ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

‘มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์’

รถครอบครัว-ครบเครื่อง

 

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ รถครอสโอเวอร์แบบเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ผมอยากทดลองขับมากที่สุดคันหนึ่ง

ด้วยเพราะมีกระแสร้อนแรงมาตั้งแต่เปิดตัวที่อินโดนีเซีย เนื่องจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูโฉบเฉี่ยว และละม้ายคล้ายรถต้นแบบ (XM Concept) ส่วนภายในก็กว้างขวางและตกแต่งมาได้น่าสนใจ ทำให้มีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่รอคอยรถรุ่นนี้

แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีโอกาส จนต้องรอถึงปลายปี 2561 ที่ผ่านมา มีคิวว่างพอดี จึงไม่พลาดที่จะขอยืมมาทดสอบ โดยได้รุ่น “GT” ซึ่งเป็นรุ่นท็อป

“เอ็กซ์แพนเดอร์” มี 2 รุ่นย่อย นอกจาก GT อีกรุ่นที่ต่ำกว่าคือ GLS-LTD

บอกก่อนนะครับ รุ่นนี้เป็นรถนำเข้าจากอินโดนีเซีย

ภาพแรกที่ผมได้เห็น “เอ็กซ์แพนเดอร์” ตัวเป็นๆ ต้องบอกว่ามีมิติตัวถังใหญ่กว่าที่คิดไว้เยอะ

ส่วนหน้าตาทันสมัยมาก ละม้ายกับรุ่นพี่อย่าง “ปาเจโร่ สปอร์ต” โดยเฉพาะเส้นสายบริเวณกระจังคล้ายกันมาก

ไฟหน้าฮาโลเจน วางอยู่ในระดับต่ำบริเวณกระจังหน้า ด้านบนเป็นไฟหรี่ Crystal LED อารมณ์เดียวกับ “นิสสัน จู๊ค” ที่ไฟหน้าจะอยู่ค่อนข้างต่ำ

ด้านล่างไฟหน้าเป็นไฟเลี้ยว ต่ำลงไปอีกเป็นไฟตัดหมอกติดตั้งบริเวณชายล่างคล้ายๆ สเกิร์ต

เส้นสายด้านข้างบึกบึน พร้อมที่จะลุยไปในทุกเส้นทาง ที่เปิดประตูโครเมียม คิ้วขอบกระจกประตู ติดตั้งคิ้วขอบประตูด้านล่างข้างตัวรถ

ด้านท้ายอาจจะไม่โฉบเฉี่ยวมากนัก ไฟท้ายแบบ L-Shape ฝาประตูท้ายขนาดใหญ่เปิดได้กว้าง

ที่ชอบมากคือล้อแม็กซ์ลายเท่แบบทูโทนดูมีมิติ ขนาด 16 นิ้ว

ตัวรถค่อนข้างสูงมีระยะต่ำสุดถึงพื้น 205 ม.ม. ถือว่าสูงกว่ารถในเซ็กเมนต์เดียวกันทั้งหมด

 

ภายในถือว่ามีจุดเด่นมากๆ ที่ความโปร่ง โล่ง เนื่องจากเพดานสูงมาก สูงจนผมตกใจ ทำให้ทุกที่นั่งดูสบายไม่อึดอัด แม้จะเป็นที่นั่งแถว 3 ก็ตาม

พวงมาลัย 3 ก้านปรับได้ 4 ทิศทางคือ บน-ล่าง และเข้า-ออก พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น ด้านซ้ายควบคุมเครื่องเสียง ด้านขวาเป็นระบบควบคุมความเร็ว

เรือนไมล์แบบ 2 วงกลม พร้อมหน้าจอแสดงผลข้อมูลอเนกประสงค์แบบสามมิติ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว

คอนโซลกลางมีหน้าจอสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว สำหรับเครื่องเสียงพร้อมช่องต่อยูเอสบี และส่งภาพจากกล้องมองหลังมาให้ที่หน้าจอนี้

ระบบแอร์แบบอะนาล็อก หมุนซ้าย-ขวา เพดานติดตั้งช่องแอร์แบบปรับความเร็วลมได้เพื่อกระจายความเย็นได้ทั่วถึง

คันเกียร์กระชับมือ ความสูงไม่มากนัก เหมือนกับปาเจโร่ สปอร์ตนั่นแหละครับ

แผงข้างประตูและบริเวณคอนโซลหน้าเป็นพลาสติกขึ้นรูป แต่ออกแบบให้มีลายเย็บคล้ายหนัง แซมบางจุดด้วยลายเคฟลาร์สีโครเมียม เพื่อไม่ให้ดูโล้นเกินไป

ที่นั่งแถว 2 สบายมาก พับได้แบบ 60-40 และขยับเดินหน้า-ถอยหลังได้ รวมทั้งสามารถพับแนวตั้งให้ชิดกับเบาะคู่หน้าเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุก

ที่นั่งแถว 3 เบาะอาจจะสั้นไปสักนิด หากจะให้สบายหน่อยต้องขยับที่นั่งแถว 2 เลื่อนไปด้านหน้าเล็กน้อย หรือปรับเบาะให้ชันสักหน่อย

โดยที่นั่งแถว 3 สามารถพับได้ราบเรียบเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกของ

ใต้เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้ามีลิ้นชักไว้เก็บของหรือรองเท้าได้เป็นระเบียบเรียบร้อย

ภาพรวมถือว่าวัสดุและการประกอบต่างๆ ทำได้เนี้ยบน่าพอใจ

 

นั่งประจำการหลังพวงมาลัย รุ่น GT มีปุ่มสตาร์ต-สต๊อปให้ด้วย กดเบาๆ เครื่องยนต์ก็ทำงาน เสียงไม่ดังจนน่ารำคาญ พนักผู้ขับขี่สบายพอประมาณแต่ไม่กระชับลำตัวมากนัก แต่มีข้อดีคือขนาดของเบาะใหญ่รับถึงต้นขา ช่วยลดความเมื่อยล้าได้มาก

เครื่องยนต์รุ่นนี้เป็นแบบ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว MIVEC ความจุ 1,499 ซีซี กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที

ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ พร้อมปุ่มโอเวอร์ไดรฟ์

สิ่งแรกที่รู้สึกเมื่อขึ้นไปประจำตำแหน่งคนขับ ทัศนวิสัยที่โปร่งจากกระจกบานหน้าขนาดใหญ่ และเสาเอที่เล็ก ทำให้แทบหาจุดบอดไม่เจอ บวกกับเพดานค่อนข้างสูงทำให้ปรับเบาะขึ้นสูงได้มากขึ้น ยิ่งทำให้เห็นภายนอกได้เต็มตา ประเมินสถานการณ์รอบตัวได้ง่ายกว่ารถเก๋ง

ระบบความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ มาครบ เช่น กุญแจ Immobilizer ระบบกุญแจอัจฉริยะ Keyless Operation System (KOS)

ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ASC ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA ระบบไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหัน ESS

ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง กล้องมองภาพขณะถอยจอด

 

ด้วยเครื่องยนต์ความจุ 1.5 ลิตร อย่าไปคาดหวังเรื่องอัตราเร่งตีนต้น แม้ไม่ถึงกับอืดแต่ก็ไม่หวือหวา เรียกว่าเรื่อยๆ มาเรียงๆ จะมีก็ช่วงความเร็วกลางที่มาค่อนข้างเร็ว

ส่วนความเร็วปลายต้องบดบี้ขยี้ขยำกันหน่อย

อันนี้ผมหมายถึงการขับคนเดียวนะครับ หากมาเต็มความจุ 7 ที่นั่งก็ต้องลดทอนลงไปอีก

อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจก่อนว่านี่คือ “รถครอบครัว” ไปไหนมาไหนกับคนที่เรารัก คนที่เราห่วงใย เพราะฉะนั้น จะขับแบบซิ่งสายฟ้าก็เกินไปหน่อย

ด้วยอัตราเร่งขนาดนี้เวลาเร่งแซงอาจต้องเผื่อไว้สักหน่อย

แต่สิ่งที่ผมชื่นชอบคือความนิ่งของช่วงล่าง และความคมของพวงมาลัย

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใช้ช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็กเฟอร์สันสตรัตพร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม

จะว่าไปแล้วเป็นช่วงล่างยอดนิยมที่ใส่ในรถหลายรุ่น เข้าใจว่าน่าจะปรับแต่งมาค่อนข้างลงตัวทำให้ไม่มีอาการวาบหวิวในความเร็วสูง หรือเข้าโค้ง แต่จะมีอาการวูบไหวบ้างหากกระชากเปลี่ยนเลนเร็วๆ

ปัญหาน่าจะมาจากความสูงของตัวรถนั่นเอง

ความเงียบเป็นอีกจุดเด่นเพราะกว่าจะได้ยินเสียงเครื่องยนต์-เสียงลม ก็เกิน 120 กิโลเมตร/ชั่วโมงไปแล้ว

สำหรับรถครอบครัวความเร็วระดับ 100-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง น่าจะเหมาะสมและปลอดภัยที่สุด ซึ่งเอ็กซ์แพนเดอร์แจ่มว้าวมากในความเร็วระดับนี้ เพราะได้ทั้งความมั่นคงของช่วงล่าง เสียงที่เล็ดลอดเข้ามาน้อย เครื่องยนต์ไม่ต้องทำงานหนักมาก

ที่สำคัญราคาถือว่าน่าคบหา มี 2 รุ่นย่อย 779,000-849,000 บาท

ชั่วโมงนี้ใครที่กำลังมองหารถครอบครัวที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย ผมยกให้ “มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์” เป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ