื่อ Ten-mon และนักพากย์อีกหนึ่งคน ส่วนงานอื่นๆ ที่เหลือคือ อำนวยการสร้าง, วาดภาพ, กำกับฯ, พากย์เสียง, ออกแบบตัวละคร, ลำดับการเคลื่อนไหว, คอมพิวเตอร์กราฟิกนั้น…
ชินไคเหมาเองคนเดียวทั้งหมด!
ไม่มีใครเชื่อว่าคนคนเดียวจะทำงานทั้งหมดได้ เพราะผลงานของเขามีคุณภาพและฉากหลังก็อลังการ นอกจากนี้ ยังมีหุ่นยนต์ 3 มิติบินไปมา และมีสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ที่ล้ำมาก
ผมถามภูภู่ว่าชินไคทำคนเดียวได้อย่างไร?
คำตอบคือ เนื่องจากชินไคเป็นคนทำงานทางด้านกราฟิกมาก่อน โปรแกรมที่เขาถนัดคือ LightWave, Adobe Photoshop 5.0, Adobe After Effects 4.1 และ Commotion 3.1 DV Software แล้วใช้เวลา 7 เดือนกับเครื่องคอมพิวเตอร์ Power Mac G4 และการ์ดจอขนาด 16 MB เพียงเครื่องเดียวในการทำงานคนเดียว
ทั้งหมดทำได้ด้วยการใช้โปรแกรมหลายๆ ตัวมาประยุกต์สร้างผลงานล้วนๆ ทำให้ชินไคกลายเป็นคนแรกๆ ที่ทำลายข้อจำกัดที่ว่า “แอนิเมชั่นเป็นงานต้องทำกันเป็นสตูดิโอ” เพราะเขาทำให้เห็นแล้วว่าคนเดียวก็ทำแอนิเมชั่นเรื่องยาวได้ ขอแค่มีเครื่องมือที่เหมาะสม
กับความบ้าพลังและความขยันที่สุดยอด
แอนิเมชั่นเรื่องนี้กวาดรางวัลมากมายและเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง โดยเฉพาะประเด็นงานภาพที่ทรงพลังและงดงามอย่างยิ่ง ที่สร้างขึ้นโดยคนเพียงคนเดียว
ปี2007 ภาพยนตร์ที่สร้างชื่อและโด่งดังที่สุดของชินไค อย่าง 5 Centimeters Per Second หรือยามซากุระร่วงโรย ก็ออกสู่สายตาสาธารณชน
ภาพยนตร์ที่ว่าด้วยความเหงา เศร้า ในชีวิตวัยรุ่น กับเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งกับคนรักในวัยเด็กที่ต้องห่างกัน แต่แม้เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ชายหนุ่มยังฝังตัวอยู่กับคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับเด็กผู้หญิงที่เขารัก
5 Centimeters Per Second กวาดรางวัลมามากมาย ทั้งรางวัล Asia Pacific Screen Awards, Lancia Platinum และ Future Film Festival สาขาแอนิเมชั่นและเทคนิคยอดเยี่ยม
และเป็นปีที่ชินไคได้ก่อตั้งสตูดิโอเพื่อสร้างงานแอนิเมชั่นสำหรับงานภาพยนตร์และโฆษณา ที่ชื่อว่า “CoMix Wave Films, Inc.” อย่างเป็นทางการ
งานชิ้นต่อๆ มาของชินไค เริ่มมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ทั้ง A Gathering of Cats แอนิเมชั่นขนาดสั้นเกี่ยวกับแมวที่ต้องการยึดครองโลก เพื่อเข้าร่วมในซีรี่ส์รวมแอนิเมชั่นขนาดสั้นจาก 15 นักสร้างแอนิเมชั่นญี่ปุ่น “Ani*Kuri15” ฉายทางช่อง NHK ในปี 2007
หรือภาพยนตร์เรื่องใหญ่ที่ชินไคหมายมั่นปั้นมือมากว่า 3 ปีเต็มอย่าง Children Who Chase Lost Voices (หรือชื่อไทย “เด็กสาวกับเสียงเพรียกแห่งพิภพเทพา”) เนื้อหาเกี่ยวกับเด็กสาวชั้นมัธยมปลาย ผู้สูญเสียพ่อและอยู่อาศัยกับแม่ที่เป็นนางพยาบาล ชอบฟังวิทยุแร่ที่รับสัญญาณเสียงเพลงประหลาดที่ไพเราะ และตำนานว่าด้วยหินลึกลับ กับการฟื้นคืนชีพให้คนรักที่ตายไป
และในปี 2013 เขาก็ปั้นแอนิเมชั่นอีกเรื่องชื่อ “The Garden of Words” (2013) หรือชื่อไทย “ยามสายฝนโปรยปราย” เรื่องเกี่ยวกับความรักของเด็กหนุ่มกับหญิงสาวอายุมากกว่าที่เจอกันในสวนสาธารณะ โดยมีเรื่องความฝันและหน้าที่การงานเข้ามาเกี่ยวข้อง นอกจากความเหงาและดราม่าที่เหมือนเดิม รอบนี้ชินไคเพิ่มเติมงานภาพที่อลังการจัดเต็มขึ้นอย่างมาก
ก่อนที่จะมาดังเป็นพลุแตกกับ Your Name
ภูภู่บอกผมว่าแอนิเมชั่นเรื่องนี้เป็นการรวมซิกเนเจอร์ทุกอย่างของชินไคไว้ทั้งหมดภายในเรื่องเดียว นับตั้งแต่เขาสร้างแอนิเมชั่นมาตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปี
นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก็คือ มะโกะโตะ ชินไค ได้พบกับ Masayoshi Tanaka นักออกแบบตัวละครชื่อดัง ที่ออกแบบตัวละครให้เรื่องดังหลายเรื่อง
ชินไค เคยกล่าวถึง ทานากะ ว่า
“ตัวละครของคุณทานากะ นั้นน่ารักและดูดี เคยเห็นฝีมือตั้งแต่ตอนที่ทำโฆษณา “Cross Road” ด้วยกันแล้วก็พอที่จะจินตนาการออก ทั้งเขาก็ยังวาดตัวเอกที่ทุกคนชอบออกได้ และกลายเป็นตัวละครที่รวมส่วนที่สวยงามของภาพไว้ด้วยกัน”
สำหรับผม Your Name เป็นมากกว่าหนังวัยรุ่นสลับร่าง
แต่ความสัมพันธ์เรื่องเวลาและความรัก ธรรมชาติกับความเชื่อ ฉากอลังการกับการทำลายล้างของดาวหาง
ทำให้รู้สึกเหงาแต่อิ่มเอม
เศร้าแต่งดงาม
ปวดร้าวแต่ก็สุขใจ