มองบ้านมองเมือง/ปริญญา ตรีน้อยใส/ มองฮานอยอีกครั้ง

มองบ้านมองเมือง/ปริญญา ตรีน้อยใส

มองฮานอยอีกครั้ง

แม้ว่าจะพาไปมองฮานอยมาแล้วหลายฉบับแล้ว แต่ก็ยังมีเรื่องน่าสนใจ อยากพาไปมองอีก แม้ว่าฮานอยวันนี้ บ้านเมืองจะหนาแน่นด้วยอาคารสิ่งก่อสร้าง บนถนนจะเต็มไปด้วยยานพาหนะและผู้คน แต่ในสายตาของนักท่องเที่ยว ฮานอยก็ยังเป็นเมืองสวยงาม

ปัจจัยหนึ่ง น่าจะมาจากสภาพภูมิประเทศ ด้วยฮานอยตั้งอยู่ปากแม่น้ำแดง ที่เราเรียกกัน หรือ duang ดัง ในภาษาเวียfนาม คล้ายกับกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา สภาพพื้นที่เป็นที่ราบลุ่มเหมือนกัน มีพืชพันธุ์ไม้เขียวกระจายอยู่ทั่วไป

แต่ต่างกันที่ฮานอยได้รับลมมรสุมมากกว่า ปริมาณน้ำจึงมากกว่า นอกจากแม่น้ำแดงจะแยกย่อยหลายสาย ก่อนไหลลงสู่ทะเล ยังมีหนองคลองบึงกระจายอยู่ทั่วไป

แม้ปัจจุบันจะถูกถมไปไม่น้อย แต่ก็ยังเหลือเป็นทะเลสาบน้อยใหญ่ กลายเป็นที่ว่างและพื้นที่สีเขียวทั่วเมือง

เช่นเดียวกับกระแสน้ำหลากในแม่น้ำ ทำให้ยากต่อการตั้งถิ่นฐานริมน้ำ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทำให้พื้นที่ริมน้ำยังเป็นธรรมชาติ และใช้ประโยชน์ทางเกษตรเป็นส่วนใหญ่

ไม่ค่อยมีการตั้งถิ่นฐานสร้างบ้านเรือน รุกล้ำลำน้ำเหมือนอย่างบ้านเรา

 

ในยุคสมัยอาณานิคมนั้น ฝรั่งเศสได้ออกแบบวางผังพื้นที่ทะเลสาบ ทั้ง หว่านเกี้ยม Hoan kiens, ทูเล Thu le และไบโม Bay mau ใกล้กับตึกสูงลอตเต้ ฯลฯ กำหนดขอบเขตชัดเจน ไม่ให้เกิดการรุกล้ำ ไม่ให้เป็นที่รองรับน้ำเสียจากบ้านเรือน ปลูกต้นไม้ ดอกไม้ประดับ ปรับสนามปลูกหญ้า ทำลานกิจกรรมกลางแจ้ง ที่ยังเหลือเค้าโครงมาจนถึงปัจจุบัน ให้ผู้คนใช้สอย พักผ่อน ออกกำลังกายกันหนาตา

เช่นเดียวกับถนนสายต่างๆ มีการปลูกต้นไม้สองข้างทาง รวมทั้งให้มีบาทวิถีกว้างเหมือนในฝรั่งเศส แม้จะกลายเป็นถนนและบาทวิถีแคบ ใน พ.ศ.นี้ ต้นไม้ที่เติบใหญ่เลยครอบคลุมให้ร่มเย็นเต็มพื้นที่

ในเขตเมืองเก่า บริเวณเมืองป้อมโบราณ ที่ไม่มีสิ่งก่อสร้างมากนัก ด้วยเป็นสถานที่ราชการกลายเป็นพื้นที่สีเขียวผืนใหญ่ ประกอบด้วยอาคารแบบตะวันตกรุ่นเก่าทาสีเหลือง ต้นไม้ใหญ่เขียวขึ้นเต็ม ทำให้ร่มรื่นสวยงาม ต่อเนื่องไปถึงทะเลสาบไต tay ที่มีขนาดใหญ่มาก จนกลายเป็นปอดของฮานอย ควบคู่กับแม่น้ำแดงที่ไหลผ่าน

ช่วยกันรักษาสมดุลระหว่างเมืองกับธรรมชาติ

 

บริเวณย่านการค้าแบบเดิมและแบบฝรั่ง ก็มีต้นไม้ ที่ตอนนี้เติบใหญ่อยู่สองฟากถนน ยังมีสวนหย่อมสวนสาธารณะเล็กๆ แทรกตัวอยู่ในหมู่อาคารร้านค้า และสำนักงานต่างๆ ทำให้น่าเดินชมเมือง อีกทั้งความนิยมนั่งดื่มกาแฟตามร้านริมถนน เหมือนในปารีส ที่ได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศส แต่อยู่ในรูปแบบเวียดนาม เป็นโต๊ะตั่งเตี้ย ทำให้เมืองดูแปลกตาและแปลกต่าง

บริเวณย่านเมืองใหม่ที่อยู่โดยรอบ นอกจากทะเลสาบน้อยใหญ่แล้ว ยังมีพื้นที่สีเขียวตามที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะอาคารรุ่นใหม่ที่เป็นอาคารสูง ก็จะมีงานภูมิทัศน์สมัยใหม่ สวยงาม แต่ไม่น่าสนใจ แค่เหมือนเมืองอื่นทั่วไป

ภาพรวมของฮานอย จึงร่มรื่นชื่นใจ เพราะมีสีเขียวธรรมชาติกระจายอยู่ทั่วไป จึงร่มรื่นร่มเย็น เพราะมีลมทะเลพัดผ่าน และจะเย็นยิ่งขึ้นในฤดูหนาว รวมแล้วสวยงามแปลกตา น่าไปเที่ยวชม

ภาพบ้านเมืองของฮานอยวันนี้ จึงช่วยให้เข้าใจเรื่องราวที่ผ่านมา จนต้องทึ่งในความสามารถของผู้คน

ที่แม้จะผ่านความยากลำบากมาไม่น้อย แต่ดูเหมือนว่าขณะนี้พร้อมแล้ว ที่จะก้าวหน้าต่อไปอย่างอาจอง

การเดินทางไปฮานอยที่ได้รับการสนับสนุน จากศูนย์อาเซียนศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ครั้งนี้ จึงช่วยให้เข้าใจเพื่อนบ้านอาเซียนมากขึ้น ทั้งอดีต ปัจจุบัน และต่อไปในอนาคต ตามที่เล่าขานต่อเนื่องมาหลายฉบับ