วิธีคิดเป็นตามแนวพุทธธรรม : คิดแบบคุณค่าแท้และคุณค่าเทียม

วันนี้ขอว่าด้วยแนววิธีคิดเป็นตามแนวพุทธธรรมแบบที่ 7 คือ “คิดแบบคุณค่าแท้และคุณค่าเทียม”

วิธีคิดแบบนี้ว่าที่จริงแล้วมันเกี่ยวข้องกับ “ความต้องการ” และ “การประเมินคุณค่า”

ถ้าคิดเพียงแต่จะสนองตัณหาของตน ไม่ว่ากับสิ่งใด ก็เป็นการคิดด้วยคุณค่าเทียม

แต่ถ้าคิดถึงแก่นหรือคุณประโยชน์ที่แท้จริงของสิ่งนั้น ก็เรียกว่าคิดด้วยคุณค่าแท้

คนเรานั้นถ้าเอาความต้องการนำหน้า จะต้องการไม่มีที่สิ้นสุด ไม่เชื่อก็เอาตัวเองวัดดูก็ได้ วันๆ อยากได้อะไรต่อมิอะไรจนนับไม่ถ้วน นั่งดูโทรทัศน์อยู่กับบ้าน เห็นโฆษณาขายนั่นขายนี่ รู้สึกอยากได้ไปหมด

ไอ้นั่นก็ดี ไอ้โน่นก็ดี น่าซื้อ น่ากิน เดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าเห็นเสื้อผ้าสวยๆ เพชรนิลจินดาวูบวาบแวววาว แหมมันทำให้น้ำลายไหล

อยากได้มาครอบครองทั้งนั้น

มีนิทานชาดกเรื่องหนึ่งชื่อ มันธาตุราชชาดก (ถ้าจำผิดก็ขออภัยไม่มีเวลาตรวจสอบ) ว่ากันว่าพระราชาพระองค์หนึ่ง พระนามว่า มันธาตุราช เป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์เพียงแค่ปรบพระหัตถ์ ฝนรัตนะก็ตกลงมาจากนภากาศสูงเพียงเข่า

อยากได้อะไรนิรมิตเอาได้ด้วยอิทธิฤทธิ์ ว่ากันอย่างนั้น

ครอบครองความยิ่งใหญ่เหนือพื้นปฐพีเป็นเวลายาวนาน

วันหนึ่งเกิดเบื่อเซ็งขนาดหนัก จึงถามพวกอำมาตย์ทั้งหลายว่ามีที่ไหนที่น่ารื่นรมย์กว่าเมืองมนุษย์บ้างไหม ข้าเบื่อเต็มทีแล้วอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง

พวกอำมาตย์กราบทูลว่าก็มี เมืองสวรรค์ชั้นฟ้าทั้งหลายนั้นแหละ น่ารื่นรมย์กว่าเมืองมนุษย์

มันธาตุราชจึงกระซิบสั่ง “จักรรัตนะ” (จักรแก้วกายสิทธิ์) ว่าจงนำเราไปยังสวรรค์ จักรแก้วก็นำไปสู่ชั้นจาตุมหาราชิกา ท้าวจาตุมหาราชทั้ง 4 ก็พากันมาต้อนรับเชื้อเชิญให้อยู่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราช

พักหนึ่งมันธาตุราชก็เบื่อ จึงอำลาท้าวจาตุมหาราชทั้ง 4 เดินทางต่อไปยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ท้าวสักกเทวราช (พระอินทร์) ก็ต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี แบ่งราชสมบัติให้ครอบครองกึ่งหนึ่ง

มันธาตุราชเสวยสุขบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เป็นเวลาเนิ่นนาน มีความสุขหาใดเปรียบปานมิได้ จึงคิดอกุศลว่า เรื่องอะไรเราจะครองราชสมบัติเพียงแค่กึ่งเดียว เราควรจะจัดการสำเร็จโทษท้าวสักกะเสีย ครอบครองสวรรค์ทั้งหมดแต่ผู้เดียวดีกว่า

ด้วยความโลภความอยากอันลามกนี้ มันธาตุราชก็เสื่อมทันทีคือร่างกายที่ไม่รู้จักแก่มาแต่ก่อนก็มีอันร่วงโรย ความชราภาพเข้ามา ค่อยกลายสภาพเป็นคนแก่หง่อม ทรุดโทรมลงตามลำดับๆ จนใกล้จะถึงกาลแตกดับ

ว่ากันว่าร่างมนุษย์จะแตกดับในเทวโลกไม่ได้ พระเจ้ามันธาตุราชจึงตกลงมายังพระราชอุทยานของพระองค์เอง

มันธาตุราชเป็นตัวแทนของมนุษย์ปุถุชนทั้งหลาย แสดงให้เห็นว่า มนุษย์เรานั้นต่อให้มีฤทธิ์เดชสามารถบันดาลอะไรๆ ต่อมิอะไรได้ดังปรารถนา ความปรารถนาก็ไม่มีที่สิ้นสุด คืออยากได้ไม่รู้จบสิ้น ขนาดขึ้นไปบนสวรรค์ ได้ครองราชสมบัติในสวรรค์ครึ่งหนึ่ง ยังไม่พอใจ

โลภมากอยากได้ครอบครองทั้งหมด

พระพุทธเจ้า จึงตรัสเตือนให้คิดว่า

“ถึงกหาปณะ (กษาปณ์ หรือเงินทอง) จะตกลงมาเป็นห่าฝน ความต้องการของคนก็หาถึงจุดอิ่มไม่ คนฉลาดเขารู้ว่า กามทั้งหลายมีความสุขเล็กน้อย แต่มีความทุกข์มาก จึงไม่ยินดีในกามแม้ที่เป็นทิพย์”

อย่างไรก็ตาม มนุษย์ปุถุชนย่อมมีความต้องการ พระพุทธศาสนาเองก็มิได้ห้ามมิให้มนุษย์ต้องการและแสวงหาสิ่งที่ต้องการเพียงแต่สอนให้รู้จัก “จำกัด” ความต้องการลงให้เหลือเท่าที่จำเป็นไม่ต้องการฟุ่มเฟือยเกินจำเป็น จนกลายเป็นแสวงหา “ส่วนเกิน”

ความจำเป็นเป็นขั้นพื้นฐานคือ ปัจจัย 4 เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนจะพึงแสวงหามาบำรุงชีวิต และในการบริโภคอุปโภคปัจจัย 4 นั้นก็ต้องบริโภคและอุปโภคด้วย “ปัญญา” มิใช่เพื่อสนองตัณหา

พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ รู้จักใช้สอยปัจจัย 4 ด้วยคุณค่าแท้ มิใช่ด้วยคุณค่าเทียม คือเราไม่เอาความต้องการนำหน้า แต่ใช้ปัญญาประเมินค่าอย่างแท้จริงว่า

เรากินเราใช้สิ่งเหล่านั้นเพื่อ “ประโยชน์ที่แท้จริง” อย่างไร

ยกตัวอย่างการกินอาหาร จะเห็นความแตกต่างกันระหว่างกินด้วยคุณค่าเทียม กับกินด้วยคุณค่าแท้

บางคนขับรถพาครอบครัวไปไกลๆ เพื่อกินก๋วยเตี๋ยวเพียงชามสองชาม บางทีไกลถึงร้อยสองร้อยกิโลเมตร

ก๋วยเตี๋ยวอย่างเดียวกันนี้ สามารถหากินที่อื่นที่ใกล้ๆ บ้านมากมายหลายสิบล้าน แต่เขาไม่กิน ตั้งใจจะไปกินที่ร้านไกลๆ ดังกล่าวท่าเดียว

ถามว่า ทำไม ตอบว่า เพราะได้ทราบว่าร้านดังกล่าวก๋วยเตี๋ยวอร่อยที่สุด ได้รับการกล่าวขวัญถึงกว้างขวางแถม “เชลล์ชวนชิม” อีกต่างหาก บรรยากาศในร้านก็หรู ไม่กระจอกเหมือนร้านก๋วยเตี๋ยวทั่วไป คนใหญ่คนโต คนมีชื่อเสียงและมหาเศรษฐีหลายคนก็ไปกินที่ร้านนี้ทั้งนั้น

นี่แหละครับเรียกว่า กินก๋วยเตี๋ยวด้วยคุณค่าเทียม ก๋วยเตี๋ยวร้านนี้อร่อยที่สุด ได้ตรา “เชลล์ชวนชิม” คนใหญ่คนโต รวมทั้งมหาเศรษฐีมากินประจำ บรรยากาศในร้านก็หรูไม่กระจอก

ราคาก็แพงกว่าที่อื่น เรียกว่าก๋วยเตี๋ยวคนมีระดับอะไร ทำนองนั้น

ทั้งหมดนี้มิใช่วิธีที่คิดเกี่ยวกับการกินก๋วยเตี๋ยวที่ถูกต้องเลยที่ถูกนั้นคนจะกินอาหารน่าจะดูว่า

อาหารชนิดนี้มีคุณค่าทางอาหารหรือมีสารอาหารเพียงพอหรือไม่ เป็นประโยชน์แก่ร่างกายหรือไม่ ความอร่อยนั้นน่าจะเป็นเรื่องรอง มากกว่าอาหารที่มีคุณค่าสะอาด ถูกอนามัย ไร้สารพิษถึงจะไม่อร่อยมากนัก ก็น่าจะดีกว่า

ยิ่งความหรูหรา ราคาแพง กินแล้วรู้สึกโก้เก๋ เป็นเกียรติยศด้วยแล้ว ยิ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย

เพราะคุณค่าแท้ๆ ของการกินอาหารคือ เพื่อบำรุงร่างกายให้เจริญเติบโตแข็งแรงปราศจากโรคภัย มีพลังในการดำรงชีวิต

ไม่เฉพาะแต่เรื่องการกินการใช้ปัจจัย 4 ในเรื่องอื่นๆ เช่น เรื่องอาชีพก็เช่นกัน คนที่คิดถึงคุณค่าแท้ของอาชีพ จะมองไปที่ “แก่น” ของอาชีพนั้นๆ มากกว่ามอง “ภาพลวงภายนอก”

ถามเด็กหนุ่มสาวว่า หลังจากเรียนจบแล้วอยากเป็นอะไร

เด็กหนุ่มหลายคนบอกว่า อยากเป็นทหาร

หญิงสาวหลายคนบอกว่า อยากเป็นแอร์โฮสเตส

หลายคนอาจคิดถึงอาชีพทหารเพียงคุณค่าเทียมคือ เห็นว่าเป็นทหารนั้นโก้ เครื่องแบบสวยงามผึ่งผาย ยิ่งเครื่องแบบทหารเรือแล้วโก้เก๋เหลือเกิน แต่งเครื่องแบบเดินไปไหนมาไหนสาวๆ มองตาเป็นมันเชียว

มียศสูงๆ เป็นนายพลมีอำนาจวาสนา เผลอๆ มีโอกาสปฏิวัติรัฐประหารได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็อาจเป็นได้

คิดอย่างนี้เรียกว่า คิดถึงอาชีพทหารด้วย คุณค่าเทียมมองเห็นแต่ภาพลวงภายนอก ไม่ใช่ “แก่นแท้” ของอาชีพที่ต้องฝึกฝนตนเองอย่างเผชิญต่ออันตรายทุกชนิด ซื่อสัตย์ต่อประเทศชาติและแผ่นดิน ยอมสละแม้กระทั่งชีวิตเพื่อเอกราชอธิปไตยของประเทศ

คนที่คิดถึงอาชีพทหารแบบนี้ และอยากเป็นทหารเรียกว่า รู้คุณค่าแท้ของการเป็นทหาร

สาวๆ หลายคนอยากเป็นแอร์โฮสเตส เพียงเพราะคิดว่าเป็นงานสบายเดินเตร่ไปเตร่มาบนเครื่องบิน ได้ไปเที่ยวต่างประเทศ ได้พบปะคนหลายชาติ หลายภาษา มีโอกาสซื้อสินค้าแพงๆ ตามศูนย์การค้าต่างประเทศ ผ้าพันคอผืนละสองพันบาทยี่ห้ออีฟส์แซงต์ ถือกระเป๋ากุชชี่สวยหรู ใช้เครื่องสำอางมิลเลเนียม

เผลอๆ บุญมาวาสนาส่งได้พบชายรูปหล่อร่ำรวยมีบ้านอยู่หุบเขาสวยหรู อยู่แถวๆ สวิตเซอร์แลนด์ โอ๊ย ช่างสุขสบายอะไรเช่นนั้น

สาวๆ พวกนี้ “ฝันกลางวัน” กันทั้งนั้น เพราะคิดถึงอาชีพแอร์โฮสเตส ด้วยค่าเทียม

หารู้ไม่ว่าคนจะเป็นแอร์ได้นั้น จะต้องได้รับการคัดสรรมาอย่างดี และต้องได้รับการฝึกฝนอย่างหนัก ต้องมีสุขภาพสมบูรณ์ความสวยเป็นเพียงส่วนประกอบ ไม่ถึงกับสวยมาก แต่ดูดีมีความรู้ความสามารถขยัน อดทนสามารถปรับตัวเอง เพื่อเผชิญความเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็นเวลา หรือสถานที่ ลมฟ้าอากาศ

งานบริการบนเครื่องบินที่มีผู้โดยสารเป็นร้อยนั้นหนักยิ่งนัก ต้องเดินเสิร์ฟอาหาร เครื่องดื่มวันละหลายเที่ยว

ต้องเอาใจผู้โดยสาร ซึ่งมีสารพัดประเภท สารพัดอารมณ์

คนไม่มีอิทธิบาท 4 เป็นแอร์โฮสเตสที่ดีได้ยาก

คนที่มีวิธีคิดแบบคุณค่าแท้มักจะเป็นคนใช้ปัญญาพิจารณาอย่างรอบคอบ มีความเข้าใจเหตุและผล มองอะไรรอบคอบครบวงจร สามารถเลือกและตัดสินใจได้ถูกต้อง

เพราะเหตุฉะนี้แลพระพุทธเจ้าจึงตรัสสอนให้ฝึกคิดแบบคุณค่าแท้เสมอๆ และนำไปปรับใช้กับทุกสิ่งทุกอย่างในการดำเนินชีวิต