หนังสือเรียนสำหรับเด็ก เล่มใหม่ (๑๙)

๑เหตุการณ์การลอบสังหารผู้สื่อข่าว จามาล คาช็อกกี ภายในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบีย ในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เป็นเหตุการณ์ที่ช็อกโลก

มันรุนแรงอย่างเหลือเชื่อ และมีผลกว้างใหญ่ต่อโลก ชนิดว่าเปลี่ยนประวัติศาสตร์เลยทีเดียว

น่าประหลาด ศพหนึ่งศพ แต่เปลี่ยนประวัติศาสตร์ ในขณะที่สงครามที่เยเมน คนตายมากมาย กลับไม่สามารถเปลี่ยนประวัติศาสตร์ได้

ชีวิตคนแค่คนเดียว แต่เปลี่ยนโลก

มันเคยเกิดขึ้น และกำลังเกิดขึ้นอีก

จามาล คาช็อกกี เป็นคอลัมนิสต์ของสำนักข่าววอชิงตันโพสต์ วัย ๖๐ ปี เขาหายตัวไปจากสถานกงสุลซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ ๒ ตุลาคมที่ผ่านมา

จากหลักฐานมากมาย ทำให้เชื่อว่า เขาถูกสังหารในสถานกงสุลแห่งนี้ มีเจ้าหน้าที่ ๑๕ นายที่ได้เตรียมการสำหรับการสังหารครั้งนี้ และเป็นการฆ่าหั่นศพทั้งเป็น หั่นร่างเป็นชิ้นๆ

เจ้าหน้าที่ ๑๕ นายนี้ เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงและคนสนิทของมกุฎราชกุมาร เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน การกระทำครั้งนี้ ได้เปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของเจ้าชายคนนี้แบบหมดจด ว่าความเป็นเผด็จการของเขาล้ำลึกขนาดไหน

แม้รัฐบาลซาอุฯ ยืนกรานปฏิเสธว่า สมเด็จพระราชาธิบดีและมกุฎราชกุมารต่างทรงไม่ทราบถึงปฏิบัติการดังกล่าว แต่ทั่วทั้งโลกก็เห็นว่า เรื่องใหญ่ระดับนี้ ไม่มีทางเป็นไปได้ หากไม่ได้รับคำสั่งโดยตรงจากพระองค์

๒หนึ่งใน ๑๕ เจ้าหน้าที่ดังกล่าว ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเข้าไปจัดการลบหลักฐานทุกอย่าง มีการเตรียมแม้แต่เลื่อยที่ใช้ตัดกระดูก

๓ไม่ต้องสงสัยว่าใครเป็นคนบงการ การลอบสังหารนักข่าวหนึ่งคนนี้

มันอาจจะส่งผลให้ชีวิตมกุฎราชกุมารท่านนี้ต้องจบลง และอาจลามปามไปถึงการล่มสลายของราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย

ไม่น่าเชื่อว่า ทำไมพวกเขากล้าทำดั่งนี้ เพราะนี่เป็นการกระทบจิตชาวโลกโดยตรง โดยเฉพาะชาวตะวันตก นี้เป็นการตบหน้าอย่างรุนแรงและหยาบคายที่สุด

คิดยังไงถึงได้กล้าทำแบบนี้

การสังหารคนที่เป็นนักข่าว และเป็นที่รู้จักทั่วโลก ในสถานกงสุล ซึ่งมันปิดไม่มิด ลบร่องรอยยังไงก็ไม่หมด ต่อให้เตรียมผู้เชี่ยวชาญยังไงก็ตาม เพราะทุกย่างก้าวที่เขาเดินเข้าไป ก็ถูกจับบันทึกไว้หมดแล้ว มีคนรอคอยเขาที่ข้างนอก อยู่ๆ คนคนหนึ่งจะหายตัวไปจากโลกนี้ได้อย่างไร คู่หมั้นของเขายืนรออยู่ และเจ้าหน้าที่ของตุรกีที่เขาติดต่อไว้ก็รออยู่

และคน ๑๕ คนนี้ ก็ชัดเจนว่าใครสั่งมา มาทำไม

เพราะด้วยเหตุผลใดที่ ๑๕ คนนี้จะมาสถานกงสุลแห่งนี้ ในเวลานี้ วันนี้

นี้เป็นการตบหน้าและถุยน้ำลายซ้ำ บนใบหน้าชาวตะวันตกทุกคนที่ยังพอจะมีอุดมการณ์ใดหลงเหลืออยู่ และชาวตะวันตก ต่อให้เป็นคนต่ำต้อยเพียงไหน ก็ยังต้องมีอุดมการณ์อยู่บ้าง นั่นคือ ความรักในเสรีภาพ อิสรภาพ การแสดงออก ความภาคภูมิใจในกฎหมาย ทุกอย่างถูกถุยถ่มลงไปหมดในคราวเดียวกัน

จริงอยู่ มกุฎราชกุมารท่านนี้อาจจะใช้พลังอำนาจทั้งหมด และทรัพย์สมบัติอันมหาศาลของราชวงศ์ซาอุฯ เข้ามา

๑ ติดสินบน

๒ blackmail

๓ ข่มขู่

๔ เปลี่ยนรูปคดี

กระทำทุกวิถีทาง เพื่อจะได้พ้นผิด

แต่มันจะได้ผลหรือ

๔ที่เขากล้าทำเช่นนี้ เพราะเขาเคยทำมาแล้ว เขาเลยติดใจ ติดนิสัย

เคยมีเจ้าชายซาอุฯ หลายพระองค์หายตัวไป

การลอบสังหารคนที่ไม่เห็นด้วยกับเขา

แต่ครั้งนี้รุนแรงที่สุด และชัดเจนที่สุด ส่วนทรัมป์งานนี้ก็คงต้องพยายามสุดชีวิตที่จะปกป้องมกุฎราชกุมารคนนี้ เพราะผลประโยชน์มหาศาลร่วมกัน เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ชาวโลกต้องจดจำความน่าเกลียด และหน้าด้านของเขา

๕ งานนี้ทำให้ฉันเข้าใจ ว่าเผด็จการที่มีอำนาจมาก ถึงจุดหนึ่ง

จะใช้ตับคิดแทนสมอง

เพราะมีแต่คนที่ใช้ตับคิดแทนสมองเท่านั้น จึงจะทำเรื่องแบบนี้ได้

๖ เขาอาจรอดตัวครั้งนี้ได้ เพราะในที่สุด อำนาจอันมหาศาลของราชวงศ์ซาอุฯ จะกลบเกลื่อนเรื่องนี้ แต่ชาวโลกได้รู้ความจริงแล้ว ไม่อาจลืม

เท่ากับว่า เขาอาจจะรอด แต่ช้ำใน

และรอยช้ำนี้จะลึกล้ำยิ่งนักในแต่ละวัน

๗ เขาออกมาพูดหน้าตาเฉยว่า

คดีสังหารนายคาช็อกกีเป็นอาชญากรรมที่โหดร้ายและไร้เหตุผล สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์อันน่าเจ็บปวดอย่างยิ่งสำหรับชาวซาอุฯ ทั้งหมด และทุกคนในโลก ซาอุดีอาระเบียจะใช้กฎทุกอย่างที่จำเป็น และการสอบสวนอย่างจริงจัง เพื่อให้บรรลุผล นำตัวผู้ก่ออาชญากรรมเลวร้ายนี้มาขึ้นศาล

แปลกที่ว่า ยิ่งพูดยิ่งน่าเกลียด ชาวโลกก็รู้จักเขาเสียแล้ว รู้ว่า เจ้าชายองค์นี้ ที่จริงแล้วก็คือ อาชญากรคนนั้นนั่นเอง เสียงที่พูดออกมานี้ จึงซ่อนเสียงหัวเราะของเขา

ไม่ว่าเขาจะนิ่มนวลอ่อนโยนปานไหน ก็ยิ่งชี้ให้เห็นความอำมหิตของเขา

ทุกคนรู้ แต่แน่ละ บางคนยังต้องการทำการค้ากับเขา แลกเปลี่ยนผลประโยชน์กับเขา ยังหวังจะพึ่งพาเขา บางคนยังหวาดกลัวเขา

๘ ส่วนตัวฉันเอง ก็จะจดจำไม่รู้ลืม ว่าเผด็จการ ใช้ตับคิดแทนสมอง

มันเป็นความอำมหิตอย่างเหลือเชื่อ และฉันไม่อาจวางใจได้เลย

ทุกขณะที่ฉันยังมีชีวิตอยู่