เผยแพร่ |
---|
ถามว่าสถานการณ์ตอนที่ จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐ มนตรีในการเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์ 2500 กับ สถานการณ์ตอนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้ง เดือนกุมภาพันธ์ 2562 หรือไม่
พอเห็นการรุกจับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระหว่างขึ้นรถกระจายเสียงที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์
ก็เริ่มเห็นความระทึก
ยิ่งเห็นการส่งตำรวจคอยรปภ.ลับๆให้กับประธานคณะกรรม การยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย ที่เชียงราย และเห็นการสกัดกั้นมิให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย พบประชาชนที่พะเยา
สีสันทางการเมืองยิ่งพรรณรายฉายฉันเป็นทวีคูณ
หากติดตามการเคลื่อนไหวของหน่วยงานความมั่นคงมาอย่างต่อ เนื่องก็จะสัมผัสได้ว่า มิได้มีแต่เพียงพรรคเพื่อไทยเท่านั้น หากพรรคอนาคตใหม่ก็ประสบมาอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่เริ่มประชุมครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 มาแล้ว
มีการถ่ายรูปรถและตามประกบจนถึงบ้านต่างจังหวัด
เมื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ตระเวณหาสมาชิกจากเหนือจรดใต้ ตะวันออกจรดตะวันตก ก็มีเจ้าหน้าที่ตามประกบ
เหมือนๆกับที่ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย ประสบที่เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา
ขณะเดียวกัน คดีความต่างๆไม่ว่าจะเกิดในห้วงประชามติตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2559 กระทั่งการตั้งโต๊ะแถลงข่าว 4 ปีรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2561
ก็เริ่มมีการคิดบัญชี เพิ่มสถิติ โดยพุ่งเป้าอย่างเป็นพิเศษไปยัง พรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ พรรคเพื่อชาติ
ไม่มีใครตอบได้ว่า จอมพล ป.พิบูลสงคราม ในฐานะนายกรัฐมนตรี คิดอย่างไรเมื่อประสบเข้ากับสถานการณ์เลือกตั้ง สกปรกในเดือนกุมภาพันธ์ 2500
เหมือนกับไม่มีใครตอบได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรีคิดอย่างไรในเดือนกุมภาพันธ์ 2562
นี่คือโจทย์ทางการเมืองที่จะมีคำตอบเมื่อสถานการณ์ที่เป็นจริงเดินทางมาถึง