ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

เทียบฟอร์ม 3 รถครอบครัว

เซียนต้า-บีอาร์วี-เอ็กซ์แพนเดอร์

 

หลังจากผมเสนอบททดสอบรถยนต์ครอบครัวขนาดเล็ก “มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์” ไปในฉบับที่แล้ว มีแฟนานุแฟนส่งข้อความผ่านอีเมล และแฟนเพจ “khaosod motor” ที่ผมดูแลอยู่ ให้ช่วยเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาดให้หน่อย ว่ารุ่นไหนดี รุ่นไหนเด่นอย่างไรบ้าง เพื่อประกอบการตัดสินใจ

แน่นอนว่าคนที่กำลังเล็งรถครอบครัวขนาดเล็กอยู่ มีตัวเลือกอยู่หลายค่าย แต่หลักๆ ไม่พ้นรุ่นยอดนิยมอย่าง “โตโยต้า เซียนต้า” และ “ฮอนด้า บีอาร์-วี”

เนื่องจากเป็น 2 ค่ายที่ฮิตสุดในเมืองไทย

อีกทั้งราคาค่าตัวของรถทั้ง 3 รุ่นอยู่ในเรตเดียวกันต่างกันหลักหมื่นเท่านั้น แถมมีให้เลือก 2 รุ่นย่อยเหมือนกันอีกด้วย

แม้ชื่อชั้นแล้วในบ้านเราแบรนด์ “มิตซูบิชิ” อาจได้รับความนิยมน้อยกว่าโตโยต้าและฮอนด้า แต่สำหรับรถทั้ง 3 รุ่นนี้ มิตซูบิชิได้เปรียบที่ความใหม่

เรามาเทียบกัน “ช็อตต่อช็อต” เลยว่ารถแต่ละรุ่นเป็นอย่างไรกันบ้าง

 

เริ่มจากรูปลักษณ์ภายนอกมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ หน้าตาทันสมัยมากเพราะถอดมาจากรถต้นแบบ XM Concept ไฟหน้าฮาโลเจนติดตั้งอยู่ค่อนข้างต่ำ มีไฟหรี่ Crystal LED

ด้านล่างไฟหน้าเป็นไฟเลี้ยว ต่ำลงไปอีกเป็นไฟตัดหมอก ติดตั้งบริเวณชายล่างคล้ายๆ สเกิร์ต

ด้านท้ายอาจจะไม่โฉบเฉี่ยวมากนัก ไฟท้ายแบบ L-Shape ฝาประตูท้ายขนาดใหญ่เปิดได้กว้าง ล้อแม็กซ์ลายเท่แบบทูโทนดูมีมิติ ขนาด 16 นิ้ว

ส่วนฮอนด้า บีอาร์-วี เป็นมินิเอสยูวี ที่แม้จะใช้พื้นฐานเดียวกับ “บริโอ” อีโคคาร์ของค่าย แต่การออกแบบไม่มีคราบของบริโอให้เห็นแม้แต่น้อย ออกแนวเอสยูวีหล่อๆ กระจังหน้าคาดโครเมียมขนาดใหญ่ ไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์ทรงเรียวเล็กเชื่อมต่อกับกระจังหน้า ต่ำลงมาเป็นช่องไฟตัดหมอก

โป่งล้อพร้อมคิ้วสีดำเป็นชิ้นเดียวกับกันกระแทกใต้กันชนหน้า ที่ออกแบบให้มีมิติ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถเอสยูวี ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 195/60 ชายล่างด้านข้างเป็นสีดำ เชื่อมระหว่างชายด้านหน้าและด้านหลังลื่นไหลเป็นเส้นเดียวกัน ไฟท้ายแบบ C shape ด้านบนติดราวหลังคามาให้ด้วย

โตโยต้า เซียนต้า กระจังหน้าขนาดใหญ่สีดำพร้อมโลโก้ ต่ำลงมาเป็นช่องดักลมสีดำ มีเส้นสีดำเชื่อมชายล่างกับไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์ Bi-Beam LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Lights แบบ LED กระจกมองข้างพับ/ปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว

ประตูด้านท้ายขนาดใหญ่ โดยมีเส้นสายสีดำบริเวณชายล่างลากเชื่อมไปยังไฟท้ายทั้ง 2 ด้าน

หากมองภายนอกมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ดูทันสมัยกว่าเพื่อน ขณะที่ฮอนด้า บีอาร์-วี ได้ความสปอร์ตลุยนิดๆ ส่วนโตโยต้า เซียนต้า หน้าตาดูเป็นรถครอบครัวธรรมดาๆ แต่ได้เปรียบตรงที่ประตูผู้โดยสารเป็นแบบ “สไลด์ไฟฟ้า” สามารถเปิด-ปิดได้จากที่นั่งคนขับ ขึ้นรถได้สะดวกกว่ารถอีก 2 รุ่นปิดด้วยระบบไฟฟ้า สามารถเปิด-ปิดได้จากที่นั่งคนขับ

แต่เนื่องความสูงจากพื้นแล้ว มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ได้เปรียบที่สุด

 

ภายในโตโยต้า เซียนต้า เน้นโทนดำ คอนโซลหน้ามีแถบเส้นสีเงินพาดขวาง และแทรกไว้เป็นจุดๆ มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron จอแสดงข้อมูลขับขี่ MID (Multi-information display) แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว พวงมาลัยไฟฟ้า พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ตรงกลางเป็นจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมเครื่องเล่น DVD / CD / MP3 / WMA และแสดงภาพจากกล้องมองขณะถอยหลังด้วย

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ควบคุมอุณหภูมิแบบ Digital ระบบสตาร์ตอัจฉริยะ (Push Start) และระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Smart Entry) ที่เก็บของบริเวณคอนโซลหน้า พร้อมระบบรักษาความเย็น (Cool Box) เกียร์อัตโนมัติแบบขั้นบันได

เบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง เบาะ 2 แถวหลังพับได้หลากรูปแบบ ในจังหวะเดียว เพดานเจาะช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และมีจอ LED ขนาด 8 นิ้วฝังอยู่ด้วย (อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษเพิ่มเติม) ทุกที่นั่งจะเจาะช่องวางแก้ว-เก็บของเอาไว้เพื่อความสะดวก

ฮอนด้า บีอาร์-วี พวงมาลัย 3 ก้านผ่อนแรงด้วยระบบไฟฟ้า มีปุ่มสตาร์ต คอนโซลหน้าคล้ายคลึงกับซิตี้คาร์ของค่าย มาตรวัดเรืองแสงสีขาว พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID ไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ มีหน้าจอสัมผัสขนาด 6.1 นิ้ว ที่รองรับทั้งระบบไอโอเอส และแอนด์ดรอยด์ สามารถเชื่อมต่อ HDMI ลำโพง 4 ตำแหน่ง

เครื่องเสียงพร้อมระบบเชื่อมต่อบลูทูธ ช่องเชื่อมต่อ “ยูเอสบี” และ “เอยูเอ็กซ์” พร้อมจอแสดงข้อมูลและภาพจากกล้องมองหลังขณะถอย ใส่ที่วางแก้วน้ำถึง 11 จุด เบาะ 7 ที่นั่งสามารถพับปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบตามการใช้งาน

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เด่นที่ความโปร่ง โล่ง เนื่องจากเพดานสูง พวงมาลัย 3 ก้านปรับได้ 4 ทิศทางพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น

เรือนไมล์แบบ 2 วงกลม พร้อมหน้าจอแสดงผลข้อมูลอเนกประสงค์แบบสามมิติ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว

คอนโซลกลางมีหน้าจอสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว สำหรับเครื่องเสียงพร้อมช่องต่อยูเอสบี และส่งภาพจากกล้องมองหลังมาให้ที่หน้าจอนี้

เพดานติดตั้งช่องแอร์แบบปรับความเร็วลมได้

เบาะนั่งแถว 3 พับได้ราบเรียบเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกของ

ภายในผมยกให้ฮอนด้า บีอาร์-วี ดูสปอร์ตสุด

 

มาถึงหัวใจคือเครื่องยนต์ ฮอนด้า บีอาร์-วี ใช้เครื่องยนต์บล๊อกเดียวกับแจ๊ซ และซิตี้ แบบ SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ความจุ 1,497 ซีซี รองรับพลังงานทางเลือก E85 กำลังสูงสุด 117 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 146 นิวตันเมตร ทำงานคู่กับระบบเกียร์ CVT ใหม่ พัฒนาภายใต้เอิร์ธดรีมเทคโนโลยี

ช่วงล่างหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังทอร์ชั่นบีม แบบ H-shape

โตโยต้า เซียนต้า ใช้เครื่องยนต์เดียวกับ “วีออส” แบบ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว DUAL VVT-i ความจุ 1,496 ซีซี กำลังสูงสุด 108 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 140 นิวตัน-เมตร ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมระบบ Sport Sequential Shift 7 สปีด

ช่วงล่างแม็กเฟอร์สันสตรัตพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม คอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลง

ด้านมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เป็นแบบ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว MIVEC ความจุ 1,499 ซีซี กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ พร้อมปุ่มโอเวอร์ไดรฟ์

ช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็กเฟอร์สันสตรัตพร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม

ส่วนอารมณ์การขับขี่ขออนุญาตไม่เปรียบเทียบนะครับ เพราะทั้งเซียนต้า และบีอาร์-วี ผมเคยลองขับมานานแล้ว เลยเลือนๆ ไปพอสมควร

แต่จำได้เลาๆ ว่า ทั้ง 3 รุ่น ฮอนด้า บีอาร์-วี กระฉับกระเฉงและอัตราเร่งดีกว่านิดๆ

สนนราคา มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ 779,000-849,000 บาท

โตโยต้า เซียนต้า 750,000-865,000 บาท

และฮอนด้า บีอาร์-วี 755,000 (รุ่น 5 ที่นั่ง) – 820,000 บาท