บทวิเคราะห์ : โลกในปี 2019 เราจะเจออะไร?

ในปี 2018 ก็เป็นอีกปีที่เกิดเรื่องราวขึ้นมากมาย ทั้งที่เป็นไปตามความคาดหมาย และเรื่องราวที่เหนือการคาดคะเนใดๆ

สำหรับปี 2019 ที่กำลังมาถึง มีหลายเรื่องราวที่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้าตามกำหนดการที่ถูกกำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์สำคัญทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ หรือแม้เต่เรื่องราวของวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่กำลังจะเกิดขึ้นทั่วโลก

ในแง่การเมืองในปี 2019 นี้จะเป็นปีที่โลกได้รับผลกระทบอย่างแน่นอนจากความไม่ชัดเจนของ “เบร็กซิท”

ตามกำหนดการ อังกฤษมีกำหนดแยกตัวจากสหภาพยุโรป หรืออียู ในเวลา 23.00 น. ของวันที่ 29 มีนาคม 2019 ตามเวลาท้องถิ่น

เวลานี้ทางเลือกต่างๆ ที่เป็นไปได้ในการทำข้อตกลงระหว่างอียูและอังกฤษดูเหมือนจะมีความเป็นไปได้เพียงน้อยนิดที่ข้อตกลงแต่ละทางจะผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภาอังกฤษ

ในอีกทางหนึ่งเสียงเรียกร้องให้เกิดการลงประชามติรอบที่สองเกี่ยวกับ “เบร็กซิท” ก็เริ่มดังมากขึ้นเรื่อยๆ

นั่นหมายความว่าหนทางที่จะหลีกเลี่ยง “ความโกลาหล” จาก “โนดีล-เบร็กซิท” นั้นอาจมีคำตอบอยู่ที่การส่งคืน “หน้าที่การตัดสินใจ” ให้กับประชาชนก็เป็นไปได้

 

นอกจาก “เบร็กซิท” ที่เป็นฮอตสปอตในปี 2019 แล้ว การเลือกตั้งครั้งสำคัญจะเกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสภายุโรปจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 23-26 พฤษภาคม เพื่อเลือกสมาชิกจำนวน 705 คนเข้าสู่สภา และจะเป็นที่จับตามองอย่างแน่นอนว่า กลุ่มการเมืองประชานิยมขวาจัด ที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในหลายประเทศจะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในภูมิศาสตร์การเมืองยุโรปมากน้อยแค่ไหน

การเลือกตั้งจะมีขึ้นในอีกหลายๆ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นไนจีเรีย ที่ประธานาธิบดีมูฮัมมาดู บูฮารี จะต้องแข่งขันกับคู่แข่งมากถึง 78 คนในการเลือกตั้ง ประเทศประชาธิปไตยขนาดใหญ่อย่างอินเดีย ที่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ต้องชิงตำแหน่งสมัยที่ 2

ที่อินโดนีเซีย โจโก วิโดโด ประธานาธิบดี ต้องเผชิญกับคู่แข่งประชานิยมขวาจัด ขณะที่ประเทศแอฟริกาใต้ก็จะมีการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม อาร์เจนตินาและแคนาดาก็จะมีการเลือกตั้งในเดือนตุลาคม และแน่นอนไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย

นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น ที่สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะจะทรงสละราชสมบัติในเดือนเมษายน ผลจากพระพลานามัยที่ไม่สู้ดีนัก นับเป็นครั้งแรกที่จักรพรรดิญี่ปุ่นประกาศสละราชสมบัติในรอบ 200 ปี

สำหรับสหรัฐอเมริกา ในปี 2019 ก็เป็นปีสำคัญสำหรับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐที่จะต้องเผชิญกับข้อสรุปของการสอบสวนข้อกล่าวหาที่ทรัมป์ไปมีความเกี่ยวข้องกับกรณีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐเมื่อปี 2016 จากทีมที่ปรึกษาพิเศษนำโดยโรเบิร์ต มุลเลอร์ อย่างไรก็ตาม ผู้สันทัดกรณีคาดการณ์ว่าทรัมป์จะรอดพ้นการถูกถอดถอนจากกรณีดังกล่าวไปได้

และทรัมป์จะถูกตัดสินในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในปี 2020

 

อีกกรณีที่ต้องจับตามองในปี 2019 นั่นก็คือการยุติสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนลงเป็นการชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน ตามข้อตกลงเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาจะสิ้นสุดลง

ในช่วงเวลานี้จีนและสหรัฐอยู่ระหว่างการทำข้อตกลงซึ่งนักวิเคราะห์การเมืองระหว่างประเทศมองว่า สองฝ่ายจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงระหว่างกันได้เนื่องจากจีนจะไม่มีทางที่จะยุติโมเดลการพัฒนาเศรษฐกิจที่มีรัฐเข้าแทรกแซงลงได้ ส่งผลให้สุดท้ายแล้วในช่วงกลางปี 2019 สหรัฐอเมริกาจะดำเนินนโยบาย “ประกาศสงครามการค้า” กับจีน ด้วยการขึ้นกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศจีนจำนวนมหาศาลอีกครั้ง

สำหรับเศรษฐกิจโลกนั้น ผู้เชี่ยวชาญมองว่าในปี 2019 จะเป็นปีที่เมล็ดพันธุ์ของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจะถูกบ่มเพาะ ผลจากการกำหนดนโยบายที่ย่ำแย่ อย่างเช่น การขึ้นอัตราดอกเบี้ย บวกกับการเติบโตที่ช้าลงในจีน ก่อนที่หายนะทางเศรษฐกิจที่แท้จริงจะมาถึงในปี 2020

ขณะที่ธนาคารโลกเองได้คาดการณ์เอาไว้ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวในปีนี้ ผลจากการตัดลดภาษีตามนโยบายของทรัมป์ในสหรัฐ ขณะที่จีนเองก็จำเป็นต้องเข้มงวดกับการปล่อยกู้มากขึ้น

นอกจากเหตุการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจเหล่านั้นแล้ว ในปี 2019 จะเป็นอีกปีที่มีการฉลองการครบรอบสำหรับหลายๆ เหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการครบรอบ 100 ปีการทำ “สนธิสัญญาแวร์ซาย” สนธิสัญญายุติสงครามโลกครั้งที่ 1 อย่างเป็นทางการ ไม่เพียงเท่านั้น ยังเป็นปีแห่งการครบรอบ 70 ปีการก่อตั้งองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ด้วย

 

ในปี 2019 ยังเป็นหมุดหมายสำคัญของการคาดการณ์ในหลายเรื่อง เช่น จำนวนผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ ขณะที่ในสหรัฐอเมริกาจะมีประชากรที่มีอายุมากกว่า 60 ปี มากกว่าประชากรที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปีเป็นครั้งแรก

สำหรับโลกเทคโนโลยี ในปีนี้จะเป็นปีที่ 50 หลังจากนีล อาร์มสตรอง ขึ้นไปเหยียบบนดวงจันทร์ได้สำเร็จ และยังเป็นปีที่จะมียานอวกาศเอกชนจากทั้งบริษัทสเปซเอ็กซ์ และโบอิ้ง นำนักบินอวกาศขึ้นไปยังสถานีอวกาศนานาชาติเป็นครั้งแรก

ไม่เท่านั้น ชาวโลกจะได้เห็นภาพ “หลุมดำ” ภาพแรกที่จะถูกส่งมาจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศ “อีเวนต์ ฮอไรซอน” รวมไปถึงผลการวิเคราะห์ก๊าซมีเทน ที่พุ่งขึ้นจากดาวอังคาร ผลงานของยานอวกาศ “เทรซก๊าซออร์บิเตอร์” ขององค์การอวกาศยุโรป หรืออีเอสเอ ที่กำลังโครจรรอบดาวอังคาร เพื่อตรวจสอบว่าก๊าซมีเทนดังกล่าวจะมีความเกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตบนนั้นหรือไม่

เรื่องราวเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่พอจะคาดคะเนกันได้ ทว่านั่นคงจะเป็นส่วนน้อยหากเทียบกับสิ่งที่ยากจะคาดเดาในปี 2019 นี้