ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 4 - 10 มกราคม 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
เผยแพร่ |
สุจิตต์ วงษ์เทศ
ขุนบรมในตำนาน
สัญลักษณ์ไต-ไท
ทางภาษาและวัฒนธรรม
คนไทย มีขึ้นจากการขยายอำนาจทางการเมืองของภาษาและวัฒนธรรมไต-ไท แล้วดูดกลืนคนพูดภาษาอื่นๆ (ได้แก่ มอญ, เขมร, มลายู ฯลฯ) บางกลุ่มกลายตนเองเป็นคนไทย [สรุปจากหนังสือ ความไม่ไทย ของคนไทย ของ นิธิ เอียวศรีวงศ์ สำนักพิมพ์มติชน พ.ศ.2559]
ตำนานเรื่องขุนบรม เป็นคำบอกเล่าเชิงสัญลักษณ์ แสดงการขยายอำนาจของภาษาและวัฒนธรรมไต-ไท จากทางใต้ของจีน และทางเหนือของเวียดนามเข้าสู่ลุ่มน้ำโขง, สาละวิน และลุ่มน้ำเจ้าพระยา
บ้านเมืองต่างๆ ที่ลูกชายขุนบรมแยกย้ายไปสร้างแปลงไว้รวม 7 แห่ง หรือ 7 ทิศทาง หมายถึงเส้นทางการค้าดินแดนภายในภาคพื้นทวีปที่ไปมาหาสู่กันนานมากแล้ว ต่อมาภาษาและวัฒนธรรมไต-ไท ขยายอำนาจไปตามนั้น แล้วมีอำนาจมากขึ้นในสมัยต่อๆ ไป เป็นเหตุให้ภาษาไต-ไท เป็นภาษากลางทางการค้า
[ทางใต้ของจีน หมายถึงพื้นที่ราวมณฑลยูนนานลงไปทางทิศใต้ถึงคาบสมุทร ซึ่งสมัยโบราณเป็นหลักแหล่งของคนหลายเผ่าพันธุ์ที่ไม่ฮั่น ไม่จีน จึงเรียกในเอกสารจีนเมื่อ 2,000 ปีมาแล้วว่า พวกป่าเถื่อน (หมาน, เย่ว์) มีวัฒนธรรมกลองทอง (มโหระทึก) อย่างเดียวกับอุษาคเนย์ คนส่วนมากปลูกเรือนเสาสูง (มีใต้ถุน) กินข้าวเป็นอาหารหลักชนิดเมล็ดป้อม (ตระกูลข้าวเหนียว) ทำนาทดน้ำในหุบเขาซึ่งนักวิชาการจัดเป็นพื้นที่พิเศษ เรียก Zomia อยู่นอกเขตอำนาจของรัฐใหญ่ เช่น พุกาม หรืออะไรก็ตามที่เรียกทวารวดี]
ตำนานเรื่องขุนบรม
ขุนบรม (ลาวเรียก ขุนบูลม หรือขุนบูฮม) ในตำนานบอกว่าเป็นทายาทแถน มีศูนย์กลางอยู่เมืองแถน (บางที่เรียกเมืองแถง แต่ปัจจุบันเวียดนามเรียกเดียนเบียนฟู) อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนาม ติดพรมแดนลาว ทางแขวงหลวงพระบางกับแขวงฟองสาลี
มีลูกชาย 7 คน เมื่อโตขึ้นขุนบรมให้แยกย้ายไปก่อบ้านสร้างเมือง (หรือสร้างบ้านแปลงเมือง) 7 แห่ง แล้วเกี่ยวดองเป็นเครือญาติกัน ดังนี้
- ขุนลอ ครองเมืองชวา (คือ เมืองหลวงพระบาง ในลาว)
- ยี่ผาลาน ครองเมืองหัวแต (บางแห่งว่าเมืองหอแต คือ เมืองหนองแส เข้าใจว่าอยู่เขตสิบสองพันนา มณฑลยูนนาน ในจีน)
- สามจูสง ครองเมืองแกวช่องบัว (บางแห่งว่าเมืองแกวแท่นบัว ในเวียดนาม)
- ไสผง ครองเมืองยวนโยนก (คือ ล้านนา)
- งัวอิน ครองเมืองอโยธยา (หมายถึงอยุธยา และสุพรรณภูมิ ที่สุพรรณบุรี)
- ลกกลม ครองเมืองเชียงคม (คือ เมืองคำเกิด ในลาว)
- เจ็ดเจิง หรือเจ็ดเจือง ครองเมืองพวน (คือ เมืองเชียงขวาง ในลาว)
เส้นทางเคลื่อนย้าย
ไต-ไท ทั้งคน, ภาษา, วัฒนธรรม มีเส้นทางเคลื่อนย้ายจากทางใต้ของจีนในแนวตะวันออกเฉียงเหนือ ไปตะวันตก และตะวันตกเฉียงใต้
สอดคล้องกับหลักฐานวิชาการว่าตระกูลภาษาไต-ไท เก่าสุดราว 3,000 ปีมาแล้ว อยู่บริเวณมณฑลกวางสี ต่อเนื่องเวียดนาม
บ้านเมืองต่างๆ ที่ลูกชายขุนบรมไปเป็นเจ้าครอง ล้วนอยู่ในละแวกเดียวกัน หรือ ใกล้เคียงต่อเนื่องกัน คือ สองฝั่งแม่น้ำโขง แต่ลูกชายคนที่ 5 คืองัวอิน แยกออกไปไกลถึงเมืองอโยธยาอยู่บริเวณที่ราบลุ่มน้ำเจ้าพระยา
สมัยแรกส่วนมากตั้งหลักแหล่งทางฟากตะวันตกแม่น้ำเจ้าพระยา แผ่ลงไปถึงคาบสมุทร (ยังไม่แผ่ไปทางตะวันออก) เพราะฟากตะวันออกมีกลุ่มพูดภาษาเขมรอยู่หนาแน่นและมีอำนาจ แต่ต่อมาสมัยหลังพวกพูดภาษาเขมรเปลี่ยนไปพูดไต-ไท แล้วกลายตนเองเป็นไทย
จากสองฝั่งโขงลงลุ่มน้ำเจ้าพระยาไปได้หลายทิศทาง แต่ทางหนึ่งลงทางลุ่มน้ำเลย (จ.เลย) เข้าต้นน้ำป่าสัก สำเนียงหลวงพระบางลุ่มน้ำโขงยังตกค้างอยู่ลุ่มน้ำเลยจนทุกวันนี้
คน กับ ภาษาและวัฒนธรรม
ภาษาและวัฒนธรรมเคลื่อนย้ายแผ่ไปกว้างและไกลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ จำเป็นที่คนเจ้าของภาษาและวัฒนธรรมต้องโยกย้ายตามไปด้วย
ในกรณีของตระกูลไต-ไท น่าจะมีคนจำนวนหนึ่งโยกย้ายตามเส้นทางการค้าภายในภูมิภาค ลงไปพร้อมกับภาษาและวัฒนธรรม
ดังนั้น ภาษาและวัฒนธรรมไต-ไท ขยายอำนาจไปกับคนผู้เป็นเจ้าของเดิมจำนวนหนึ่ง กับดูดกลืนคนพื้นเมืองตระกูลอื่นๆ (เช่น มอญ-เขมร, มลายู, จีน-ทิเบต ฯลฯ) กลายตนเองเป็นไต-ไท และไทย
ส่งผลให้ในดินแดนไทยประกอบด้วยคนอย่างน้อย 2 กลุ่มใหญ่ คือ ไต-ไท-ไทย และไม่ไต-ไท-ไทย (ได้แก่ มอญ, เขมร, มลายู, ม้ง-เมี่ยน, พม่า-ทิเบต ฯลฯ) แต่นานไปก็พูดภาษาไทย แล้วเรียกตนเองเหมือนกันหมดว่าไทย