หนุ่มเมืองจันท์ : อย่ากลัว “ปัญหา”

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

ไปงานสัมมนาเรื่อง “เชียงใหม่ 2019 Smart Economy, Smart City ก้าวใหม่สู่อนาคตที่มั่นคง” ของ “ประชาชาติธุรกิจ”

หน้าที่ของผมคือ สัมภาษณ์คุณวาสนา รุ่งแสนทอง เจ้าของผลิตภัณฑ์ “นารายา”

กระเป๋า “นารายา” นั้นเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ ทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฯลฯ

นักท่องเที่ยวเข้าคิวซื้อเหมือนแจกฟรี

กระเป๋าผ้า “นารายา” เป็นสินค้าที่นักท่องเที่ยวนิยมซื้อไปฝากเพื่อนๆ

เพราะมีคุณสมบัติครบถ้วนของการเป็น “ของฝาก” ที่ดี

1. เบา ของฝากที่ดีต้องมีน้ำหนักเบา จะได้ไม่เสียค่าน้ำหนักเพิ่มตอนขึ้นเครื่องบิน

2. ยืดหยุ่น ไม่แตกง่าย กระเป๋าผ้า “นารายา” มีคุณสมบัตินี้สมบูรณ์พร้อม

จะแทรกไว้ตรงไหนของกระเป๋าเดินทางก็ได้

และ 3. “มูลค่า” ในใจสูงกว่า “ราคา” แท้จริง

กระเป๋าผ้าของ “นารายา” ราคาถูกมากครับ

คุณวาสนาใช้คำว่า “ราคาโรงงาน”

กระเป๋าใบเล็กๆ 50-60 บาท

แต่เป็น “ของฝาก” ที่คนได้รับจะรู้สึกว่าเป็น “ของพรีเมี่ยม”

ทั้งสวยและราคาต้องแพงแน่เลย

ใครได้ก็ชอบ

ผมเคยสัมภาษณ์คุณวาสนามาแล้ว 2 ครั้ง

ครั้งแรก ในงานสัมมนาของ “ประชาชาติธุรกิจ” ที่ กทม.

มีเวลาจำกัดแค่ 30 นาที

ถาม-ตอบ กันแบบรีบเร่ง

สนุกมาก

พอได้คุยอีกครั้งใน “ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ LIVE” ของผม

LIVE ไม่จำกัดเวลา

คุยกัน 2 ชั่วโมงกว่าเลยครับ

สนุกมาก

คุณวาสนาเป็น “คนเก่ง” แบบ “เท้าติดดิน”

ลุยงานจริง รู้งานตั้งแต่ต้นจนจบ

เหมือน “อับดุล” เลยครับ

ถามอะไรตอบได้หมด

คุยกันครั้งนี้ยังสนุกเหมือนเดิม

ทั้งที่เพิ่งคุยกันได้ไม่นาน แต่ “นารายา” ไปไกลมาก

คุณวาสนาปรับ “นารายา” จาก “กระเป๋า” เป็น “ไลฟ์สไตล์แบรนด์”

มีทั้งกระเป๋า เสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวรวม 6 แบรนด์

และร้านชา NaRaYa Tea Room

ตอนที่คุยกันครั้งแรกยังมีแค่ 2 แบรนด์

กะพริบตาแป๊บเดียว

“นารายา” ไม่เหมือนเดิมแล้ว

ช่วงท้ายเปลี่ยนมาคุยเรื่อง “หลักคิด” ของคุณวาสนา

เธอเป็นคนที่ไม่กลัว “ปัญหา”

เพราะผ่านมาเยอะแล้ว

“มุมมอง” ต่อ “ปัญหา” ของเธอเป็นไปในทางบวก

ช่วงที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตคือ ตอนที่เริ่มทำธุรกิจ

เป็นหนี้เป็นสิน ต้องหยิบยืมเงินคนอื่น

จนวันหนึ่ง เธอรู้สึกแย่มาก

ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว

คืนนั้น เธอตัดสินใจไหว้พระครั้งสุดท้าย

ขณะที่ก้มกราบพระ น้ำตาไหลออกมา

วินาทีนั้นเอง เธอรู้สึกฮึดขึ้นมาอีกครั้ง

ตั้งคำถามว่า เมื่อเรายังมี 2 แขน 2 ขาครบถ้วน

ทำไมเราจะยอมแพ้ง่ายๆ

เธอตัดสินใจสู้ต่อ

พอ “สติ” มา “ปัญญา” ก็เกิด

คิดใหม่ ถามว่า เรายังมีอะไรเหลืออยู่บ้าง

คำตอบก็คือ “กระเป๋าผ้า” ที่อยู่ในสต๊อก

แทนที่จะรอออเดอร์ส่งออกที่ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะมา

ทำไมเราไม่เปิดหน้าร้านขายเลย

คุณวาสนาตัดสินใจเปิดแผงเล็กๆ ขนาด 2 x 2 ที่ “นารายณ์ภัณฑ์”

ขายวันแรกได้วันละ 2,000 บาท

วันต่อมา 3,000

ยิ่งขายยิ่งมี “กำลังใจ”

นั่นคือ จุดเริ่มต้นของ “นารายา” ครับ

ถ้าไม่มี “ปัญหา” ในวันนั้น

ก็ไม่มี “นารายา” ในวันนี้

จากที่เคยทุกข์เพราะมองแต่สิ่งที่หายไป

พอเปลี่ยนมามองสิ่งที่เรามีอยู่

และสู้กับมันอีกครั้ง

สุดท้ายเธอก็ชนะ

อีกเรื่องหนึ่งคือ ตอนที่รับออเดอร์จากต่างประเทศจำนวนมาก

พอถึงเดือนพฤศจิกายน ลูกจ้างขอลาไปทำนา

แล้วใครจะเย็บกระเป๋า

คุณวาสนาไม่รู้จะทำอย่างไร

คิด-คิด-คิด

เธอจึงเสนอลูกจ้างว่า ไหนๆ จะกลับไปแล้ว เอาจักรเย็บผ้าไปด้วยไหม

ไปทำที่บ้านต่างจังหวัดได้เลย

จาก “ปัญหา” ในวันนั้น กลายเป็น “โอกาส” ใหม่ทางธุรกิจ

คุณวาสนาเปิดโรงงานในต่างจังหวัด 3 แห่ง

คนงานไม่ต้องเข้ากรุง

ทำงานที่บ้านได้เลย

ปัญหาแรงงานไม่มี

คนงานมีความสุข

“ต้นทุน” ก็ต่ำกว่าโรงงานใน กทม.

ประสบการณ์ 2 ครั้งนี้เป็น “ตัวอย่าง” ที่ดียิ่ง

ทุกครั้งที่มี “ปัญหา”

เธอไม่เคยกลัว

และคิดเสมอว่า “โอกาส” ใหม่มาแล้ว

แม้แต่ร้าน NaRaYa Tea Room ที่เปิดในร้านขายกระเป๋านารายาที่ “ไอคอนสยาม” ก็เช่นกัน

เกิดจาก “ปัญหา” ครับ

“ปัญหา” ของคุณวาสนาก็คือ ลูกค้าบางกลุ่มจะเดินช้อปปิ้งในร้านอย่างรีบเร่ง

แทนที่จะเดินเลือกนานๆ

ตามหลักของการขายสินค้า ยิ่งลูกค้ามีเวลาในร้านมากเท่าไรก็ยิ่งซื้อมากเท่านั้น

ลูกค้ากลุ่มนี้คือ “ผู้หญิง” ที่มากับแฟนหรือสามี

“ผู้ชาย” คือตัวปัญหา

ยืนอยู่หน้าร้าน ทำหน้าตาเบื่อหน่าย

มองเข้ามาในร้านเป็นพักๆ

เมื่อไรจะซื้อเสร็จสักที

นั่นคือที่มาของ NaRaYa Tea Room ครับ

ร้านนั่งรอสำหรับ “ผู้ชาย”

ที่ขาย “ชา” ไม่ใช่ “กาแฟ” เพราะกลุ่มเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวจีน ญี่ปุ่น

กลุ่มนี้ชอบดื่มชา

ให้ “ผู้ชาย” นั่งจิบชา กินขนม ดูมือถือไปเรื่อยๆ

“ผู้หญิง” จะได้ช้อปสบายๆ

“รายได้” จากร้านชาอาจจะไม่เท่าไร

แต่ “รายได้” จาก “กระเป๋า” เพิ่มขึ้นแน่นอน

ฟังคุณวาสนาเล่าอย่างสนุกสนาน

มองลงจากเวทีเห็น “ผู้หญิง” หัวเราะชอบใจ

แต่ “ผู้ชาย” หลายคนน้ำตาซึม