วันที่ 9 ธันวาคมของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็นวันต่อต้านคอร์รัปชั่นแห่งชาติของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว บรรยากาศของวันที่ 9 ธันวาคมปีนี้ไม่ค่อยดีเท่าใดนัก

เนื่องจากยิ่งนานวัน สถานการณ์คอร์รัปชั่น กินสินบาทคาดสินบนในลาวยิ่งเลวร้ายลงทุกที

เลวร้ายลงถึงระดับที่เจ้าหน้าที่รัฐหลายต่อหลายคนออกปากว่า นี่คือปัญหาใหญ่ที่ต้องจัดการต่อต้านและปราบปราม

เวียงทอง สีพันดอน ประธานสุภาพสตรีของสำนักงานตรวจบัญชีแห่งรัฐ แถลงต่อรัฐสภาเมื่อ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า ในขวบปีที่ผ่านมามีการตรวจสอบคอร์รัปชั่นต่อ “เป้าหมาย” 45 เป้าหมาย

ผลที่ได้คือ พบว่ารัฐบาลได้รับความเสียหายสูงมาก สูญเสียเงินที่ควรจะเป็นงบประมาณของรัฐมากถึง 300 ล้านดอลลาร์ หรือราว 9,750 ล้านบาท

ปีหน้าจะสอบสวนอีก 99 เป้าหมาย ซึ่งหมายถึงหน่วยงานของรัฐที่ได้รับเงินช่วยเหลือ หรือเงินกู้จากแหล่งที่มาในต่างประเทศ

 

บุนทอง จิตมะนี รองนายกรัฐมนตรีลาว เปิดเผยในระหว่างการประชุมพรรคเมื่อไม่นานมานี้เช่นกันว่า หน่วยงานต่างๆ ที่อยู่ใต้การกำกับดูแลของตนตรวจสอบพบการคอร์รัปชั่นมากถึง 146 กรณี รวมจำนวนผู้เกี่ยวข้องทั้งสิ้น 994 ราย ยอดความเสียหายสูงถึง 120 ล้านดอลลาร์ (ราว 3,900 ล้านบาท)

ถึงตอนนี้ มีผู้ต้องหา 14 รายถูกพิพากษาว่ากระทำความผิดในฐานเป็นอาชญากรทางเศรษฐกิจ อีก 520 รายถูกตั้งข้อหาและรอการดำเนินคดี ส่วนที่เหลืออีก 420 รายกำลังถูกสอบสวน ที่เหลือทั้งหมดอยู่ในขั้นตอนสอบปากคำ

สีนาย เมียงลาวัน รองประธานสำนักงานต่อต้านคอร์รัปชั่นและการตรวจสอบแห่งรัฐ บอกว่า ทางสำนักงานได้ร่วมมือกับกระทรวงต่างๆ ตรวจสอบลงไปถึงระดับจังหวัดทั่วประเทศมาตั้งแต่ปี 2017 รวมแล้วมีตัวบุคคลถูกตรวจสอบ 587 ราย ในหน่วยงานทั้งสิ้น 37 หน่วยงาน

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในของกระทรวงความมั่นคงของลาว เปิดเผยในวันต่อต้านคอร์รัปชั่นว่า ในการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงานในสังกัดของตัวเองตลอดปีที่ผ่านมา พบกรณีคอร์รัปชั่น 64 คดี ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ 24 นายที่ถูกพบว่ายักยอกเงิน 360,000 ดอลลาร์ หรือราว 11.7 ล้านบาท ทั้งหมดถูกไล่ออกก่อนถูกดำเนินคดี

ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา กระทรวงการคลังเองไล่ออกพร้อมดำเนินคดีเจ้าหน้าที่กระทรวงรวม 8 ราย หนึ่งในจำนวนนั้นดำรงตำแหน่งสูงถึงอธิบดี

ทั้งหมดถูกตั้งข้อหาใช้เอกสารปลอมเพื่อนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงโดยไม่ต้องเสียภาษี ด้วยการอ้างว่าเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับการก่อสร้างถนนซึ่งได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า ทำกำไรเข้ากระเป๋าตัวเอง 1.3 ล้านดอลลาร์หรือกว่า 42 ล้านบาท

 

ดร.พันคำ วิพาวัน รองประธานาธิบดีลาว ยอมรับว่ากฎหมายไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์พอ เจ้าหน้าที่รัฐในทุกระดับฉ้อฉล ใช้อำนาจหน้าที่และตำแหน่งของตัวเอง “ปล้น” เงินของชาติ

โกงกินสินบนกันทั้งที่อยู่ในรูปของที่ดิน, เงิน, ไม้, เรื่อยไปจนถึงทองคำ นำเข้าพกเข้าห่อตัวเอง ทำให้ 5 ปีที่ผ่านมาลาวเสียหายไปไม่น้อยกว่า 600 ล้านดอลลาร์

ที่สำคัญ ชื่อเสียงด้านนี้ของลาวยิ่งนานยิ่งกระฉ่อน องค์การเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ จัดอันดับคอร์รัปชั่นลาวให้อยู่ที่อันดับ 135 จาก 180 ประเทศในปีนี้ แย่ลงกว่าปีที่ผ่านมา 12 อันดับ

จากคะแนนเต็ม 100 สำหรับประเทศที่ปลอดคอร์รัปชั่นสูงสุด ลาวทำได้เพียง 29 คะแนนเท่านั้น

กลายเป็นประเทศที่คอร์รัปชั่นมากสุดเป็นอันดับที่ 2 ในบรรดาสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ด้วยกัน

เป็นรองเพียงแค่กัมพูชา ของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน เท่านั้นเอง