วิถีแห่งอำนาจ/เสถียร จันทิมาธร/ พยัคฆ์คำรน ราชสีห์คำราม (172)

เสถียร จันทิมาธร

วิถีแห่งอำนาจ/เสถียร จันทิมาธร

พยัคฆ์คำรน ราชสีห์คำราม (172)

ขณะที่ก๊วยเซียงนั่งรออยู่กับปีศาจหัวโตและพี่อินทรีวิเศษด้วยความร้อนรุ่มในหัวก็ได้ยินสุ้มเสียงดังจากที่ห่างไกล เป็นเสียงพยัคฆ์คำรน ราชสีห์คำราม ค่างกู่ คชสารวิ่ง

ยิ่งเงี่ยหูฟังเสียงร้องของฝูงสัตว์ก็ยิ่งใกล้เข้ามา

เหล่าผู้กล้าในสนามประลองยุทธ์ตอนแรกแตกตื่นลนลาน จากนั้นพากันซุกอาวุธผุดลุกขึ้นยืน ก๊วยเจ๋งกล่าวกับบู๊ซิวบุ้นว่า

“ถ่ายทอดคำสั่งเรา เรียกระดมมือเกาทัณฑ์มา 2,000 นาย”

ยังไม่ทันที่บู๊ซิวบุ้นจะได้ทำอะไร พลันได้ยินที่ห่างไกลบังเกิดเสียงร้องดังขึ้น “เหล่าพี่น้องตระกูลซือแห่งหมู่ตึกหมื่นจตุบาทได้รับมอบหมายจากชาวยุทธเจ้าอินทรีเดินทางมาอวยพรวันเกิดก๊วยยี่โกวเนี้ย น้อมส่งของขวัญวันเกิดให้”

เป็นสุ้มเสียงอันร้องขึ้นโดยพร้อมเพรียงกันจาก 5 พี่น้องตระกูลซือ

แม้มิใช่ยอดฝีมือแห่งยุค แต่ขณะที่เปล่งเสียงกู่ร้องกลับออกสำเนียง เก็ง เซียง กัก เต็ง อู้ ทั้ง 5 เสียง จึงแกร่งกร้าวกังวานสั่นสะท้านแก้วหูผู้คน

เก็ง เซียง กัก เต็ง อู้ เป็น 5 เสียงในดนตรีจีน เท่ากับเสียงโน้ตเพลงทั้ง 5 คือ 1 2 3 5 และ 6

แม้จะมีเป้าหมายเพื่อส่งของขวัญวันเกิดให้กับก๊วยยี่โกวเนี้ย แต่เนื่องจากมาจากชาวยุทธเจ้าอินทรี และเนื่องจากเป็นเหล่าพี่น้องตระกูลซือแห่งหมู่ตึกหมื่นจตุบาทจึงต้องมีความระมัดระวัง

 

ทาง 1 อึ้งย้งโบกมือต่อบู๊ซิวบุ้นเป็นความหมายให้เข้าใจว่า เหล่าพี่น้องตระกูลซือแม้กล่าวเช่นนี้แต่จิตใจคนยากหยั่งคาด ไม่แน่ว่าไม่มีเจตนาอื่น ดังนั้น ยินยอมเรียกระดมมือเกาทัณฑ์มาแต่ไม่ลงมือ ยังดีกว่าไม่เตรียมการป้องกันเป็นเหตุให้ถูกสยบ

ไม่นานมือเกาทัณฑ์ก็อยู่ในลักษณะเตรียมพร้อม

ขณะเดียวกัน ทาง 1 ปรากฏชายฉกรรจ์ใช้หนังเสือคลุมกายนำพยัคฆ์ร้าย 100 ตัวมาถึง นั่นย่อมเป็นเจ้าภูเขาหน้าผากขาว ซือแป๊ะอุ้ยสั่งการให้พยัคฆ์ร้าย 100 ตัวหมอบนิ่งจัดแถวเป็นระเบียบ

จากนั้น เสือดาวเผ่นโผนซือตงแม่นำเสือดาว 100 ตัว

จากนั้น ราชสีห์เกราะเขียว ซือเจ่กกัง นำราชสีห์ดุร้าย 100 ตัว จากนั้น เจ้าทรงพลังซือคุ้ยเคี้ยงนำคชสาร 100 เชือก จากนั้น เซียนค่างแปดมือ ซือเม่งเชียบ นำค่างใหญ่ 100 ตัว

ตั้งแถวเรียงรายอยู่รอบสนามประลองยุทธ์

แม้ฝูงสัตว์ดุร้ายน่าสะพรึงกลัวจะส่งเสียงคำรามอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ตั้งแถวเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีสภาพวุ่นวายแม้แต่น้อย

เหล่าผู้กล้าแม้มากภูมิรู้กว้างขวาง แต่พบเห็นสัตว์ร้ายมากมายเพียงนี้ยังอกสั่นขวัญผวา

ในมือ 5 พี่น้องตระกูลซือถือถุงหนังคนละใบ เดินถึงเบื้องหน้าก๊วยเซียงน้อมกายพร้อมกับกล่าว

“ขออวยพรโกวเนี้ยมีอายุยืนร้อยปี แคล้วคลาดปลอดภัย สมความมุ่งหมายในทุกสิ่ง”

เจ้าภูเขาหน้าผากขาว ซือแป๊ะอุ้ยเอง ชี้มือไปยังถุงหนังทั้ง 5 ใบ แล้วกล่าวขึ้น “นี่เป็นของขวัญวันเกิดสิ่งแรกที่ชาวยุทธเจ้าอินทรีขอมอบต่อโกวเนี้ย ของขวัญสิ่งนี้เป็นชาวยุทธเจ้าอินทรีนำมือดี 700 กว่าคนไปจัดหามานับว่าเปลืองเรี่ยวแรงไม่น้อยจริงๆ”

กล่าวพลางแก้ถุงหนังในมือออก ก๊วยเซียงชะโงกศีรษะเข้าไปภายในถุงต้องใจหายวาบ อุทานออกมาด้วยความตระหนก

“เป็นใบหู”

 

เมื่อเห็นเป็น “ใบหู” ก๊วยเซียงซึ่งยังอยู่ในความตระหนกย่อมกล่าวด้วยความไม่เข้าใจ “ใบหูมากมายถึงเพียงนี้ ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะต้องการไปทำไม”

ก๊วยเจ๋ง อึ้งย้ง กลับได้ยินอย่างชัดเจน

พากันผุดลุกขึ้นเดินถึงเบื้องหน้า เจ้าภูเขาหน้าผากขาว ซือแป๊ะอุ้ยเอง มองเข้าไปภายในถุงพร้อมกับประหวัดถึงคำรายงานของสายสืบ

ในใจทั้งแตกตื่น ทั้งยินดี

“ซือตั่วกอ ที่แท้ทหารมองโกลที่ชานเมืองซิงเอี้ยกับเต๋งจิวถูกชาวยุทธจักรเจ้าอินทรีฆ่าทิ้งหรือ” เป็นคำถามจากอึ้งย้ง

เจ้าภูเขาหน้าผากขาว ซือแป๊ะอุ้ยเอง อธิบายว่า

“ชาวยุทธเจ้าอินทรีบอกว่า ก๊วยยี่โกวเนี้ยอยู่ที่เมืองเซียงหยางวันนี้เป็นวันเกิดปีที่ 16 ของนาง ทหารเถื่อนชาวมองโกลกลับกล้ารุกรานมาโดยไร้มารยาท ไยมิใช่สร้างความตื่นตระหนกแก่ก๊วยยี่โกวเนี้ย ดังนั้น มิอาจไม่ฆ่าทิ้ง เพียงแค้นที่ทหารต่างชาติกำลังกล้าแข็งไม่อาจประหารฆ่าสิ้น ดังนั้น นำเหล่าผู้ห้าวหาญสังหารทหาร 2 กองพันที่ยกมาเป็นกองหน้าของฝ่ายตรงข้าม”

นับว่ากระจ่าง สว่างแจ้ง

 

อึ้งย้งรู้อยู่แล้วว่าชาวยุทธเจ้าอินทรีเป็นใคร แต่ก๊วยเจ๋งหารู้ไม่ว่าเป็นใครจึงกล่าวขึ้น “ตอนนี้ชาวยุทธเจ้าอินทรีอยู่ที่ใด ข้าพเจ้าสมควรไปกราบพบด้วยตัวเองแสดงความขอบคุณแทนชาวเมือง”

กิมย้งบรรยายความรู้สึกแทนก๊วยเจ๋งออกมาว่า

10 กว่าปีมานี้ก๊วยเจ๋งตั้งอกตั้งใจฝึกทหารรักษาเมือง น้อยครั้งจะถามไถ่เรื่องราวของผู้กล้าพเนจรในยุทธจักร กอปรกับเอี้ยก่วยปกปิดชื่อแซ่ บุคคลที่คบหาเป็นชนชั้นกึ่งธรรมะ กึ่งอธรรม ดังนั้น ก๋วยเจ๋งไม่ทราบว่า ชาวยุทธเจ้าอินทรีคือเอี้ยก่วย

นี่คือความตื่นเต้น และยังเหลือความตื่นเต้นอีกมากหลายรอคอยอยู่