วัฒนธรรมความสั้นยาวของเพลงป๊อป : ข้อจำกัด ศิลปะ หรือผลประโยชน์?

กล่าวกันว่า เมื่อวง QUEEN ปล่อยเพลง Bohemian Rhapsody ออกมาในปี 1975 พวกเขาต้องพบปัญหากับทางสถานีวิทยุ ที่ลังเลกับการเปิดเพลงนี้ออกอากาศ

เพราะ Bohemian Rhapsody มีความยาวถึง 5 นาที 55 วินาที ซึ่งถือเป็นความยาวเพลงที่ผิดปกติสำหรับเพลงป๊อปในสมัยนั้นไปมาก

และพวกเขาก็ต้องเผชิญกับการโต้เถียงต่อรองอยู่พอสมควรทีเดียว กว่าที่ทางสถานีวิทยุต่างๆ จะยินยอมเปิดเพลงนี้ออกอากาศโดยไม่ตัดทอนให้สั้นลง

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เพราะหากเราจะพิจารณาถึงเพลงป๊อปในอุตสาหกรรมดนตรีตะวันตกตั้งแต่ในช่วงแรกๆ คือราวปี 1950 เป็นต้นมา เราจะพบว่าเพลงส่วนมากมักเป็นเพลงสั้นๆ ที่มีความยาวไม่มากไปกว่า 3 นาทีเท่านั้น

เช่น เพลงของ THE BEATLES จำนวนมากในยุคที่เริ่มมีชื่อเสียง ก็ล้วนแต่เป็นเพลงสั้นๆ ความยาวราว 2-3 นาทีทั้งสิ้น

แล้วทำไมต้องเป็น 3 นาที?

คําตอบคือแผ่นเสียงในสมัยก่อนนั้นเป็นแผ่นแบบ 78 rpm (หมุน 78 รอบต่อนาที) ซึ่งสามารถบันทึกเสียงได้มากสุดเพียง 3 นาทีเท่านั้น

และกระทั่งเมื่อผู้ผลิตพากันเปลี่ยนชนิดของแผ่นเสียงมาเป็นแบบ 45 rpm ระยะเวลาการเล่นแผ่นมาตรฐานของแผ่นเสียงแบบ single ก็ยังอยู่ที่ราวๆ 3 นาทีอยู่นั่นเอง

แผ่นแบบ single 3 นาทีนี้เอง ที่ผู้จัดรายการวิทยุใช้เปิดออกอากาศ และยังเป็นแผ่นราคาถูกที่ง่ายต่อการซื้อหาที่สุด

ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งต่อการสร้างความโด่งดังของเพลงเพลงหนึ่ง

ศิลปินส่วนมากจึงย่อมสร้างงานเพลงอยู่บนฐานของเวลาที่จำกัดอยู่เพียง 3 นาทีด้วยเหตุนี้

แต่ความนิยมในการสร้างงานเพลงที่ยาวกว่า 3 นาทีก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้น เพราะเพลงที่ยาวกว่า 3 นาทีสามารถนำไปบรรจุในแผ่นเสียงแบบ LP ซึ่งมีเวลาการเล่นแผ่นราวๆ 22 นาทีได้

ดังนั้น เราจึงพบว่า หลังจากปี 1960 ความยาวเฉลี่ยของเพลงป๊อปนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากราว 150 วินาที (2 นาทีครึ่ง) กลายมาเป็น 250 วินาที (4 นาทีกว่า) ในช่วงปี 1990 (ดูกราฟของ musicbrainz.org)

และสำหรับวงดนตรีประเภท Progressive Rock บางวงอย่าง YES ยังก้าวล้ำไปไกลถึงขนาดอัดเพลงที่มีความยาวกว่า 20 นาที เช่น ในชุด Tales From Topographic Oceans ในปี 1973 นั้น (ก่อน Bohemian Rhapsody ของ QUEEN 2 ปี) บันทึกเสียงเป็นแผ่น LP แบบแผ่นคู่ ประกอบไปด้วยเพลงทั้งหมดเพียง 4 เพลง

โดยเพลงสั้นที่สุดมีความยาว 18 นาทีกว่า และเพลงยาวที่สุดนั้นยาวถึง 21 นาที 37 วินาที เลยทีเดียว

(แต่แน่นอนว่ากระทั่งเพลงที่ยาวที่สุดนี้ก็ยังถูกจำกัดความยาวด้วยระยะเวลาการเล่นของแผ่น LP ที่อย่างไรก็มีให้ไม่เกิน 22 นาทีอยู่นั่นเอง)

ยิ่งเมื่ออุตสาหกรรมดนตรีเริ่มพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ และเปลี่ยนมาบันทึกเสียงด้วยแผ่น CD ในทศวรรษที่ 1980s กรอบของเวลาในแบบทั้ง single และ LP ก็ถูกทำลายลง และทำให้ค่าเฉลี่ยของความยาวเพลงป๊อปเปลี่ยนจาก 3 นาทีไปเป็น 4-5 นาที และศิลปินส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ยึดกรอบเวลา 3 นาทีแบบเดิมเป็นมาตรฐานอีกต่อไปแล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องแปลกประหลาดกลับบังเกิดขึ้น เมื่อในปัจจุบันนักวิเคราะห์พบว่าค่าความยาวเฉลี่ยของเพลงป๊อปกำลังหดตัวลงอีกครั้ง

และสถิติก็ฟ้องว่า ค่าความยาวเฉลี่ยของเพลงดังที่ติด 100 อันดับต้นในบิลบอร์ดนั้นลดลงเรื่อยๆ จากราว 250 วินาทีในปี 2000

มาเหลือเพียง 210 วินาทีเท่านั้นในปี 2018

และที่น่าสนใจกว่าก็คือการที่เพลงดังจำนวนมากมักเป็นเพลงสั้นๆ เช่น เพลง I Love It ของ Kanye West นั้นมีความยาวเพียง 2 นาที 7 วินาทีเท่านั้น

อีกทั้งกระแสความนิยมเพลงสั้นยังปรากฏชัดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในดนตรีประเภทฮิปฮอปหรือเพลงแร็พ

สาเหตุของปรากฏการณ์นี้ มีผู้อธิบายไว้ในบทความเรื่อง The reason why your favorite pop songs are getting shorter บนเว็บไซต์ QZ.com ว่า

ความนิยมเพลงสั้นๆ นั้นสัมพันธ์อยู่กับวัฒนธรรมการฟังดนตรีในยุคดิจิตอล ซึ่งผู้ฟังส่วนใหญ่ใช้บริการการฟังเพลงแบบ streaming (หมายถึงการฟังบนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับระบบอินเตอร์เน็ต)

ซึ่งผู้ให้บริการเหล่านี้จ่ายค่าตอบแทนให้กับศิลปินตามจำนวน “ยอดวิว” การเข้าชม

ดังนั้น เพลงสั้นจึงได้เปรียบเพลงยาว เพราะในเวลาเท่ากัน เพลงสั้นย่อมได้ยอดวิวนับเป็นจำนวนครั้งมากกว่าเพลงยาว

จึงเกิดการอธิบายว่า “ความสั้น” ของเพลงที่กำลังเป็นกระแสนี้ แท้จริงแล้วมีสาเหตุมาจากเรื่องของผลประโยชน์ตอบแทนทางธุรกิจนั่นเอง