หนุ่มเมืองจันท์ : ก้าว

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

บ่ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เสียงโทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้น

“สวัสดีครับพี่ตุ้ม ผมตูนนะครับ”

มีตั้งหลาย “ตูน” ในเครื่องของผม

แต่โทรศัพท์สายนี้ขึ้นแต่เบอร์ ไม่มีชื่อ

ตูน…ตูนไหน

แต่เสียงเบาๆ พร่าๆ แบบนี้ น่าจะเป็นคนนี้

คนที่อยากให้คนไทยบินได้

“ตูน บอดี้แสลม”

ผมรู้จักกับ “ตูน” แต่ไม่เคยโทร.คุยกันเลย

ถ้าโทร.มาหาแบบนี้คงต้องเป็นเรื่องใหญ่

และก็เป็น “เรื่องใหญ่” จริงๆ

“ตูน” เริ่มต้นเล่าช้าๆ ตามสไตล์ว่าเขาได้ไปโรงพยาบาลบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์มา

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอยากให้เขาไปร่วมวิ่งมาราธอนเพื่อกระตุ้นให้คนออกกำลังกาย

และถ้ามีเงินเหลือก็จะนำเงินไปซื้ออุปกรณ์การแพทย์เพิ่มเติม

โรงพยาบาลบางสะพานเป็นโรงพยาบาลขนาด 90 เตียง

เป็นโรงพยาบาลขนาดกลาง อยู่ระหว่างโรงพยาบาลใหญ่ 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลในตัวเมืองประจวบฯ และโรงพยาบาลประจำจังหวัดชุมพร

ถ้าคนไข้ในพื้นที่ที่เป็นโรคที่ต้องใช้อุปกรณ์การแพทย์บางอย่างก็จะต้องเดินทางไปโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในเมืองก็ต้องเสียค่าเดินทางสูง

“ตูน” เล่าว่าเครื่องส่องไฟเด็กทารกเพื่อป้องกันตัวเหลือง ที่โรงพยาบาลนี้ต้องใช้แบบแบ่งปัน

พออบเด็กคนหนึ่งได้พักหนึ่งก็ต้องเปลี่ยนให้เด็กคนใหม่ที่อาการหนักกว่ามาแทน

และปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย

เมื่อ “ตูน” เข้าไปเห็นสภาพของโรงพยาบาล เขาก็เกิดความคิดขึ้นมาว่าอยากช่วยมากกว่านั้น

เขาเห็นรายชื่อผู้บริจาคในโรงพยาบาลซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนที่มีฐานะ บริจาคเงินจำนวนมากๆ

แต่ “ตูน” เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่มีน้ำใจ อยากช่วยเหลือ แต่อาจจะมีกำลังทรัพย์ไม่มากนัก

เขาอยากทำอะไรบางอย่าง เพื่อให้ทุกคนมาช่วยกัน

ตอนแรก “ตูน” ไม่กล้าออกตัวแรง

อยากทำเงียบๆ

แต่เมื่อมาคุยกับ “ปิงปอง” ของ “อะเดย์” ที่สนิทกัน

“ปิงปอง” พร้อมช่วยเรื่องประชาสัมพันธ์ทั้งสื่อในมือ และสื่อที่รู้จัก

ตอนแรก “ตูน” ไม่เอา เขากลัวคำครหาว่าทำดีเพื่อเอาหน้า

ครับ ถ้าใครรู้จัก “ตูน” จะรู้เลยว่านี่แหละตัวตนจริงๆ ของ “ตูน”

แต่ “ปิงปอง” บอกว่าถ้าเราตั้งใจทำดี อย่ากลัวคำนินทา

เพราะเราไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง

แต่เราทำเพื่อคนอื่น

ผมเห็นด้วยกับ “ปิงปอง” ครับ

คงไม่มีใครคิดว่า “ตูน” ต้องการสร้างชื่อเสียงจากโครงการนี้

เพราะแค่นี้ “ตูน” ก็ดังไม่รู้จะดังอย่างไรแล้ว

แต่ถ้าเขาใช้ความมีชื่อเสียงที่คนชื่นชมจำนวนมากสร้าง “แรงบันดาลใจ” ให้ผู้อื่น

เขาควรต้องประชาสัมพันธ์

“ผมเลยตัดสินใจโทร.หาคนที่รู้จักเล่าเรื่องโครงการนี้”

นี่คือ จุดเริ่มต้นของโครงการ “ก้าว”

และเป็นที่มาของเสียงโทรศัพท์สายนี้

…ผม “ตูน” นะครับ

“ตูน” ปรับโครงการใหม่

เขาบอกว่าถ้าจัดวิ่งมาราธอนตามปกติ ค่าใช้จ่ายจะสูงมาก

เงินที่จะนำไปทำบุญหักค่าใช้จ่ายแล้วจะเหลือไม่มากนัก

เขาตัดสินใจใช้ตัวของเขาเองเป็น “ต้นทุน” ในการระดมเงิน

วิ่งให้คนเห็น

ใช้ต้นทุนให้ต่ำที่สุด เพื่อให้เหลือรายได้มากที่สุด

จากเดิมที่จะเป็นแค่สีสันให้กับการวิ่งมาราธอนระดมทุนที่บางสะพาน

“ตูน” เปลี่ยนเป็นการวิ่งมาราธอนจาก กทม. ไปโรงพยาบาลบางสะพาน

ระยะทาง 400 กิโลเมตร

ใช้เวลา 10 วัน

วิ่งนานขึ้น เหนื่อยขึ้น ใช้เวลานานขึ้น

เขาต้องการให้ “ระยะทาง” และ “เวลา” ที่ยาวนานบอกเล่าเรื่องราวให้คนไทยทั้งประเทศได้รับรู้ถึง “ปัญหา” ที่หลายคนยังไม่รู้

“ผมถามท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาลหลายครั้งว่าต้องการเงินทุนเริ่มต้นเท่าไร ท่านก็ไม่ยอมบอก จนสุดท้ายจึงรู้ว่าประมาณ 5 ล้านบาทก็สามารถเริ่มต้นได้”

“ตูน” อยากชวนทุกคนร่วมบริจาคให้กับโครงการนี้

วิธีคิดของเขาน่าสนใจมากครับ

เขาบอกว่าการวิ่งของเขาเป็นแค่ “เครื่องมือ” ให้คนได้เห็นปัญหาร่วมกัน

ให้รับรู้ว่ายังมีที่ที่ต้องการความช่วยเหลือมากมาย

และคนอย่างเรา…ช่วยได้

“เงินเล็กๆ ของแต่ละคนรวมกันก็เป็นจำนวนมาก เงิน 1 บาทรวมกัน 1 ล้านคนก็เป็น 1 ล้านบาท 10 ล้านคนก็เป็น 10 ล้านบาท”

“ตูน” บอกว่าปัญหาเรื่องโรงพยาบาลขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์เป็นเรื่องที่เรารับรู้กันมานาน

รู้จนชินชา

“พูดกันเบาๆ อาจไม่มีใครได้ยิน เราต้องการเสียงตะโกนที่ดังพอ”

เขาบอกว่าการวิ่งในสวนสาธารณะ 3-4 รอบอาจไม่ดังพอ

“ตูน” จึงตัดสินใจวิ่งมาราธอน 400 กิโลเมตร

เริ่มต้นวันที่ 1 ธันวาคมนี้

วิ่งเป็นผลัดๆ ผลัดละประมาณ 10 กิโลเมตรแล้วพัก

ช่วงเช้า 2 ผลัด

ช่วงเย็น 2 ผลัด

วิ่งวันที่ 1-5 ธันวาคมแล้วพัก 1 วัน

วันที่ 7 วิ่งต่อจนถึงวันที่ 10

วันนี้พอเขาตัดสินใจที่จะ “ตะโกนเสียงดังๆ” ให้ทุกคนได้รับรู้

“ตูน” เปิดตัวเต็มที่

เขาไปคุยกับค่ายมือถือเพื่อขอเปิดช่องทางการบริจาคเงินผ่าน sms

ให้คนตัวเล็กๆ ได้มีส่วนร่วม

คนที่มีไม่เยอะ จะได้ออกมาช่วยกันเยอะๆ

ส่วนภาคเอกชนรายใดอยากเข้าร่วมโครงการนี้ให้แจ้งมาเลย

เขาพร้อม

จะพาพนักงานมาวิ่งร่วมกัน

หรือจะทำอะไรก็บอกมา

ส่วนใครจะบริจาคเงินเข้าร่วมโครงการ

ทางโรงพยาบาลก็เปิดบัญชีรอรับไว้แล้วครับ

“โครงการก้าวคนละก้าว เพื่อโรงพยาบาลบางสะพาน ธนาคารกรุงไทย บัญชีออมทรัพย์ สาขาบางสะพาน 742-0-37811-8”

ผมถาม “ตูน” ว่าทำไมใช่ชื่อโครงการว่า “ก้าว”

คำตอบของเขาคมคายมาก

เขาบอกว่าระยะทาง 400 กิโลเมตรอาจฟังดูว่าไกล

แต่ถ้าเราเริ่มด้วยก้าวเล็กๆ ทีละก้าวสองก้าว

เราก็อาจทำสำเร็จได้

“ถ้าการวิ่งของผมครั้งนี้ทำให้ใครสักคนมีชีวิตที่ดีขึ้น ได้ช่วยเหลือเด็กน้อยสักคน ช่วยคุณยายแก่ๆ สักคนให้หายจากโรค ผมก็ถือว่าคุ้มแล้ว”

ก้าวเล็กๆ ทีละก้าว ก็จะกลายเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่

ที่สำคัญที่สุด ก็คือ ต้องมี “ก้าวแรก”

ขออนุญาตบอกบุญทุกคน

ส่วนใครจะร่วมวิ่งกับ “ตูน” ก็เชิญเลยครับ

แฮ่ม…ผมจะเอาใจช่วยอย่างเหน็ดเหนื่อยอยู่ที่บ้าน