ขอบคุณข้อมูลจาก | วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย ฉบับวันที่ 6พ.ย. - 12 พ.ย. 2558 |
---|---|
ผู้เขียน | เสถียร จันทิมาธร |
เผยแพร่ |
การได้รู้จักกับอาวเอี้ยงฮงส่งผลทั้งในด้านดีและด้านร้ายให้กับเอี้ยก่วย เป็นปัจจัยสำคัญอันทำให้ยุทธนิยายเรื่องมังกรหยกดำเนินไปอย่างมากด้วยสีสัน
ด้านดีเพราะได้เข้ามา “เติม” ในส่วนที่ขาดหายไป
สรุปตามภาษาจิตวิทยาก็คือ เป็นสิ่งชดเชย หรือ Compensation เพราะว่าเอี้ยก่วยขาดความอบอุ่น ไร้ทั้งบิดาและมารดา
สรุปตามสำนวนไทยก็คือ “ไร้ญาติ ขาดมิตร”
การเข้ามาของอาวเอี้ยงฮงแม้ค่อนข้างแปลกอย่างประหลาด เพราะเรียกร้องให้เรียก “บิดา” แทนคำว่า “กงกง” แต่ลึกๆ แล้วเป็นข้อเรียกร้องที่เอี้ยก่วยยินดี
ด้านดีอีกประการ 1 เพราะเท่ากับเอี้ยก่วยได้ “วิชา”
เพราะว่าสถานภาพของอาวเอี้ยงฮงนั้นดำเนินไปอย่างไม่ธรรมดา เพราะเขาเป็น 1 ใน 5 สุดยอดในยุทธจักร
1 เฮ้งเต็งเอี๊ยง ผู้ก่อตั้งและเป็นเจ้าสำนักช้วนจิน
1 อั้งชิดกง ประมุขพรรคกระยาจก
1 อิดเอ็งไต้ซือ ประมุขแดนใต้ ผู้เคยเป็นกษัตริย์แล้วสละราชสมบัติมาบวชเป็นพระ
1 อึ้งเอี๊ยะซือ มารบูรพาผู้เป็นเจ้าของเกาะดอกท้อ
อาวเอี้ยงฮง คือ พิษประจิม ผู้มีพลังคางคกและเพลงไม้เท้าอสรพิษ รวมถึงการใช้พิษเป็นสรณะ
ด้านดีอาจเป็นการได้วิทยายุทธ์ แต่ด้านร้ายก็เข้ากับพังเพยโบราณที่ว่า “ลากพิษติดหาง”
ต่อพงษ์ เศวตามร์ เจ้าของหนังสือเชิงอรรถมังกรหยก 2 ก๊วยเจ๋ง เอี้ยก่วย สรุปอย่างรวบรัดในบทว่าด้วยยอดคนอาวเอี้ยงฮงว่า
วิชาฝีมือในจักรวาลมังกรหยกแบ่งเป็น 4 สาย
นั่นคือ สายพุทธ สายเต๋า สายบัณฑิต และสายนอกเส้นทาง
สุดยอดยอดฝีมือนั้น 2 คนมาจากสายพุทธ นั่นคือ อั้งชิดกงและราชันต้วน (ซึ่งก็คืออิดเอ็งไต้ซือ) ขณะที่อีก 2 คนมาจากสายเต๋า คือ กลางเทพเจ้า เฮ้งเต็งเอี๊ยง
และสายบัณฑิต คือ อึ้งเอี๊ยะซือ
มีเพียงอาวเอี้ยงฮงเท่านั้นที่ฝึกวิชานอกหลักสูตร หมายถึงมาจากทางตะวันตก แต่สามารถทะยานขึ้นมาเป็นยอด 5 ยุทธ์ได้ด้วย
อาวเอี้ยงฮงเป็นคนตัวสูงใหญ่ สวมเสื้อขาวขลิบทองไม่ใช่เสื้อผ้าแบบคนที่อยู่ในดินแดนภาคกลาง บุคคลที่พามาด้วยหลายคนมีผมทอง หลายคนมีตาสีฟ้า
จากการเปิดเผยของอาวเอี้ยงฮงเองสาวๆ ที่เขาพามามาจากแดนตะวันตก
มังกรหยกระบุว่า อาวเอี้ยงฮงมาจากเขาอูฐขาว เดินทางมาจากไซฮก
จากนี้จึงเห็นได้ว่าอาวเอี้ยงฮงคือตัวละครที่มีความแปลกแยกเป็นอย่างสูงกับตงง้วน วิชาฝีมือของเขาก็พิสดารพิลึก
สมญานาม “พิษประจิม” จึงสะท้อนความแปลกแยกอย่างเด่นชัด
เป็นความแปลกแยกทั้งต่อขนบและธรรมนิยมของตงง้วน เป็นความแปลกแยกทั้งต่อขนบและธรรมนิยมของลัทธิเต๋าและขงจื่อ
ถาวร สิกขโกศล เปรียบเทียบในตอนหนึ่งของหนังสือสกัดจุดยุทธจักรมังกรหยกระหว่างอาวเอี้ยงฮงและจิวแป๊ะทงว่า เป็นผู้คลั่งวิทยายุทธ์เหมือนกันแต่ด้วยจุดมุ่งหมายต่างกัน จิวแป๊ะทงมิได้มุ่งหมายเพื่อความเป็นเอกเหนือผู้อื่น มิใช่เพื่อชื่อเสียง
แต่ความคลั่งวิทยายุทธ์ของอาวเอี้ยงฮง เป็นความบ้าเพื่อให้ตนเหนือผู้อื่น เพื่อเอาชนะผู้อื่น จึงกลายเป็นคนบ้าไปจริงๆ
แต่ในความฟั่นเฟือนวิปลาสนั้นก็ยังสามารถคิดค้นวางหลักวิทยายุทธ์ชั้นเยี่ยมได้ แม้อึ้งย้งจะแกล้งบอกเคล็ดวิชาในคัมภีร์เก้าอิมจินเก็งให้ผิดๆ แต่อาวเอี้ยงฮงก็สามารถเอาความ “ผิด” นั้นบัญญัติแนวใหม่ขึ้นได้
แต่วิทยายุทธ์ชั้นเยี่ยมของอาวเอี้ยงฮงปราศจากศาสนธรรมใดๆ กำกับ คนที่ไม่มีศาสนธรรมอย่างอาวเอี้ยงฮงจึงตัดหัวครูที่สอนเรื่องความกตัญญูแก่ศิษย์มากำนัลแก่อึ้งเอี๊ยะซือ
ชีวิตของอาวเอี้ยงฮงแสดงให้เห็นว่าคนที่ไม่มีศาสนาเอาตัวเองเป็นใหญ่นั้นเป็นอันตรายต่อโลกอย่างไร เช่นเดียวกับนักวิชาการที่คลั่งคิดค้นความรู้แปลกใหม่เพื่อความสำเร็จของตัวเองโดยไม่คำนึงว่าความรู้นั้นจะให้โทษต่อโลกหรือไม่
ไม่ว่าบทสรุปของกิมย้งตลอดทั้งมังกรหยกภาค 1 และมังกรหยกภาค 2 รวมถึงบทสรุปอันเป็นความต่อเนื่องจาก ถาวร สิกขโกศล ตรงกัน
ตรงที่สถานะแห่งความเป็น “มาร” ของอาวเอี้ยงฮง
ดังนั้น การได้รู้จักกับอาวเอี้ยงฮงกระทั่งยอมเรียกเป็น “บิดา” ดังนั้น การได้ฝึกปรือวิทยายุทธ์เพลงมวยคางคกและลมปราณย้อนกลับจากอาวเอี้ยงฮงจึงแทนที่จะเป็นคุณกลับเป็นโทษ
ส่งผลสะเทือนให้กับชีวิตของเอี้ยก่วยหลายครั้งหลายครา