แมลงวันในไร่ส้ม/ข่าวเลือกตั้งเดือด ‘ชัชชาติ’ มาแรง เปิดเกม ‘เตะสกัด’!!

แมลงวันในไร่ส้ม

ข่าวเลือกตั้งเดือด

‘ชัชชาติ’ มาแรง

เปิดเกม ‘เตะสกัด’!!

 

พื้นที่สื่อระยะนี้ร้อนแรงด้วยข่าวสารการเมือง ทั้งการเคลื่อนไหวของพรรค ว่าที่ผู้สมัคร ไปจนถึงปัญหาการกำหนดวันเลือกตั้ง

ล่าสุด รัฐบาลและ กกต.หารือกันกำหนดวันเลือกตั้ง ซึ่งจะต้องเลื่อนจาก 24 กุมภาพันธ์ ที่กำหนดไว้คร่าวๆ แต่เดิม เพื่อมิให้ทับซ้อนกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดระหว่างวันที่ 4-5-6 พฤษภาคม

รัฐบาลเห็นว่าน่าจะเลื่อนวันเลือกตั้งไปที่ 24 หรือ 31 มีนาคม แต่ กกต.เกรงว่าจะเกิดปัญหากฎหมาย จึงเสนอให้จัดวันที่ 10 มีนาคม

ปัญหากฎหมาย เนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดให้จัดเลือกตั้งใน 150 วัน หลังจาก พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้เมื่อ 11 ธันวาคม 2561 ซึ่งก็คือภายในวันที่ 9 พฤษภาคม

คำว่า “จัดการเลือกตั้ง” กกต.เห็นว่าน่าจะรวมถึงการรับรองผล ประกาศผลเลือกตั้งที่รัฐธรรมนูญกำหนดเวลาไว้ภายใน 60 วันหลังจากลงคะแนนเลือกตั้ง

หากเลือกตั้งหลังวันที่ 10 มีนาคม อาจมีปัญหาว่า การรับรองผล การประกาศผล อาจกระทำได้ไม่ทันภายในวันที่ 9 พฤษภาคม

อย่างไรก็ตาม การกำหนดวันเลือกตั้งดังกล่าว เป็นหน้าที่ของ กกต.ต้องดำเนินการภายใน 5 วันหลังจากมีการประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง

ซึ่งเดิมรัฐบาลระบุว่าจะประกาศในวันที่ 2 มกราคม แต่ก็ยังไม่มีการประกาศ

ถึงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา กระบวนการเลือกตั้งจึงยังติดอยู่ที่การกำหนดวันเลือกตั้ง ซึ่งจะต้องรอให้รัฐบาลประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งก่อน

 

อีกประเด็นที่น่าสนใจในวงการเมือง ได้แก่ การเสนอชื่อบุคคลในบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมือง ซึ่งเสนอได้พรรคละ 3 ชื่อ

พรรคพลังประชารัฐ ค่อนข้างชัดเจนว่าจะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ส่วนพรรคเพื่อไทย มีชื่อของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรค

อีกชื่อที่กำลังมาแรงของพรรคเพื่อไทยคือนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม ผู้ได้ชื่อว่าเป็นรัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี

ในช่วงที่พ้นจากรัฐมนตรี นายชัชชาติไปทำงานในภาคเอกชน และรับเชิญไปขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ในเรื่องการบริหาร ถือเป็นนักบรรยายระดับแม่เหล็กคนหนึ่ง

และสั่งสมคะแนนนิยมจากบทบาทดังกล่าว นอกเหนือจากบทบาทสมัยเป็น รมว.คมนาคม

มีรายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยระบุว่า มีการทำโพลเป็นการภายใน ผลออกมาว่า หากพรรคเพื่อไทยชูคุณหญิงสุดารัตน์เป็นนายกฯ จะมีผู้เลือก ส.ส.พรรคเพื่อไทยน้อยกว่ากรณีที่พรรคเสนอชื่อนายชัชชาติเป็นนายกฯ

ทำให้เกิดกระแสข่าวว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยกลุ่มหนึ่งหันมาเคลื่อนไหวสนับสนุนให้เสนอชื่อนายชัชชาติในบัญชีชื่อนายกฯ

กระแสคะแนนนิยมและการกล่าวขวัญถึงนายชัชชาติ คงจะสร้างความหวั่นไหวให้กับคู่แข่งขันอยู่ไม่น้อย

ต่อมาเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2562 มีกระแสข่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมรื้อคดีที่มีชื่อนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาด้วย

มีสื่อเสนอข่าวนี้อย่างเกรียวกราวว่าอาจจะเป็นการเตะสกัด

2 คดีที่คาดหมายว่า ป.ป.ช.อาจจะรื้อมาพิจารณาอีก ได้แก่คดีที่ ครม.อนุมัติและจ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองปี 2548-2553 และการออกกฎหมายบริหารจัดการน้ำ

คดีจ่ายเงินเยียวยา กล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะรัฐมนตรีรวม 34 ราย นอกจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์และนายชัชชาติ ยังมีอาทิ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางนลินี ทวีสิน อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีต รมว.กลาโหม นายธีระ วงศ์สมุทร อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีต รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายวิทยา บุรณศิริ อดีต รมว.สาธารณสุข ฯลฯ

ส่วนอีกคดี กล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายชัชชาติ และ ครม. รวม 35 คน ว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 57 วรรคสอง และมาตรา 67 วรรคสอง ในโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้าง ระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนฯ ภายใต้พระราชกำหนด ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบ บริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ.2555 วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท โดยได้ให้กลุ่มบริษัทเอกชนต่างๆ มายื่นข้อเสนอตามแผนงาน จำนวน 10 โมดูล (Module) และได้ประกาศผลผู้ชนะในวันที่ 10 มิถุนายน 2556 และได้นำเรื่องเข้าสู่ความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2556

ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวถูกยื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ตั้งแต่ปี 2556

 

ข่าว ป.ป.ช.เตรียมรื้อคดีดังกล่าว แม้ว่า พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ทราบเรื่องว่ามีการเร่งคดีนายชัชชาติ ไม่มีแน่ เพราะทุกเรื่องที่จะถูกบรรจุวาระการประชุมกรรมการ ป.ป.ช.นั้นจะต้องผ่านประธาน ป.ป.ช.ก่อน ดังนั้น ยืนยันว่าไม่มี และเวลาจะเลือกตั้งเพียงอีกแค่สองเดือนเรารอได้ ป.ป.ช.เราไม่อยากเป็นเครื่องมือใคร ตอนนี้ทำงานซ้ายก็โดน ขวาก็โดน โดนทั้งหมด ดังนั้น เราจะต้องยืนหลักของเราให้ได้

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวระบุว่า ในเรื่องการบริหารจัดการน้ำ มีการเปลี่ยนแปลงกรรมการไต่สวน จึงได้ส่งหนังสือเรียกผู้ถูกกล่าวหาในคดีให้มาชี้แจงใหม่อีกรอบ ซึ่งจะต้องจับตาดูทิศทางว่าจะดำเนินการในลักษณะใดอีก

ส่วนคดีเยียวยา ก็ทำนองเดียวกัน โดยทางฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทยระบุว่า มีการทำคำชี้แจงไปหลายครั้งแล้ว

น่าสนใจว่าข่าวการรื้อคดีของอดีต รมต.ของพรรคเพื่อไทยรอบนี้ จะมีการเอาจริงแค่ไหน

และจะมีผลต่อการเดินเกมสู้ศึกเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยอย่างไร

เป็นอีกปรากฏการณ์ในการเลือกตั้งที่ถือว่าดุเดือดร้อนแรงอีกครั้งของการเมืองไทย