ประเด็นล่อแหลม ครอบงำพรรค โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

สถานีคิดเลขที่ 12/สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

————————

ครอบงำ

————————

รายการ”กู้ด มันเดย์” ผ่านพอดแคสต์ ของนายทักษิณ ชินวัตร

ไม่ต้องวิเคราะห์ให้สลับซับซ้อน

ฟันธงไปเลยว่า มุ่งหวังผลต่อการเลือกตั้ง ที่จะเกิดขึ้น

ชัดเจน

ส่วนจะเรียกเรตติ้ง ได้ขนาดไหนต้องติดตาม

หากเงียบสนิท ฝ่ายตรงข้ามก็คงไม่สนใจ

แต่หากเรตติ้งพุ่งพรวด

แถม กลายเป็นการเปรียบเทียบ รายการทุกวันศุกร์ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาด้วยแล้ว

“กู้ด มันเดย์” เป็น”จันทร์เดือด”แน่ๆ

ต้องไม่ลืม ตอนนี้ เรื่องการครอบงำพรรค กลับมาเขย่าขวัญพรรคฟากนายทักษิณ อีกครั้ง

เมื่อ คณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.) เคลื่อนไหวเงียบๆ ตาม สอบคนที่ไปพบนายทักษิณที่เมืองนอก

ที่สอบไปแล้วก็เช่น นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล

แสดงว่า การเคลื่อนไหวแบบ “กัดไม่ปล่อย” เพื่อจับฟาวล์ฝ่ายนายทักษิณ ยังมีอยู่

และสอดส่ายหาประเด็น อย่างต่อเนื่อง

จึงอย่าประหลาดใจ หากรายการ “กู้ด มันเดย์” ของนายทักษิณ เกิดฮอตฮิต และเป็นหนามแทงใจเจ้าของรายการคืนวันศุกร์

จะเป็นรายการถูกประกบติดใกล้ชิดว่า มีประเด็นอะไรที่ล่อแหลม ต่อการลากเข้าข้อหา “ครอบงำพรรค”หรือไม่

ประสานายห้าง “ทักษิณ ชินวัตร” ขึ้นชื่ออยู่แล้ว พูดอะไรมักไม่กลัวใคร เมื่อ พูดบ่อย พูดมัน พูดติดลม อาจมีเผลอไปส่อแสดง การครอบงำพรรค ขึ้นมา

รับรอง เป็นเรื่องแน่

ซึ่งก็อย่าไปคาดหวังว่าจะได้รับ เป็น ธรรม หรือ ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมจาก ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

โดยเฉพาะ กกต. ที่หวังว่าเป็น “กรรมการ” ที่ทรงไว้ซึ่งความเป้นกลางนั้น

คงต้องคิดใหม่

วันเลือกตั้งที่อึมครึมๆ อยู่ตอนนี้ เชื่อหรือว่า กกต. ดำรงความเป็นอิสระไม่ได้เคลื่อนไหวไปตามเกมของฝ่ายรัฐบาล

ดังนั้น การที่ฝ่ายนายทักษิณ จะไปคาดหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรม จาก กรรมการ คงต้องพิจารณาให้หนัก

สู้ ใช้วิธีการ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน น่าจะดีที่สุด

คืออยากเผลอไป สร้างประเด็น หรือสร้างเงื่อนไข ให้ใครมาไล่เบี้ย เรื่องการครอบงำพรรค

แม้นายวรวัจน์ จะตั้งคำถามที่ดี ว่า ทำไม 4 กุมาร แห่งพรรคพลังประชารัฐ ไปมีปฏิสัมพันธ์กับ คนในรัฐบาล และนำมาใช้เป็นแนวทางพรรคแบบ ลอกเอานโยบายรัฐบาลมาทั้งดุ้น

กกต.ไม่ไปสอบบ้างว่ามีการพยายามครอบงำพรรคพลังประชารัฐ

หรืออย่างกรณี ที่มีแกนนำจากฟากการเมืองของพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นเวทีประกาศนโยบาย แจก”โฉนดทองคำ”

โดยอ้างผลสำรวจความต้องการของชาวบ้าน พบว่าสิ่งที่ชาวบ้านต้องการสูงมากนั่นคือ แปลงที่ดินสปก.4-01 เป็นที่ดินมีกรรมสิทธิ์ สามารถนำไปแปลงเป็นประโยชน์ได้

แต่ผ่านไปไม่กี่วัน มีเสียงฮึ่มฮั่ม จากทำเนียบ ว่าไม่เห็นด้วย และไม่มีนโยบายที่จะให้นำที่ดินสปก.4-01 ไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นนอกจากใช้เป็นที่ทำกิน

ทำเอา แกนนำในฟากทำเนียบส่งสัญญาณไปยังแกนนำฝ่ายการเมือง ถอยนโยบายโฉนดทองคำ ทั้งที่ประกาศเป้นที่เอิกเกริกไปแล้ว

อย่างนี้ ไม่รู้ว่า เข้าข่าย “คนนอก” ครอบงำ พรรคการเมืองหรือไม่

แต่ก็นั่นแหละ ตัวอย่างข้างต้น ก็เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น

จะแปรไปสู่การสอบสวนของกกต.ก็คงเป็นเรื่องยาก

ถึงจะมีคนไปร้อง ก็ใช่ว่าจะมีการขานรับ หรือเอาการเอางานอย่างที่ฟากนายทักษิณเจอ

เรื่องเช่นนี้ ก็รู้อยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร

จึงสรุปดื้อๆลงที่ว่า “กู๊ด มันเดย์”ของนายทักษิณมีโอกาสที่จะพุ่งทะยานเป็น “จันทร์เดือด”

และก็มีสิทธิถูกจ้องจับฟาวล์ ครอบงำพรรค อยู่ทุกคำพูด เช่นกัน!