วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย/ เสถียร จันทิมาธร /ตัวประหลาด ของขวัญประหลาด (167)

เสถียร จันทิมาธร

วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย/ เสถียร จันทิมาธร

ตัวประหลาด ของขวัญประหลาด (167)

 

เรื่องประหลาดอันปรากฏ ณ ห้องของก๊วยเซียงสร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้พบเห็นอย่างยิ่ง ที่กลางห้องเป็นโต๊ะเตี้ย 1 ตัว บนโต๊ะมีถ้วยถาดกลาดเกลื่อน มีผู้คน 8 คนนั่งบนพื้น ยื่นถ้วยส่งป้านให้แก่กันอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส

คน 1 ศีรษะใหญ่ ใบหน้าอูม แบะปกเสื้อออก เผยขนหน้าอกดำรุงรัง

คน 1 เป็นบัณฑิตไว้เครางาม 3 แฉก สวมหมวก เสื้อผ้าเรียบร้อย มือโบกพัดจีบ ท่าทางสูงสง่า บนพัดจีบวาดปีศาจแลบลิ้นออกมา

คน 1 เป็นสตรีอายุ 40 เศษ เค้าใบหน้าหมดจดแต่มีรอยแผลเป็นอันถูกดาบกระบี่ทำร้ายอย่างน้อย 10 กว่าสาย

คน 1 เป็นหลวงจีน ไว้ผม ร่างผอมสูง สวมหมวกทองแวววาว ปากกัดกินไก่ครึ่งตัวเอร็ดอร่อย

อีก 3 คนหันหลังให้หน้าต่างมิอาจเห็นโฉมหน้า เป็นชายชราผมขาว 2 แม่ชีชุดดำ 1

ก๊วยเซียงนั่งหว่างกลางคนเหล่านี้ ใบหน้างามงดปรากฏสีแดงสร้าน 3 ส่วน หว่างคิ้วหางตามีเค้าความมึนเมา ยิ้มแย้มแจ่มใสอย่างอิ่มเอมใจ

ยิ่งได้ยินคำสนทนา ยิ่งน่าประหลาดใจ

 

เริ่มจากเสียงชายชราผมขาว “วันนี้ดื่มสุรารับประทานข้าวได้ 8 ส่วนแล้วรอถึงวันเกิดของโกวเนี้ย พวกเราค่อยเมามายให้เต็มที่ ตอนนี้เราผู้เฒ่ามีของขวัญเล็กน้อยกลับเป็นที่หัวร่อเยาะของโกวเนี้ยแล้ว”

กล่าวพลางล้วงกล่องแพรขาวจากอกเสื้อวางลงบนโต๊ะ

“แป๊ะเซ่าเซียน (เซียนร้อยสมุนไพร) ท่านส่งสิ่งของใดมา ให้เราชมดูสักครั้ง” เป็นเสียงจากชายชราอีกผู้หนึ่งซึ่งเปิดกล่องแพรออกแล้วอุทานดังอา

“โสมหิมะพันปีต้นนี้ท่านขุดหาได้จากที่ใด”

พร้อมกับคีบมาถือไว้ ปรากฏเป็นโสมหิมะขาวยาวเซียะเศษต้นหนึ่ง ลักษณะเป็นทารก ส่วนหัวลำตัว มือเท้าครบถ้วน ผิวโสมเป็นสีแดงอ่อนจาง

ทุกผู้ส่งเสียงชมเชย เซียนร้อยสมุนไพรภาคภูมิใจยิ่ง

“โสมหิมะพันปีต้นนี้รักษาโรคร้าย ขจัดร้อยพิษ มีประสิทธิภาพชุบชีวิตพ้นจากห้วงความตาย โกวเนี้ยไร้โรคาพยาธิใกล้กล้ำกรายมีอายุยืนถึง 100 ปี ความจริงไม่ต้องใช้มัน แต่รอถึงงานฉลองวันเกิดครบรอบ 100 ปีค่อยนำมารับประทานยืดอายุขัยอีกรอบหนึ่งหามีผลเสียอันใดไม่”

ทุกผู้คนปรบมือหัวร่อดังๆ ชมเชยเซียนร้อยสมุนไพรรู้จักอวยพรวันเกิดนัก พ่อครัวศีรษะใหญ่ใบหน้าอูมล้วงกล่องเหล็กจากอกเสื้อ กล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า

“มีของเล่นชิ้นหนึ่งกลับสามารถแลกกับยิ้มเดียวของโกวเนี้ย”

เปิดกล่องเหล็กล้วงรูปอรหันต์อ้วนฉุอันหล่อหลอมจากเหล็กสูงประมาณ 7 นิ้วออกมา 2 องค์ พอหมุนเกลียวไขลานอรหันต์เหล็กทั้ง 2 ก็ต่อยหมัดเตะเท้าพันตูกันเองเป็นพัลวัน

ทุกผู้คนชมดูหัวร่อดังๆ ออกมา

 

ยิ่งชมดูยิ่งบังเกิดความตื่นตะลึงเมื่อประจักษ์ว่าหมัดเท้าของอรหันต์เหล็กทั้งคู่ใช้ออกอย่างมีระเบียบแบบแผน

เด่นชัดว่าเป็นเพลงหมัด “อรหันต์เสี้ยวลิ้ม” (เสียวลิ้มล่อฮั่นคุ้ง)

หักล้างกัน 10 กว่ากระบวนท่า ลานเหล็กแบนในรูปปั้นคลายหมดสิ้นจึงหยุดชะงักลง ยืนเผชิญหน้าราวกับยอดฝีมือชาวบู๊ลิ้ม

ทุกผู้คนชมดูถึงตอนนี้ไม่ส่งเสียงหัวร่ออีก

สีหน้าคล้ายปรากฏแวววิตกกังวลขึ้น สตรีที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็นจึงกล่าวขึ้น “พ่อครัวมนุษย์ท่านอย่าได้คิดมีหน้ามีตาจนเพิ่มความยุ่งยากให้แก่ก๊วยยี้โกวเนี้ย นี่เป็นอรหันต์เหล็กของวัดเสียวลิ้มยี่ ภูเขาซังซัว ท่านขโมยมาได้อย่างไร”

พ่อครัวมนุษย์หัวร่อเฮอะฮะ

“ต่อให้เรามีขวัญกล้าบังอาจเทียมฟ้าก็ไม่กล้าไปลักเล็กขโมยน้อยที่วัดเสียวลิ้มยี่ นี่เป็นผู้ดูแลตึกอรหันต์เสียวลิ้มยี่ บ้อเล็กเซียงซือ สั่งให้เราจัดส่งมา ท่านผู้เฒ่าบอกว่า เมื่อถึงวันเกิดของโกวเนี้ยไม่สามารถรุดมาอวยพรได้ นี่ค่อยเป็นของขวัญเล็กน้อยของเรา”

พลางยกชั้นในของกล่องเหล็กขึ้นเผยเห็นกำไลหยกสีดำวงหนึ่ง

 

กําไลหยกดำเป็นสีดำสนิทดูไปไม่มีความแปลกพิสดารอันใด พ่อครัวมนุษย์ชักดาบหัวตัดสันหนา ส่วนคมเบาบางจากอกเสื้อเล็งไปยังกำไลหยกดำฟันดาบลงไป เสียงดังคราหนึ่ง

ดาบหัวตัดกระดอนขึ้น

กำไลหยกดำกลับไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย ทุกผู้คนล้วนโห่ร้องชมเชย

ไม่ว่า 8 คนที่อยู่ในห้อง ไม่ว่าก๊วยเซียงอันเป็นผู้เหย้าคอยต้อนรับ ล้วนสร้างความตื่นตะลึงว่านี่เป็นเรื่องราวใดกัน