เผยแพร่ |
---|
แรกที่พรรคพลังธรรมโดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ประกาศจะให้คนของพรรคเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินต่อสังคมในการนำเสนอตัวเข้าสู่พื้นที่เลือกตั้งเมื่อปี 2531
ก็มีเสียงหัวร่อดังประสานมาจากแทบทุกสารทิศ มองว่าเป็นเรื่องของการหาเสียง ไม่น่าจะเป็นไปได้
แต่แล้วเมื่อเข้าร่วมในรัฐบาลก็มีการเปิดเผยทรัพย์สิน
คงจำกันได้ว่ามีการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของ นายทักษิณ ชินวัตร เมื่อเข้าดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในโควตาของพรรคพลังธรรม
มาถึง ณ วันนี้ การเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของ”นักการเมือง”ได้กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว
แม้จะมี”คนดี”บางคนรู้สึกว่าจุกจิก ไร้สาระก็ตาม
บรรทัดฐานของพรรคพลังธรรมอัน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง วางเอาไว้ตั้งแต่เมื่อปี 2531 ได้กลายเป็นแรงจูงใจให้พรรคอนาคตใหม่ นำมาเป็นข้อปฏิบัติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรทัดฐาน”ประชาธิปไตย”ภายในพรรค
สมาชิกพรรคคือเจ้าของพรรค ไม่มีใครครอบงำหรือสำแดงตนเป็นเจ้าของพรรคแต่เพียงผู้เดียว
บรรทัดฐานนี้กำลังได้รับการพิสูจน์ผ่านพรรคอนาคตใหม่
ตัวอย่างที่สดใสมากเป็นอย่างยิ่งคือ การคัดสรรตำแหน่งภายในพรรคโดยผ่านกระบวนการเลือกตั้งจากระดับจังหวัด ระดับภาค ระดับประเทศ
และในวันที่ 13-14 ธันวาคม ก็จะเปิดการหยั่งเสียงผ่านระบบไพรมารีคัดผู้สมัคร ส.ส.เขต
บรรยากาศอย่างที่เกิดขึ้นในพรรคอนาคตใหม่อาจไม่เห็นจากพรรคการเมืองอื่น ไม่ว่าพรรคใหญ่ ไม่ว่าพรรคเล็ก ไม่ว่าพรรคเก่า ไม่ว่าพรรคใหม่
เป็นการริเริ่มแม้คำสั่งหัวหน้าคสช.จะตัดระบบไพรมารีโหวต ออกไปแล้วก็ตาม
โครงสร้างระหว่างพรรคพลังธรรมเมื่อปี 2531 กับ พรรคอนาคตใหม่ในปี 2561 อาจแตกต่างกัน
แต่ความริเริ่มหลายอย่างถือได้ว่าสอดรับกัน
สอดรับในด้านอันสะท้อนความพยายามที่จะนำรูปการเมือง ใหม่เข้ามาแทนที่การเมืองเก่า
บนพื้นฐานแห่งแนวคิด “อนาคตเรากำหนดเอง”