ฟ้า พูลวรลักษณ์ : ฉันไม่ให้โอกาส “สุเทพ” มองไม่เห็นว่าเขาจะกลับตัว

ฟ้า พูลวรลักษณ์

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก เล่มใหม่ (๒๐)

มีอันตรายหลายอย่าง ในตัวเผด็จการ

๑ การเอาแต่ใจตัวเอง

๒ การขาดความเห็นอกเห็นใจ

๓ ความโหดร้าย

ฉันจึงต้องคอยสังเกตเหล่าเผด็จการ ว่าความเห็นอกเห็นใจของพวกเขา เริ่มหดหาย เริ่มลดน้อยลง ความโหดเหี้ยมเริ่มผงกหัวขึ้น

อาการเอาแต่ใจตัวเอง เกิดขึ้นอย่างพร่ำเพรื่อ

ถ้าเช่นนั้น ก็หมดเวลาแล้ว สำหรับพวกเขา

ถ้ามีการเลือกตั้งพรุ่งนี้ ฉันจะไปเลือก โดยเรียงลำดับจากพรรคที่ฉันอยากเลือกมากที่สุดลงไปสู่พรรคที่ฉันอยากเลือกน้อยลงไป ได้แก่

๑ พรรคอนาคตใหม่

๒ พรรคเพื่อไทยหรือพรรคตัวแทน

๓ พรรคเพื่อชาติ

๔ พรรคประชาธิปัตย์

พรรคอนาคตใหม่ น่าเลือก เพราะไม่มีอดีต พวกเขาเป็นกลุ่มใหม่ สด มีพลัง มีความตั้งใจจริง ฉันว่าน่าเลือกที่สุด

เราอย่าเพิ่งคาดหวังในตัวพวกเขามากเกินไป แต่กระนั้นขอสักสิ่งที่เป็นรูปธรรม

หากพวกเขาทำได้จริง เช่น หากพวกเขาสามารถปราบทหารลงได้ ทำให้พวกเขาสิ้นฤทธิ์ ไม่อาจทำการรัฐประหารได้อีกต่อไป ผลงานชิ้นเดียวนี้ ก็ถือว่าสุดยอด

พรรคที่สองที่ฉันจะเลือกคือพรรคเพื่อไทยหรือพรรคตัวแทน ทั้งนี้เพราะถึงอย่างไรก็ดี ฉันก็ยังเห็นว่าทักษิณ ชินวัตร เป็นคนเก่ง น่านับถือ คนอื่นจะพูดอย่างไร ก็ยังเป็นเพียงแค่มายาภาพ จุดนี้ลึกซึ้งยิ่งนัก การตัดสินว่าอะไรจริงอะไรเท็จ

ข้อกล่าวหาที่มีต่อตัวเขามากมาย เรียกได้ว่าเขาคือปีศาจร้าย ที่สร้างความเสียหายแก่ชาติบ้านเมือง อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ชาติไทย ข้อกล่าวหาช่างร้ายแรงเหลือเชื่อ แต่มายาภาพก็เป็นเช่นนี้ มันจะเป็นอะไรก็ได้

ฉันไม่จำเป็นต้องรู้จักเขา หรือล่วงรู้ตื้นลึกหนาบางมากมาย เพียงแค่สังเกตสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เวลาเขาพูด เวลาเขาให้สัมภาษณ์ สังเกตพฤติกรรมบางอย่าง แค่นี้ฉันก็ตัดสินใจเลือกพรรคของเขาเป็นอันดับสอง คำพูดของเขามีค่ากว่านักวิจารณ์ทั้งหลายมารวมกัน

ฉันมองว่า เขาเป็นคนดี คนเก่ง ในความเป็นประชาธิปไตย อาจจะด้อยอยู่หน่อย ที่ทั้งพรรคต้องมาพึ่งพาคนเพียงคนเดียว แต่เมื่อมันเป็นเงื่อนไขแบบนี้ ฉันก็ยอมรับแบบนี้

รวมความคือพรรคเพื่อไทยหรือพรรคตัวแทน ยังน่าเลือก

ที่น่าแปลกคือพรรคเพื่อชาติ

ฉันเลือกเพราะฉันชอบจตุพร พรหมพันธุ์ เมื่อเขาออกจากคุก เขาเปลี่ยนไป

ปัญหาคือ ฉันยังเชื่อใจเขาได้ไหม แต่คิดดู การที่เขาเปลี่ยนไป เป็นไปตามภาวะของโลกที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง

หากเทียบไปกับณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ฉันว่าเขาน่าสนใจกว่านะ เพราะการย้ำในสิ่งเดิม ไม่น่าจะเป็นผลดี ฉันตัดสินใจเชื่อเขา แต่ทว่าทีมงานของเขาล่ะแข็งแกร่งขนาดไหน มองดูก็ยังน่าจะเป็นรองทีมเพื่อไทย

แต่รองลงไป กลับเป็นพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้า

เพราะน่าประหลาด ในช่วงหลัง ฉันพบว่าเขาเปลี่ยนไป

เขากลายเป็นนิวอภิสิทธิ์ เขาพูดถูกต้องทุกอย่าง แก้โจทย์ได้ดี มีความเก๋า

และหากสังเกตให้ดี มีความสำนึกผิดอยู่ข้างใน

เขาจะยอมรับออกมาตรงๆ หรือไม่ เป็นอีกประเด็นหนึ่ง

เรียกว่าน่าให้โอกาสเขาอีกสักครั้ง แม้ว่าเวลาตอบคำถามที่ว่า ทำไมในอดีตเขาไปบอยคอตการเลือกตั้ง เขาจะตอบได้ไม่ดีนัก เขาตอบว่านั่นเป็นมติของพรรค และเป็นความผิดของทุกคน

ซึ่งรวมไปถึงพรรคเพื่อไทยด้วย

ฉันว่าเขาก็ตอบได้มีเหตุผล เพียงแต่จะสง่างามกว่า และเป็นลูกผู้ชายกว่า หากเขายอมรับผิด ยอมรับว่าวันนั้นเขาตัดสินใจผิดไป บัดนี้เขาขอโอกาสแก้ตัวใหม่อีกครั้ง

มันตรงไปตรงมา และน่าเชื่อกว่า ซึ้งกว่าด้วย การที่ใครคนหนึ่งทำผิดแล้วยอมรับผิดตรงๆ แบบยืดอกยอมรับผิด แต่เขาคงเขินอาย ยังไม่กล้าพูดเต็มปากเต็มคำ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องรอง สิ่งที่เขาจะทำในวันข้างหน้าสำคัญกว่า

ประชาชนจำนวนไม่น้อยยังติดค้างในอดีต ยังไม่ยอมให้อภัยเขา แต่หากคิดให้ดี วันนั้นทุกคนก็ทำความผิดทั้งนั้น การกระทำรัฐประหารครั้งนี้ ทุกคนมีส่วนผิด

คนเราทำผิดกันได้ เพียงแต่จะยอมรับหรือไม่เท่านั้น วันนั้น พรรคเพื่อไทยก็ทำผิด นปช.ก็ทำผิด หากคนเราจะติดยึดในความผิด เราคงไม่ไปไหน

เราต้องสลายอคติให้หมด ยกโทษให้

ฉันให้ และอยากดูว่าเขาจะทำอะไรต่อไป ฉันยังมีความหวังอยู่กับพรรคการเมืองเก่าแก่นี้

แต่คนที่ฉันไม่ให้โอกาส เพราะมองไม่เห็นทางใดว่าเขาจะกลับตัว มีแต่เลวร้ายลงกว่าเดิม คือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ บุคคลร้อยเล่ห์ ที่ยังเก่งกาจได้เรื่อยๆ แต่ทว่าน่ารังเกียจมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเช่นกัน

พรรคใดที่สนับสนุนเผด็จการ จึงไม่อยู่ในลิสต์ของฉัน

พรรคที่พร้อมจะย้ายข้าง พร้อมจะขายตัว ก็ไม่อยู่ในลิสต์ของฉัน

มันเป็นการเมืองแบบเก่าที่น่าเบื่อ เหมือนเพลงท่วงทำนองเก่า เนื้อเพลงแบบเก่า ฉันไม่อยากฟังแล้ว