ทวีปที่สาบสูญ : ทุกถนนหมื่นสาย โดย การะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์

ระริน…ถ้ายินเสียงเพรียก
หัวใจฉันเรียกชื่อเธอเสมอ

หากฉันสามารถล่วงรู้ได้ว่า เมื่อเราเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ แล้วจะได้เจออะไร…ถ้าเพียงแต่เราจะรู้ อะไรที่รออยู่คืออะไร มันจะดีกว่านี้มั้ย…ในบางห้วงเวลา ฉันก็อยากกรีดร้องตะโกนออกมาดังๆ เหมือนกัน

นี่มันห่าเหวอะไรนักหนา!

ทำไม! ทำไม! ชีวิตที่ต้องการเพียงห้วงยามอันเงียบสงบ เสี้ยวนาทีที่ได้ยื่นมือผิงไฟ มีดวงตาสวยสุดแสนอยู่ใกล้ๆ บนฟ้ามีดาวระยิบระยับเปล่งประกาย แค่อยากจะหายใจเอาความสุขเหล่านั้นเข้าเก็บตุนไว้เป็นเสบียง…แค่เพียงพริบตา ท้องฟ้าก็ถล่มลงมาอีก

อีกครั้งหนึ่ง ที่หูได้ยินเสียงหวีดร้องก้องยาวนาน ก่อนจะรู้ตัวว่ากำลังเข้าฉุดรั้งร่างที่สั่นสะท้าน

นางฟ้ากรีดเสียงโหยไห้ ขณะอามินดิ้นพราดๆ ใกล้กองไฟ

 

กลิ่นสาบเนื้อคนที่โดนไฟยังติดชัดอยู่ในจมูกของฉัน เฉกเช่นเดียวกันกับกลิ่นของเส้นผมที่แสบฉุนยามม้วนไหม้หงิกงอ ท่ามกลางอากาศหนาวเยียบเย็น หลายเท้ากระโจนกันเข้ามา อึกทึกกับการพยายามช่วยเหลืออามิน จนสุดท้าย เราก็ได้ยืนกอดกันอยู่ในโรงพยาบาล หน้าห้องฉุกเฉิน

“อามินจะต้องไม่เป็นอะไร”

ฉันบอกกับนางฟ้า ใบหน้าของเธอเปรอะเปื้อนมอมแมม ขี้เถ้า ขี้ดิน เขม่าควันไฟ ตัวฉันก็เหมือนกัน และท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายของผู้คนจำนวนหนึ่ง เราเฝ้าแต่จ้องมองช่องกรอบประตู

ผู้คนเข้าและออกไม่ขาดสาย ในคืนแห่งฝันร้าย ดูเหมือนจะมีผู้บาดเจ็บเข้ามาอีกหลายรายจากอุบัติเหตุอื่นๆ

ฉันเพิ่งรู้ว่า ภายในโฮงยา คือสถานที่ที่ไม่น่าเหยียบยืนที่สุดในโลก

“เดี๋ยวอามินก็หาย”

ฉันพูดพร่ำบอกกับเด็กสาวในอ้อมแขน นางฟ้าตัวสะท้านสั่นอยู่ไม่เลิกรา ถ้าอะไรสักอย่างจะทำให้ฉันเติบโตขึ้นอีกหลายขั้น มันคงจะเป็นคืนนั้น

ฉันข้ามผ่านความทุกข์ของตัวเอง ด้วยความเป็นห่วงคนอีกสองคนสุดจิตสุดใจ

“ไม่ร้องแล้วนะ อามินอยู่กับหมอแล้ว”

ฉันลูบมือไปทั่วร่างนางฟ้า ลูบผม ลูบหน้า ลูบหลัง นางฟ้าเองโอบรัดฉันไว้แนบแน่น ดูเธอจะขวัญเสียและหวาดกลัวยิ่งกว่าครั้งใดๆ

ฉันมาเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดเมื่อยินเสียงดังเข้าห้องโถงมา

“ไหน มันอยู่ไหน!”

มันควรจะเป็นเพียงฝันร้ายสักเสี้ยวเวลาหนึ่ง เพื่อให้เราตื่นขึ้นแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอกว่า…เราแค่ฝันไป แต่ไม่ใช่ มันคือฝันร้าย…ที่เป็นฝันร้ายจริงๆ

“ระริน!”

เสียงดุดังอย่างวางอำนาจ หนวดเฟิ้มกับร่างกายสูงหนาหยาบกร้าน ชายกักขฬะคนนั้น

“…พ่อ”

“มันอยู่ไหนแล้ว!”

“…อามินอยู่ในห้อง หมอกำลังช่วยอยู่”

“ดี! ตายๆ ห่าไปเสียได้ก็ดี” ชายคนนั้นสำรากคำออกมา “ไป งั้นหนูก็กลับบ้าน ไปกับพ่อ! นี่ถ้าไม่มีคนบอก ก็ไม่รู้เลยว่าหนีเรียนมาทำตัวอย่างนี้!”

“รินไม่ไป!”

เด็กสาวสลัดแขนออกจากการฉุดรั้ง

“หนูจะอยู่กับอามิน!”

“จะอยู่กับมันทำไม อีปู๊เมียขึดบ้านขึดเมือง!”

ฉันยืนตัวแข็งทื่อ พร้อมกันกับระรินแผดเสียง

“พ่อคิดยังงี้ได้ยังไง!”

ผู้คนเริ่มหันมามอง และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคนหนึ่งส่งเสียงขึ้นว่า…เงียบๆ หน่อยครับ! ชายมีหนวดจึงค่อยลดเสียงลง

“ลูกต้องกลับไปกับพ่อ”

“หนูไม่กลับ หนูจะอยู่ดูอามิน”

“จะดูมันไปทำไม ตายโหงตายห่าไปเสียก็ดี! ไงล่ะ อวดเก่งกันดีนัก นังนั่นก็นอนแบ็บอยู่ไม่ใช่รึ!” เสียงหัวเราะในลำคออย่างสาแก่ใจ

ฉันยืนกำหมัดแน่น ไม่เคยรู้สึกเกลียดชังใครเท่านี้มาก่อน

“จะไปไม่ไป!” สายตาน่ารังเกียจจ้องเข้าไปในดวงตานางฟ้า “ถ้าไม่ฟัง อยากจะรู้ความจริงบ้างไหมล่ะ!”

“หนูรู้แล้ว!” เด็กสาวแผดเสียงออกมา

“อามินเป็นแม่ของหนู! หนูรู้อยู่แล้ว!”

 

เราทุกคนต่างมีความลับอยู่กับตัวเอง และในช่วงชีวิตที่ผ่านมา ฉันก็ได้เรียนรู้ตั้งหลายครั้งว่า มนุษย์เรามีนอกมีใน มีเปลือกนอกและมีแก่นไส้ ซึ่งแล้วแต่ว่ามันจะเน่าผุเป็นโพรง หรือคงสภาพดีแค่ไหน…ไม่รู้สิ ฉันอาจอธิบายมันได้ไม่ดีพอ

ฉันรู้แต่เพียงว่า มันเป็นเวลาที่แสนเศร้าเหลือเกิน…เศร้าระยำบัดซบ ไม่ต่างจากอีกหลายๆ หน ยามฉันได้รับรู้บาดแผลกับความเจ็บปวดของผู้คน

เราอยู่กันไปเพื่ออะไร?

มีผู้หญิงสองคนรักกัน คนหนึ่งผมยาว คนหนึ่งผมสั้น หากผู้หญิงผมยาวเป็นเมียของผู้ชายคนหนึ่ง

ผู้หญิงผมยาวตัดสินใจขอเลิกรากับผู้ผัว แต่นอกจากผู้ผัวจะไม่ยินยอมยังลงมือตบตี และลงเอยที่การใช้กำลังบังคับขืนใจ

หลังเหตุการณ์นั้น นางพยายามจะฆ่าตัวตาย แต่ไปฟื้นที่โรงพยาบาล อีกไม่นานจากนั้น ชีวิตหนึ่งก็ปฏิสนธิขึ้นจนได้

แม้สถานการณ์พลิกผันไป ถึงคนรักจะช่วยอะไรไม่ได้ แต่หญิงทั้งสองยังคงพยายามใฝ่หาอิสรภาพ พยายามจะอยู่ด้วยกัน จนถึงวันคลอดลูก…วันหนึ่ง ชายผู้ผัวก็เยาะหยันว่า ถ้ายังอยากจะไปก็ไป กล้าทิ้งลูกไว้ก็ไปเลย

หญิงผมยาวลุกขึ้นมา ปราศจากน้ำตาแม้หยดเดียว นางห่อตัวลูกไว้ในผ้าอ้อม จูบลาลูกเป็นครั้งสุดท้าย เดินออกจากบ้านผัวไปตั้งแต่บัดนั้น

แล้วนางก็หั่นผมสั้น ทำทุกอย่างเพื่อให้ร่างกายแข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็นมา

จากผู้หญิงผมยาว กลายมาเป็นผู้หญิงหัวเกรียนร่างใหญ่ ส่วนคนรัก เปลี่ยนเป็นหญิงไว้ผมยาวเกล้ามวย

นั่นเอง คือเรื่องราวของอามิน ยายปัน และนางฟ้าของฉัน

ฉันค่อยๆ ทำความเข้าใจในทุกสิ่งนั้น ผ่านสิ่งที่เด็กสาวโต้ตอบกับผู้เป็นบิดา ผ่านม่านน้ำตาเนืองนอง

จนกระทั่ง…

– มันเป็นพวกเลวทรามชั่วช้า มันทิ้งแกไปตั้งแต่ยังเล็กๆ ยังจะรักพวกมันอีกทำไม! ชายหนวดหนาจ้องหน้าอีกฝ่าย

– พ่อสิที่รักลูก…รักอย่างแก้วตาดวงใจ ถึงพ่อจะเป็นคนเลวกับใครยังไง ลูกก็รู้ว่าพ่อรักหนูแค่ไหน!

 

ไม่มีโลกที่ดีพอเลย สักขณะจิตเดียว ฉันได้แต่คิดเช่นนั้น คราวได้ฟังเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลออกมาบอกว่า คนไข้ยังไม่พ้นขีดอันตราย ยังต้องรักษากันอีกต่อไป แต่…ผู้ที่ไม่ใช่ญาติจะไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยมได้

ฉับพลันทันใด ฉันก็กลายเป็นเพียงตัวอะไรสักอย่างเคว้งคว้างอยู่ตรงนั้น เช่นกันกับที่อามินกลายเป็นคนไร้ญาติขาดมิตร ไม่มีใครสักคนเดียวเลยจะบอกได้ว่า ญาติพี่น้องของอามินอยู่ที่ไหนอีก ชีวิตอามินมีเพียงนางปัน แต่บัดนี้ นางเองก็เป็นแค่ผักเน่าๆ ต้นหนึ่ง

ระรินพยายามจะขัดขืนผู้เป็นบิดา แต่ก็ไม่อาจจะช่วยเหลือตัวเองได้ แล้วนางฟ้าก็จากฉันไป

เราจากกันไป

ง่ายๆ อย่างนั้น

ชีวิตจริงทารุณได้ถึงที่สุดเช่นนั้น

ความเจ็บปวดช่างเป็นของสามัญสำหรับฉัน จนหัวใจไม่เหลืออะไรให้รู้สึกรู้สาได้อีก

 

“อีพี่!”

พี่โฟอ้าปากอย่างกับเห็นผี เมื่อฉันปรากฏขึ้นเบื้องหน้า

“มึงมาจากไหน แล้วมึงไปไหนมา!”

ฉันล้วงกระเป๋า หยิบเอาใบแดงขึ้นมาม้วนหนึ่ง นอกเหนือจากใบแดงที่อามินเคยให้ ฉันมอบมันให้กับพี่โฟจนสิ้น

“ฝากพี่เอาไปให้พ่อแม่หน่อย”

“…มึงจะไปไหนอีก”

ถึงปากจะถาม แต่มือคว้าเงินหมับอย่างว่องไว

“แล้วนี่นะ! กูห่วงมึงแทบเป็นแทบตาย หนีออกไปไม่บอกกู จะเป็นตายร้ายดียังไงเคยคิดถึงใจคนอื่นมั้ย!”

ฉันไม่มีคำพูด เพราะในหัวปราศจากคำตอบใด

“เอาไว้ฉันจะส่งข่าวนะ ถ้าพี่ยังอยู่ที่นี่”

“มึงจะไปไหน! อีพี่ แล้วมึงไปอยู่ไหนมา” สายตาพี่โฟสำรวจทั่วตัว “ไปขายตัวขาย_ีมาบ้างหรือเปล่า!”

“ถ้าขายได้ก็จะขาย” ฉันตอบพี่สาวคนละแม่ออกไป “พี่ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ตายง่ายๆ หรอก”

“เดี๋ยว อีพี่!”

มืออวบยื่นมาคว้าข้อมือ แต่ฉันก็ปลดมันออกช้าๆ แล้วยิ้มให้พี่โฟเป็นครั้งแรกก่อนจะหันหลังเดินจาก

ฉันได้เรียนรู้อีกอย่างหนึ่งว่า เวลาของการพลัดพรากจาก มันเกิดได้ตลอดเวลา ชีวิตนี้ไม่มีอะไรแน่นอนมั่นคง ทุกสิ่งดั่งสายน้ำไหล มนุษย์แต่ละคนกระจ้อยร่อยนักหนาบนเส้นทางที่ยาวไกล

เมื่อลมหายใจของยายปันขาดห้วงลง นางอาจฝันดีอยู่ก็ได้ นางจะได้ไม่ต้องรับรู้เลยว่าคนที่รอจะไม่มาอีกต่อไป

ด้วยแผลของอามินติดเชื้อ มีภาวะแทรกซ้อน สุดท้ายก็สิ้นลมหายใจ

นางฟ้าระรินหายวับไปจากทุกหนแห่งใดๆ ได้ยินคนบอกว่า เด็กสาวถูกพาตัวกลับกรุงเทพฯ

กรุงเทพฯ…เมืองที่ฉันไม่เคยไป

และคงกว้างใหญ่เกินกว่าจะหากันเจอ

 

สายลมพัดเอาดอกไม้โปรยปลิวมา

ฉันก็คิดเสมอว่าคือความคิดถึงจากเธอหรือไม่

นางฟ้าของคนพเนจร

แนบเนาในยามแรมรอน แม้ไม่รู้เธออยู่ไหน

ถนนสายแล้วสายเล่าที่ฉันก้าวไกล

คนแล้วคนเล่า ที่เราผ่านกันไป

ทุกถนนหมื่นสาย

ฉันยังเฝ้ากระซิบขานเรียกชื่อเธอ