รายงานพิเศษ / ถอดรหัสรอยยิ้ม ‘พี่ใหญ่’ กลางศึกเลือกตั้ง ทบ.ลุ้นข่าว ขยับ 5 เสือ ทบ. จับตา ‘บิ๊กอ้น-บิ๊กสน’ 2 เกลอ Icon ‘บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม’ ในสนามการเมือง

รายงานพิเศษ

 

ถอดรหัสรอยยิ้ม ‘พี่ใหญ่’

กลางศึกเลือกตั้ง

ทบ.ลุ้นข่าว ขยับ 5 เสือ ทบ.

จับตา ‘บิ๊กอ้น-บิ๊กสน’ 2 เกลอ

Icon ‘บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม’ ในสนามการเมือง

 

ไม่ว่าอนาคตของบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย หลังการเลือกตั้งหรือไม่

แต่บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์คนนี้ ก็จะทำหน้าที่ “พี่ชายที่แสนดี” ของ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างสุดความสามารถ

หลังจากที่ถูกจับตามองว่า เป็นผู้มีบทบาทสำคัญ เบื้องหลัง “พลังดูด” ของ คสช. และหลังการเลือกตั้งจะกลายเป็นผู้จัดการรัฐบาล

ยิ่งกระแสพรรคพลังประชารัฐมาแรง และคะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ดีวันดีคืน พล.อ.ประวิตรก็ยิ่งแฮปปี้

ด้วยความเป็นนายทหารที่เก็บความรู้สึกนึกคิดไม่อยู่ อารมณ์ดีหรือไม่ดี ก็จะแสดงออกให้เห็นกันชัดๆ

โดยเฉพาะในช่วงปลายปี พล.อ.ประวิตรยิ้มแย้มแจ่มใสอารมณ์ดีอย่างมาก แม้ในการให้สัมภาษณ์ในบางเรื่องก็ยังพูดไปยิ้มไป หัวเราะไป

ข่าวบางกระแสก็โฟกัสไปที่ผลสรุปการสอบสวนเรื่องนาฬิกาหรูของ ป.ป.ช.ในช่วงสิ้นปี ปัญหาที่ค้างคามาจะได้จบเสียที

หลังจากที่ พล.อ.ประวิตรก็สวมใส่ “นาฬิกาเรือนพิเศษ” ที่เจ้าตัวเคยเผยว่า ได้รับพระราชทานมา เรือนนี้เพียงเรือนเดียวมาตลอด ตั้งแต่มีเรื่อง

จนนักข่าวต้องซักถามว่า มีข่าวดีอะไรหรือไม่ หรือว่าเพราะสุขภาพแข็งแรงขึ้นนั้น พล.อ.ประวิตรบอกว่า ไม่มีอะไร แต่เพราะตัดสินใจว่าไม่เล่นการเมือง

“ไม่เล่นการเมือง ไม่เป็นสมาชิกพรรคไหน แต่พร้อมที่จะทำงานการเมือง” พล.อ.ประวิตรแจกแจง

พร้อมออกตัวไว้ว่า พร้อมจะช่วยงาน พล.อ.ประยุทธ์ หาก พล.อ.ประยุทธ์ต้องการให้ช่วย

แต่มีข่าวจากบรรดาคนใกล้ชิดว่า ข่าวดีหนึ่ง อาจหมายถึง การที่ พล.อ.ประวิตรได้รับคำชมจากบุคคลที่ พล.อ.ประวิตรเคารพนับถืออย่างสูงยิ่ง ในเรื่องการทำงาน และสไตล์แบบ “บิ๊กป้อม” ที่ตรงไปตรงมา ออกแนวลุยๆ นักเลงๆ นิดๆ

จนทำให้ พล.อ.ประวิตรมีกำลังใจในการทำงานต่อไป และทำให้อารมณ์ดี

ข่าวดีของ พล.อ.ประวิตรนี้ กำลังถูกตีความว่าจะเชื่อมโยงกับกองหนุนของ พล.อ.ประยุทธ์ ในการเข้าสู่การเมืองในอนาคตอันใกล้นี้ด้วยหรือไม่

เพราะ พล.อ.ประวิตร กับ พล.อ.ประยุทธ์ รวมถึงบิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ก็แทบจะเป็นคนคนเดียวกัน ด้วยความเป็นพี่น้อง 3 ป. ที่สนิทสนมรักใคร่ผูกพันลึกซึ้งกันมายาวนาน

จึงไม่แปลกที่  พล.อ.ประวิตรจะยิ่งกลายเป็นผู้มีบารมีอีกคนในแวดวงทหารและการเมือง

แม้จะไม่เท่าป๋าเปรม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เคยรุ่งเรืองมาในอดีตจนปัจจุบัน

แต่ในยุค 10 ปีนี้ พล.อ.ประวิตรก็ถูกเปรียบเทียบว่ามีบารมีในระดับ “ป๋า” เพียงแต่ไม่ได้ถูกเรียกว่า “ป๋า” แต่ใครๆ ก็เรียก “พี่” โดยเฉพาะ “พี่ป้อม”

ที่เชื่อกันว่า พล.อ.ประวิตรจะยังบทบาทสำคัญเคียงข้าง พล.อ.ประยุทธ์ต่อไป หาก พล.อ.ประยุทธ์ได้คัมแบ๊กกลับมา ไม่ว่าจะมีพี่ป้อมมาร่วม ครม.  หรือว่าอยู่เบื้องหลัง นอก ครม.ก็ตาม

แต่ที่ต้องจับตามองคือ พล.อ.ประวิตรได้วางแผนรองรับสถานการณ์ทางการเมืองไว้ในขั้นหนึ่งแล้ว

โดยเฉพาะเรื่องที่กำลังเป็นที่จับตามองของนายทหารในกองทัพบก คือ ข่าวที่สะพัดหนาหูว่า ในการแต่งตั้งโยกย้ายทหารกลางปี เดือนเมษายน 2562 ที่หลังปีใหม่ ก็จะทำโผกันแล้วนั้น จะมีการปรับเปลี่ยนในระดับห้าเสือ ทบ.

ด้วยเพราะมีข่าวว่า พลเอก ใน ทบ. 2 คน ลาออกไปเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โดยข่าวระบุว่าเป็นถึงระดับ 5 เสือ ทบ.

โดยพุ่งเป้าไปที่บิ๊กตู่ พล.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา ผช.ผบ.ทบ. น้องรักสายบูรพาพยัคฆ์ของ พล.อ.ประวิตร เพราะแม้จะเกษียณกันยายน 2563 แต่ทว่า ก็หมดหวังที่จะได้เป็น ผบ.ทบ.แล้ว เพราะเกษียณราชการพร้อมบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. เพื่อนรัก ตท.20

และก็หมดโอกาสที่จะไปเป็น ผบ.ทหารสูงสุด เพราะบิ๊กกบ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ก็เกษียณกันยายน 2563 พร้อมกัน

ส่วนปลัดกลาโหม ก็ไม่ว่าง เพราะบิ๊กณัฐ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ เพื่อน ตท.20 เกษียณราชการกันยายน 2564 เลยทีเดียว

จนทำให้เกิดกระแสข่าวที่เป็นผลพวงว่าจะมีการจัดวางตัว 5 เสือ ทบ.ใหม่ และเล็งกันไปที่บิ๊กบี้ พล.ท.ณรงค์พันธุ์ จิตต์แก้วแท้ แม่ทัพภาคที่ 1 สายวงศ์เทวัญที่กำลังมาแรง จะขยับขึ้นเป็นห้าเสือ ทบ.เลย เพื่อเตรียมจ่อเป็น ผบ.ทบ.ต่อจาก พล.อ.อภิรัชต์ ที่จะเกษียณกันยายน 2563

หรือในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น พล.อ.อภิรัชต์อาจจำเป็นต้องไปทำหน้าที่สำคัญกว่าก่อนเวลาที่จะเกษียณ เมื่อนั้น พล.ท.ณรงค์พันธุ์จะได้ขึ้นแทนได้ทันเวลา

จนทำให้เกิดข่าวลือ 2 ข่าวสะพัดซ้อนกันตามมาอย่างเชี่ยวกรากในกองทัพบก

หรือแม้แต่ข่าวที่ว่า บิ๊กนัย พล.ท.สุนัย ประภูชะเนย์ ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ผบ.นสศ.) ตท.21 จะขึ้นมาเป็นพลเอก ตำแหน่ง ผช.ผบ.ทบ. ในโยกย้ายเมษายนหน้าเลย

โดยมีบิ๊กยอง พล.ต.ภูมิพัฒน์ จันทร์สว่าง รอง ผบ.นสศ. ที่จ่อคิวอยู่ จะขึ้นมาเป็น ผบ.นสศ. คุมรบพิเศษหมวกแดงแทน

กระแสข่าวลือนี้ ทำให้เกิดความหวังบานสะพรั่งในหมู่นายทหารชั้นนายพลใน ทบ. ที่จะได้ขยับครั้งใหญ่ในช่วงโยกย้ายกลางปี ที่ปกติเป็นการโยกย้ายรองรับการเกษียณราชการเท่านั้น

และจะเป็นการโยกย้ายก่อนที่จะมีรัฐบาลใหม่ หลังการเลือกตั้ง โดยยังคงเป็นรัฐบาล คสช. และมี พล.อ.ประวิตรเป็น รมว.กลาโหมอยู่ตามเดิม เพราะกว่าที่จะมีรัฐบาลใหม่ ก็ราวเดือนพฤษภาคม 2562

พล.อ.กนิษฐ์ ชาญปรีชญา

แต่ในที่สุดก็มีรายงานว่า นายทหารระดับพลเอกใน ทบ. ที่ลาออกไปสมัครเป็น ส.ว. ก็คือน้องรักของ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์นั่นเอง

คนหนึ่งคือ บิ๊กอ้น พล.อ.กนิษฐ์ ชาญปรีชญา ที่ลาออกจากหัวหน้าคณะนายทหารฝ่าย เสธ.ประจำผู้บังคับบัญชา โดยเขาเป็น ตท.19 และเป็นน้องรักในสายทหารเสือราชินีของ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่สมัยอยู่ ร.21 รอ.มาด้วยกัน

อีกทั้งที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์พยายามผลักดันให้ลงตำแหน่งสำคัญมาหลายตำแหน่ง เช่น แม่ทัพภาคที่ 4 และห้าเสือ ทบ. แต่ก็เบียดน้องรัก พล.อ.ประวิตร ที่แข็งกว่า เด่นกว่าไม่ได้ จนได้เป็นแค่รอง เสธ.ทบ. และขึ้นพลเอกในตำแหน่งนี้ ก่อนจะลาออก

ส่วนอีกคนหนึ่งคือ บิ๊กสน พล.อ.สนธยา ศรีเจริญ อดีตแม่ทัพน้อยที่ 2 น้องรักของ พล.อ.ประวิตร ก็ลาออกจากผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทบ. เพื่อมาเป็น ส.ว.

พล.อ.สนธยา ศรีเจริญ

ไม่ใช่เรื่องเกินคาด ที่สองเกลอ ตท.19 นี้จะลาออกไปเป็น ส.ว. เพราะเหลืออายุราชการแค่ปีเดียว อีกทั้งเป็นนายทหารที่ช่วยงานการเมือง ทำงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตรมาตลอด

โดยเฉพาะในช่วงที่มีการดูดอดีต ส.ส. โดยเฉพาะในภาคอีสาน ให้มาเข้าพรรคพลังประชารัฐ ที่เชื่อกันว่าเป็นพรรคทหาร พรรคของ คสช. และมี พล.อ.ประวิตรเป็นผู้จัดการพรรคนั้น ทั้ง พล.อ.กนิษฐ์ และ พล.อ.สนธยา ก็ถูกพาดพิงว่าเป็นผู้ช่วยในการเจรจา

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พล.อ.สนธยา ซึ่งเติบโตมาในภาคอีสาน และมีตำแหน่งสำคัญในกองทัพภาคที่ 2 มาตลอดนั้น ได้ตกเป็นข่าวและถูกนักการเมืองปูดข่าวมาหลายครั้งว่าเป็นเจ้าของพลังดูดในภาคอีสาน

จนทำให้การที่ พล.อ.กนิษฐ์ และ พล.อ.สนธยา ลาออกไปเป็น ส.ว.นั้น ถูกมองว่าเป็นการเตรียมพร้อมที่จะไปทำงานการเมืองต่อ ในการดีลกับนักการเมือง รวมทั้งถูกมองว่า จะกลายเป็น “วิป” หรือแกนนำ ส.ว. หรือล็อบบี้ยิสต์ ที่จะคอยส่งสัญญาณให้ ส.ว. 250 คนได้รับรู้ทิศทาง หรือข่าวสารจาก พล.อ.ประยุทธ์ หรือ พล.อ.ประวิตร ในอนาคต

ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งหรือไม่ก็ตาม พล.อ.กนิษฐ์ และ พล.อ.สนธยา ก็จะเป็น ส.ว.ที่จะมีบทบาทสำคัญ

แถมทั้งก่อนหน้านี้ก็มีนักการเมืองบางคนในพรรคพลังประชารัฐปูดข่าว “นายพลเด็กบิ๊กป้อม” ไปยุ่มย่ามในพรรคพลังประชารัฐมาแล้ว

 

แต่ พล.อ.ประวิตรยืนยันว่าไม่มี เพราะตนเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชารัฐ และไม่ได้ส่งทหารคนใดไปช่วยทำงานในพรรคพลังประชารัฐ อาจมีคนอ้างชื่อ

แต่กระนั้น ในแวดวงนักการเมืองก็รู้กันดีว่าหมายถึงใคร และเป็นเรื่องจริงหรือไม่

เพราะนักการเมืองหลายขั้วหลายมุ้งในพรรคพลังประชารัฐก็ออกมาปูดเองว่า เข้าไปพบหารือกับ พล.อ.ประวิตรที่บ้านมูลนิธิป่ารอยต่อฯ ใน ร.1 รอ. ทุกวันพฤหัสฯ เพื่อวางแผนสู้ศึกเลือกตั้ง

แต่ พล.อ.ประวิตรก็ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ไม่เคยพบหารือกับนักการเมืองคนใดของพรรคพลังประชารัฐ

แต่กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้ภาพการเป็นมิสเตอร์ดีล หรือผู้จัดการรัฐบาลของ พล.อ.ประวิตร จางหายไปแต่อย่างใดเลย

   อีกไม่นาน การณ์ก็จะปรากฏ…