ขี่มอเตอร์ไซค์ จากเชียงใหม่ ไปถึงสิงคโปร์ไม่ให้เข้า! : บันทึก 2,830.3 ก.ม. ณ ด่านวู้ดแลนด์

สิ่งที่ผมไม่รู้มาก่อน เกี่ยวกับการขี่มอเตอร์ไซค์ จากเชียงใหม่ไปสิงคโปร์คนเดียว (21)

ฝนตก…ฝนตกลงมาอย่างหนัก…ฝนตกลงมาอย่างหนักเป็นอย่างยิ่ง…

คิดในใจ ไม่รู้ the force จะพาเราไปไหน และพระเจ้ามีพระประสงค์อย่างไร แต่มองดูก็รู้ ท่านยังคงสนุกอยู่

และถึงแม้จะไม่เข้าใจพระประสงค์ของพระเจ้า แต่ผมพอจะบอกความประสงค์ของผมได้…ผมจะไม่ขี่มอเตอร์ไซค์ในสภาพอากาศที่ฝนตกลงมาอย่างหนักเป็นอย่างยิ่งนี้…ไม่ขี่เป็นอย่างยิ่ง

ฝากรถไว้กับเบนที่โชว์รูม “ไม่มีปัญหา จอดในโชว์รูมได้เลย” เจ้าสองสูบเสียงเพราะที่สง่างาม…ฟลอร่า เดอ อาปาซิโอนาโด เอ็น เอล เวียนโต ดอกไม้ที่หลงใหลในสายลม ไม่หลงใหลในสายฝน ก็ถูกเข็นขึ้นไปจอดโชว์สัดส่วนของมันอย่างงดงามอยู่ในโชว์รูม…

ด้วยจิตใจท้อแท้อีกครั้ง และเริ่มจะเคืองพระเจ้าอีกครั้ง บวกกับความงงชีวิตอีกครั้ง… “นี่พระเจ้าถือสัญชาติสิงคโปร์หรืออย่างไร ไม่อยากให้เราเข้าไป” “ฮวงจุ้ยของด่านวู้ดแลนด์มันดีมากถึงขนาดทำให้ศัตรูของมันถึงกับล่าถอยแตกพ่ายก่อนจะได้ประมือกันเป็นครั้งที่สองเลยหรือ” สมองยังคงพยายามทำความเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

แต่ก็จองโรงแรมจากมือถือ แล้วเรียกอูเบอร์มารับ บอกเบนกับคามิล “พรุ่งนี้เจอกัน” แล้วก็ออกเดินทาง

คนขับอูเบอร์เป็นชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน ยังวัยรุ่นอยู่มาก ดูก็รู้ว่ายังไม่แต่งงาน เพราะดูสนุกสนานกับชีวิตมากทีเดียว (นี่ก็จากประสบการณ์ของเพื่อน) และเมื่อเขามารับผมจากหน้าโชว์รูมไทรอัมป์ เขาก็เลยชวนคุยเรื่องมอเตอร์ไซค์ และถึงแม้เขาจะไม่ใช่คนชอบขี่มอเตอร์ไซค์ แต่พระราชาของเขาชอบ

เขาเล่าว่า พระราชาของเขาครอบครองมอเตอร์ไซค์ฮาร์เล่ย์ เดวิดสันส์ และทุกๆ ปี ก็จะขี่กันเป็นขบวนไปกับประชาชนผู้รักการขับขี่มอเตอร์ไซค์

เขาเล่าด้วยความภูมิใจ และสัมผัสได้ว่าเขามีความรักในพระราชาของเขาทีเดียว

“ปีที่ผ่านมา พระราชาของไอ เอารถแมคออกมาวิ่งด้วย ยูรู้จักไหม ออฟติมัสไพร์มน่ะ”

“เออ ไอรู้จัก, พระราชาของยูนี่เจ๋งจริงๆ” เขาหัวเราะด้วยความภาคภูมิใจ

ฝนยังคงตกอย่างกระหน่ำไม่หยุดหย่อน

สักพักก็มาถึงโรงแรม เข้าห้องพัก อาบน้ำ แล้วก็ออกมาหาอะไรกิน…พิซซ่าฮัท อยู่ในระยะเดิน ฝนยังตกอยู่แต่ซาลงไปมาก กินเสร็จเข้าห้องพัก เอาไงดีกับชีวิต…

ดูพระเจ้าท่านไม่พึงพอใจเอาซะเลย เอกสารประกันก็มีแล้ว พอจะข้ามด่าน ฝนก็ตกลงมา

ความเศร้า ความท้อแท้ กลับมาเยี่ยมหาอีกครั้ง จะเอาไงดีกับชีวิต จะเอาไงดีกับชีวิตบัดซบ

คิดถึงบ้าน แปดวันผ่านมาแล้ว ไม่เคยขี่มอเตอร์ไซค์คนเดียวมาไกลถึงขนาดนี้มาก่อน และไม่เคยเป็นอาชญากรข้ามขาติด้วย กลับบ้านเลียแผลก่อนน่าจะดี

ในอีเมล ฝรั่งคนนั้นถามมาว่า ยูถึงไหนแล้ว… “ไออยู่ที่ประตูเมืองของยูแล้ว แต่ประเทศยูเข้ายากมาก บางทีไออาจจะกลับบ้านก่อน” สักพักเขาก็ตอบกลับมา “ยินดีด้วย ยูทำสำเร็จแล้ว”

ใช่ ไอเป็นอาชญากรสำเร็จแล้ว แต่ไอยังเข้าประเทศยูไม่ได้…

วันที่แปดของการเดินทาง วันนี้ทำระยะทางได้ 259.4 ก.ม. รวมระยะทางจากเชียงใหม่ 2,830.3 ก.ม.จากเชียงใหม่ คืนนี้นอนก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน

วันที่เก้าของการเดินทาง วันนี้ตื่นสบายๆ ตัดสินใจได้อย่างชัดเจนกับตัวเองว่า เราชอบทำภารกิจให้สำเร็จ ตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำอะไรก็พยายามทำจนมันสำเร็จ

ครั้งนี้ก็เช่นกัน

เรามาถึงสิงคโปร์ก่อนแผนอยู่หลายวัน เรามีเวลา…

คุยกับตัวเองว่า เราจะทดลองเพื่อเข้าสู่สิงคโปร์ทั้งหมด 4 ครั้งจนถึงวันอาทิตย์ เมื่อวานวันพฤหัสฯ เราทดลองไปแล้วหนึ่งครั้ง เหลืออีกสามครั้ง มันจะซักแค่ไหนกัน

และถึงแม้เจ้าหน้าที่จะแนะนำให้ไปด่านที่สอง ที่เป็นด่านใหม่ ซึ่งมีความสะดวกสบายกว่า แต่เราจะหักเอาที่ค่ายวู้ดแลนด์นี่แหละ ชิชะ เจ้าวู้ดแลนด์รามัญ

ตัดสินใจได้ก็อาบน้ำ และทานอาหารเช้าแบบสบายอารมณ์ เพราะรีบไปก็ไม่มีประโยชน์ จะติดชั่วโมงเร่งด่วน หากเข้าไม่ได้ก็อับอายเพื่อนร่วมมอเตอร์ไซค์ที่มีบัตรนั่นเปล่าๆ และที่สำคัญ โชว์รูมไทรอัมป์เปิดสิบโมง

เมื่อทุกอย่างพร้อม ก็เรียกอูเบอร์มารับ กดโลเกชั่น ไปไทรอัมป์ ยะโฮร์บาห์รู…พระเจ้ายังคงสนุกสนานอยู่ที่เมืองนี้

อูเบอร์คนนี้เป็นคนมาเลเซียเชื้อสายจีน มีอายุหน่อย พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย เมื่อคุยกันไม่รู้เรื่อง เราก็ไม่คุยกัน มุ่งหน้าสู่ที่หมายอย่างเดียว ขับไปสักพักดูแผนที่ก็ชักแปลกใจ เส้นทางไม่คุ้นเอาซะเลย…แต่ก็มาถูกที่

ถูกที่เป๊ะเลย ไทรอัมป์แน่นอน แต่เป็นโรงงานไทรอัมป์ โรงงานไทรอัมป์ชุดชั้นใน แหงนหน้ามองฟ้า เห็นรอยยิ้มท่าน แต่เราไม่ยิ้มตอบ

กดใหม่ให้ไปไทรอัมป์มอเตอร์ไซค์

ไปถึงก็เจอเบนกับคามิล ผมก็ประกาศว่า “ไอพร้อมละ ถ้ายูไม่ได้เจอไอในอีกสองสามชั่วโมง ก็แปลว่าค่ายวู้ดแลนด์ถูกไอตีจนแตกกระเจิงไปแล้ว” แต่ที่จริงบอกกับเขาว่า “ไอพร้อมละ ถ้าไม่สำเร็จอีกสักพักเราคงได้เจอกันอีก…”

เบนกับคามิลเดินมาด้วยกันและถ่ายรูปร่วมกันกับผมไว้ที่หน้าโชว์รูม

อันที่จริงคามิลก็บอกให้ไปด่านทูอัส ด่านที่สองที่สะดวกสบายกว่า เขาบอกว่าด่านวู้ดแลนด์น่ะมันเป็นด่านคล้ายๆ ด่านสำหรับคนทำงาน ด่านสำหรับแรงงาน ด่านโลโซหน่อย ส่วนด่านทูอัสน่ะ มันเป็นด่านคนรวย เสียค่าทางด่วนนิดเดียวเอง แต่วันนี้ชัดเจนกับตัวเองตั้งแต่ตอนตื่นนอน จะหักเอาที่ด่านวู้ดแลนด์นี่แหละ

ไม่กี่นาทีก็มาถึงด่านขาออกของมาเลเซีย…เรียบร้อย ไม่มีปัญหา

แล้วในที่สุดก็มาถึงด่านวู้ดแลนด์…จิตใจยังคงคิดเรื่องเมื่อวาน

เดินออกมาด้วยความรู้สึกล่ามโซ่ตรวนกุญแจมือแบบอาชญากรข้ามชาติ แล้วบอกให้ไปขึ้นรถไฟฟ้าเที่ยวสิงคโปร์

ประกาศก้องในหัวที่มีหมวกกันน็อกครอบไว้ เพื่อให้จิตใจฮึกเหิมก่อนเข้ารบ

“ข้าไม่ได้ขี่มาสองพันห้าร้อยกว่ากิโลเพื่อจะมาขึ้นรถไฟฟ้า คนหลงใหลในการขี่มอเตอร์ไซค์สัมผัสสายลม ชื่นชมกับอิสรภาพที่พระเจ้าประทานมาให้ จะมาให้ขึ้นรถไฟฟ้าระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ

เชอะ…ฝันไปเถอะเจ้าด่านวู้ดแลนด์”