วางบิล/เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์/ หมู่ขัน อารมณ์ดี ประจำการ

วางบิล/เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์

หมู่ขัน อารมณ์ดี ประจำการ

หนังสือพิมพ์เข็มทิศ ฉบับที่ 2 ประจำวันที่ 7-13 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2520 หน้า 6 ยังมีชื่อนายแสงไทย เค้าภูไทย เป็นเจ้าของ บรรณาธิการ ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา มีชื่อบริษัท บางกอกคอมเมอร์เชียล ซัพพลาย จำกัด ดำเนินงาน สำนักงานยังเป็นที่เดิม ชื่อหนังสือหน้าแรก “เข็มทิศฉบับธุรกิจ” เติมคำว่า “ฉบับ” เข้ามา

ฉบับที่ 2 หน้า 6 ลงจดหมายของ “อึ่ง บางโพ กทม.” ความว่า

ผมมีโอกาสอ่าน “เข็มทิศ” ธุรกิจ ฉบับปฐมฤกษ์แล้ว รู้สึกมีความยินดีที่มีหนังสือพิมพ์ดีๆ ในด้านข่าวสารและวิเคราะห์ธุรกิจเกิดขึ้นอีกฉบับหนึ่ง

อยากจะขอติงสักนิดว่า “เข็มทิศธุรกิจ” ใช้กระดาษดีเกินไปและขายแพงเกินไป หากจะลดคุณภาพของกระดาษและขายให้ถูกลงจะดีไม่น้อย แต่หากจะคิดว่านักธุรกิจมีเงินซื้อ และถือเป็นเอกลักษณ์ทั้งในรูปแบบและราคา ก็คงไม่กระไรนัก

ขออวยพรให้ “เข็มทิศธุรกิจ” จงเป็นเข็มทิศที่มั่นคงสืบไปเบื้องหน้า แม้ว่าจะมีโอกาสชี้ไปในแนวธุรกิจทางเดียวก็ตาม และหวังว่าคงจะมีสักวันหนึ่งที่เข็มทิศจะชี้ไปในทางบ้านเมืองบ้าง

ผู้อ่านเมื่อ พ.ศ.2520 ยังติดราคาหนังสือพิมพ์รายวันทั่วไปที่ใช้กระดาษปรู๊ฟ แต่เข็มทิศธุรกิจใช้กระดาษปอนด์ขาว จึงต้องจำหน่ายในราคา 5 บาท ซึ่งผู้อ่านที่ใช้นามว่า “อึ่ง” เข้าใจถูกแล้วที่ว่า “คิดว่านักธุรกิจมีเงินซื้อ และถือเป็นเอกลักษณ์ทั้งในรูปแบบและราคา ก็คงไม่กระไรนัก”

การที่ต้องใช้กระดาษปอนด์ขาว เพื่อให้แตกต่างจากหนังสือพิมพ์รายวันทั่วไป ส่วนราคา 5 บาท เป็นเพราะต้นทุนสูงขึ้นเท่านั้นเอง คณะผู้จัดทำมิได้คิดจะค้ากำไรเกินควรแต่อย่างใด

หลังจากนั้นหนังสือพิมพ์เข็มทิศได้รับการตอบรับจากนักธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ทั้งจากการซื้อหนังสือพิมพ์ไปอ่าน ทั้งการให้สัมภาษณ์ข้อมูลข่าวสาร ที่เมื่อก่อนนักธุรกิจไม่ค่อยได้ให้สัมภาษณ์นักข่าวหนังสือพิมพ์เท่าใด

 

ครั้นขึ้นฉบับที่ 5 หัวหน้าแรกต้องเปลี่ยนชื่อไปใช้ “เข็มทิศ” ไม่มีคำว่าธุรกิจ ฉบับธุรกิจ ด้วยเหตุผลจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองการหนังสือพิมพ์ที่ทักท้วงมาว่า ผู้ขอหัวหนังสือพิมพ์ใช้ชื่อ “เข็มทิศ” ดังนั้น จะไปเพิ่มคำหรือตัดคำใดออกไม่ได้

หนังสือพิมพ์เข็มทิศเริ่มเป็นที่รู้จักของผู้อ่านทั่วไปและนักธุรกิจกว้างขวางขึ้น หนังสือพิมพ์เข็มทิศ ฉบับที่ 28 วันที่ 8-14 สิงหาคม 2520 จึงมีการเพิ่มรายชื่อผู้ปฏิบัติงานในกองบรรณาธิการเป็นกิจจะลักษณะ แต่เนื้อหาสาระยังเข้มข้นขึ้นทุกฉบับ

รายชื่อคณะกองบรรณาธิการในล้อมกรอบหน้า 6 เริ่มจาก ที่ปรึกษา ขรรค์ชัย บุนปาน ผู้อำนวยการ พงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร บรรณาธิการ แสงไทย เค้าภูไทย

กองบรรณาธิการ ไพสันต์ พรหมน้อย รัฐกร อัlดรธีรยุทธN ศิราพร ภูพงศ์ไพบูลย์ ขนิษฐา อังกาบศรี วชิราภรณ์ สุรวัฒนพงษ์ อารักษ์ คคะนาท ไพโรจน์ ปรีชา พิจารณ์ ตังคไพศาล

ผู้จัดการจัดจำหน่าย ยงยุทธ สฤษดิ์วานิช

ในนามบริษัท คอมเมอร์เชียล ซัพพลาย จำกัด

 

เข็มทิศฉบับที่ 31 ประจำวันที่ 29 สิงหาคม – 4 กันยายน 2520 ในฉบับหน้า 1 มีชื่อ “หมู่ขัน อารมณ์ดี” คอลัมนิสต์มาเพิ่มสีสันชื่อเรื่อง “โขกหมากรุกคนเดียว”

หมู่ขัน อารมณ์ดี เริ่มต้นคอลัมน์ด้วย (ถ้อยคำต่อไปนี้ ถอดจากแถบบันทึกเสียงในการที่หมู่ขัน อารมณ์ดี ได้รับเชิญจากสมาคมหมากถอยแห่งประเทศไทยกับสมาคมชาวราษฎร์สิ้นศรัทธาจัดขึ้นที่โรงแรมม่านรูด โดยไม่ขอระบุท้องที่ การปราศรัยวันนั้นประสบความสำเร็จยิ่งกว่านายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเยือน 6 ประเทศในเอเชีย แต่เนื่องจากผู้คนคับคั่งเพราะห้องของโรงแรมคับแคบมีอยู่ด้วยกันเพียง 2 คนเท่านั้น จึงขอนำมาถ่ายทอดให้ปรากฏ ณ ที่นี่)

หมู่ขันขึ้นต้นคำปราศรัยว่า

ท่านผู้มีเกียรติแต่จำเป็นต้องถอดเกือกก่อนขึ้นเตียงนอนที่รักทุกท่าน

กระผมใคร่แก้ข้อกล่าวหาเป็นคำนำก่อนเข้าเรื่องให้ตรงหัวข้อเสียก่อนว่า สิบเดือนที่กระผมหายไปมิได้หายไปเพื่อจ่ายตลาดที่วัดเทวราชกุญชร (ฮา) ไม่ได้ไปเมืองนอกเมืองนาติดๆ กันทั้งๆ ที่มีงานต้องทำอีกมากอยู่ในเมืองไทย (ฮา) กระผมมิได้หายไปไหน ไปถามเจ้าอาวาสที่วัดข้างบ้านดูเถิด 15 พฤษภาคม ถึง 30 กันยายน 2520 ของเมืองไทยไม่เคยว่างการปลูกป่าฉันใด กระดานหมากรุกที่วัดข้างบ้านก็ไม่เคยว่างกระผมฉันนั้น (ฮา)

ไม่ทราบว่าจะมีใครสังเกตถึงสรรพนามของกระผมที่ใช้คำว่า “กระผม” หรือไม่ ช่วยกันใช้ให้กว้างขวางเถิดขอรับ วาจาที่ไพเราะย่อมแสดงถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน ลมปากเป่าหูหวานๆ นั้นไม่เข้าใครออกใคร ถึงจะไม่มีสมรรถภาพ แต่ถ้าพูดพริ้งๆ เข้าไว้ ก็มีคนหลงเชื่อได้มาก ความข้อนี้กระผมได้เป็นผู้พิสูจน์ด้วยตัวเองที่หาดพัทยาเมื่อสองลองวีกเอนด์ (ภาษาอังกฤษจะสะกดยังไงก็ชjkงมันเถอะวะ) ก่อนกระผมได้พูดกระผมกับสตรีทั้งสุภาพและไม่สุภาพ ปรากฏว่าในช่วงเวลาเหล่านั้น ถ้ามีคาสโนว่าหรือดอนฮวนอยู่ด้วย ทะเลหน้าพัทยาก็อาจเป็นที่รองรับเรือนร่างของมะเร็งสังคมทั้งสองคนดังกล่าวด้วยอาการกระโดดน้ำตาย เพราะพ่ายแพ้ถ้อยคำของกระผมที่ใช้กระผมเป็นสื่อในการปล้นพรหมจารี (ซึ่งไม่มีแล้ว) ของเมียคนอื่น (ไม่มีเสียงฮา ปรบมือ มีแต่เสียงถ่มถุยจากห้องน้ำเข้ามาแทน)

ข้อเขียนที่มีทั้งเสียงฮา และไม่มีเสียงฮา ของหมู่ขัน อารมณ์ดี ร่ายยา;ไปอีกประมาณครึ่งหน้ากระดาษหนังสือพิมพ์ แล้วจบลงด้วย

ก่อนจบคำปราศรัยอันเลอะเทอะเปรอะเปื้อนในรอบ 10 เดือนของกระผมนี้ ใคร่ประทานกราบเรียนท่านผู้มีเกียรติทั้งหลายว่า โลกหมุนไป ใจหมุนวน ชีวิตคนย่อมหมุนวนตามโลกไป หรือไม่ก็ตะแบกบานแล้วร่วง สีม่วงยังเฝ้าชื่นชม หริ่งหรีดระงม นั่งตรมคอยแล้วไม่มา รวงเอ๋ยรวงทอง ช่างหมองใจเหี่ยวเหมือนข้าวคอยเคียว ให้คอยประเดี๋ยว แล้วแสร้งลดเลี้ยวไม่มา ฮัดเช้ย – สวัสดี

เนื้อหาสาระของหมู่ขัน อารมณ์ดี เป็นอย่างไร หวังว่าท่านผู้อ่านที่เคยอ่านวรรณกรรมของหมู่ขัน อารมณ์ดี คงทราบดีว่า อ่านแล้วอารมณ์ดีไปด้วยอย่างไร โดยเฉพาะในยุคของรัฐบาลเผด็จการที่จะมอบประชาธิxไตยให้ประชาชนเป็นขั้นตอน 12 ปี

เข็มทิศ ฉบับที่ 30 ประจำวันที่ 22-28 สิงหาคม 2520 จึงมีชื่อเรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์ ร่วมด้วย