ประสบการณ์ที่ไม่ลืม! เหตุผลที่ “สิงคโปร์” ไม่ให้เข้าเมือง : ขี่มอเตอร์ไซค์ จากเชียงใหม่ไปสิงคโปร์คนเดียว

สิ่งที่ผมไม่รู้มาก่อน เกี่ยวกับการขี่มอเตอร์ไซค์ จากเชียงใหม่ไปสิงคโปร์คนเดียว (22)

รถมอเตอร์ไซค์ที่เห็นหลายสิบหลายร้อยคันเมื่อวานหายไปหมด เหลืออยู่ไม่กี่คัน คงหมดเวลาของชั่วโมงเร่งด่วน มาถึงเคาน์เตอร์ตรวจคน ถอดหมวกกันน็อก ยื่นพาสปอร์ต “ไปจอดรถตรงนั้น แล้วเดินตามมา” อย่างสุภาพเรียบร้อย แต่แฝงไว้ด้วยความดุดัน เหี้ยมเกรียม

คิดในใจ เมื่อวานตรวจคนไม่เห็นมีปัญหา วันนี้มีปัญหาตั้งแต่ตรวจคน

เจ้าหน้าที่หน้าด่านเชิญให้เข้าไปในออฟฟิศตรวจคน เมื่อวานความรู้สึกเลวร้ายเริ่มต้นที่ออฟฟิศนี่แหละ… ไม่เป็นไรทำหน้าใจดีสู้วู้ดแลนด์ไว้ เอ้ย ใจดีสู้เสือไว้ มันไม่ให้เข้าก็กลับ พรุ่งนี้มาใหม่ วันนี้จะทำตัวดีๆ ไม่เอาโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น

รอสักพักใหญ่ๆ เขาก็เชิญไปที่เคาน์เตอร์

“เมื่อวานยูก็มาทีนึง เราไม่ให้ยูเข้า”

“ใช่ เมื่อวานไอก็มา แต่ยูให้ไอเข้า แต่ยูไม่ให้รถมอเตอร์ไซค์ของไอเข้า”

เกือบจะตอบไปว่า “…แต่ยูไม่ให้เจ้าฟลอร่า เดอ อาปาซิโอนาโด เอ็น เอล เวียนโต เข้า” ขืนตอบไปอย่างนั้น ด่านวู้ดแลนด์คงเรียกเอกสารเพิ่ม… เอกสารรับรองสมองจากโรงพยาบาล

“วันนี้ยูก็เอารถมอเตอร์ไซค์ของยูมาอีก”

“ใช่ ไอต้องการเอาชนะยู ไอจะตีค่ายวู้ดแลนด์ให้แตก ถ้ายูไม่ให้เข้า บ่ายไอก็จะมาอีก พรุ่งนี้เช้าไอก็จะมาอีก พรุ่งนี้บ่ายไอก็จะมาอีก และถ้ายูยังไม่ให้ไอเข้า มะรืน ไอจะพาพ่อไอมาด้วย และไอจะบอกยูก่อน ยูไม่อยากมีปัญหากับพ่อไอหรอก”

แต่ยังควบคุมเอาไว้ได้ ไม่ได้บอกไปอย่างนั้น เพียงคิดในใจ

“ใช่ วันนี้ไอก็เอารถมอเตอร์ไซค์มาอีก”

“เมื่อวานทำไมเราไม่ให้รถมอเตอร์ไซค์ยูเข้า”

“เมื่อวานไอขาดเอกสารเรื่องประกันไปหนึ่งฉบับ”

“แล้ววันนี้ยูมีมาหรือยัง”

“วันนี้ไอมีมาแล้ว ครบทุกอย่าง”

“เอาเอกสารยูมา ไอจะไปคุยกับแผนกตรวจรถก่อน ยูไปนั่งรอตรงนั้น”

“กลัวพ่อไอจะมาอ่ะดิ โด่เอ้ย…” แต่ไม่ได้บอกไปอย่างนั้น เพียงคิดในใจ

“โอเค” คือเสียงที่ตอบไป

ที่จริงหากค่ายวู้ดแลนด์ไม่ถูกตีแตกในสองวัน แล้วผมพาพ่อผมมาด้วย ผมก็แน่ใจมากว่าพ่อผมก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี แต่เมื่อวานค่ายวู้ดแลนด์เอาตำรวจมาขู่ “ยูไม่อยากมีปัญหากับตำรวจหรอก” วันนี้เลยต้องสวนกลับ “ยูไม่อยากมีปัญหากับพ่อไอหรอก” สวนกลับเพียงในใจ

ไปนั่งรอตามที่เขาบอก เก็บมือถือไว้อย่างดี พักใหญ่ๆ เขาก็เชิญไปที่เคาน์เตอร์

“เอกสารยูครบแล้ว ยูจะอยู่กี่วัน”

“ไอจะอยู่เจ็ดวัน”

“แต่เอกสารยูมีแค่สี่วัน”

“ใช่ ไอจะต่อประกันเมื่อไอเข้าสู่สิงคโปร์ได้แล้ว ไอจะต่อให้ครบเจ็ดวัน”

“เราให้ยูได้แค่สี่วัน”

คนไทยไปสิงคโปร์ไม่ต้องขอวีซ่า สามารถเข้าประเทศได้เลย อยู่ได้สามสิบวัน ผมขอเจ็ดวัน เจ้าวู้ดแลนด์รามัญให้ผมสี่วัน

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เจ้านายของมัน แต่อยู่ที่เอกสารประกันภัยตามกฎหมายสิงคโปร์ของเจ้าฟลอร่า เดอ อาปาซิโอนาโด เอ็น เอล เวียนโต หรือเจ้าสองสูบเสียงเพราะ…มันครอบคลุมเพียงสี่วัน

“สี่วันไอก็เอา สี่วันก็ได้”

“เมื่อครบสี่วันแล้วหากยูจะอยู่ต่อ ยูต้องมาที่นี่หรือไปรายงานตัวที่สำนักงานของเราในสิงคโปร์”

“โอเค”

แล้วเขาก็ประทับตราเบ้อเร่อในพาสปอร์ต ไม่ใช่ตราประทับเหมือนเมื่อวาน ไม่ใช่ตราประทับแบบปกติ เป็นตราประทับที่เขียนไว้ชัดเจน มีข้อความทางกฎหมายแล้วก็วันที่ที่ชัดเจน “วันจันทร์…ยูจะต้องออกไปวันจันทร์” ตราที่ยิ่งใหญ่เบ้อเริ่ม ประทับอยู่ในพาสปอร์ต “มิฉะนั้น ยูจะได้เป็นอาชญากรจริงๆ…”

ตราประทับเบ้อเริ่มนั่นมันบอก

จากนั้น เจ้าหน้าที่ก็พาไปอีกห้องหนึ่ง ห้องเดียวกับเมื่อวาน เพื่อทำบัตรที่มีประสิทธิภาพ บัตรข้ามแดนที่ยอดเยี่ยม บัตรที่คนอื่นมี และเรากำลังจะมี เจ้าหน้าที่หลายคนจำผมได้ ทักทายด้วยรอยยิ้ม พร้อมเอ่ยคำที่คุ้นเคย “สวัสดีครับ”, “สวัสดีค่ะ” ผมเริ่มยิ้มออก แต่ยังไม่ประมาท เมื่อวานถูกใส่กุญแจมือ ตอกโซ่ตรวนที่นี่

ใช้เวลาอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง ผมก็ได้ครอบครองบัตรนั่น บัตรที่มีประสิทธิภาพ บัตรข้ามแดนที่ยอดเยี่ยม บัตรที่คนอื่นมี และเราก็มี

เจ้าหน้าที่เอาเอกสารระบบอีอาร์พีมาให้ ผมตอบว่าผมรู้จักระบบนี้แล้ว เขาถามว่าต้องการจะติดตั้งไหม ผมถามกลับไป ที่นี่ติดตั้งได้เลยหรือ เขาตอบว่าได้ แต่ต้องรอนาน อาจใช้เวลาถึงสี่ชั่วโมง แต่ยูอาจเข้าไปติดตั้งในเมือง น่าจะสะดวกกว่า

โอเค ขอเอกสารและแผนที่ของระบบอีอาร์พี ไอจะเอาไปศึกษา

การประมือปะทะกันในครั้งที่สอง แบบไม่มีใครรามือให้ใคร ระหว่างสุดยอดฝีมือชาวไทยเชื้อสายอินเดีย ที่มากับเจ้าสองสูบเสียงเพราะที่งดงาม กับสุดยอดค่ายกลวู้ดแลนด์ฝั่งสิงคโปร์ที่มากับกำลังพลเต็มค่าย ในที่สุดผลก็ออกมา… ค่ายวู้ดแลนด์รามัญถูกตีแตกพ่ายอย่างราบคาบ ผมได้รับอนุญาตให้เข้าสู่ประเทศสิงคโปร์พร้อมกับเจ้าสองสูบเสียงเพราะ ผู้หลงใหลในสายลม ฟลอร่า เดอ อาปาซิโอนาโด เอ็น เอล เวียนโต

เราทำสำเร็จในวันที่เก้าของการเดินทาง

ผมรีบติดเครื่อง ออกรถ ไม่ต้องการจะอยู่นาน เผื่อวู้ดแลนด์รามัญสักคนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ หรือเห็นอะไรไม่เป็นที่ถูกต้อง หรือมองข้ามกฎบางข้อไป ชัยชนะอาจถูกพลิกเป็นความพ่ายแพ้

ค่อยๆ ขี่ตามมอเตอร์ไซค์คันอื่นออกมา จะพ้นแล้ว จะพ้นแล้ว เห็นทางออกอยู่ตรงหน้า แล้วเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่แต่งตัวคล้ายตำรวจที่ยืนอยู่ ณ จุดสุดท้ายก่อนออกจากด่าน ก็เรียกให้ผมและเจ้าสองสูบ…หยุด…

มอเตอร์ไซค์เพื่อนร่วมทางที่เอาชนะค่ายกลวู้ดแลนด์ วิ่งหลบผมไปทางซ้ายบ้าง ไปทางขวาบ้าง ผมหยุดอยู่ตรงกลางตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ แล้วเขาก็เริ่มถาม “ยูมีเอกสารครบสำหรับเจ้ามอเตอร์ไซค์ของยูใช่ไหม” “ใช่” ผมตอบอย่างมั่นใจสุดๆ เหี้ยมเกรียม และดุดัน

“ขอดูหน่อย”

“โอเค”

ผมดับเครื่อง ลงไปเอาเอกสารจากกระเป๋า คิดในใจ ถ้าถูกตอกโซ่ตรวนร้อยกุญแจมือ คุมตัวกลับแบบเมื่อวาน มีหวังกระอักเลือดตายแน่

และขณะที่เขายังไม่เห็นเอกสาร “โอเค ยูไปได้” น้ำตาผมแทบจะไหล แต่ก็เก็บอาการเอาไว้เป็นอย่างดี และเมื่อขึ้นคร่อมรถ ก็มีมอเตอร์ไซค์ชาวสิงคโปร์คนหนึ่ง ฮอนด้า ซีบี สี่ร้อย มอเตอร์ไซค์สี่สูบเรียงขนาดสี่ร้อยซีซี ตัวคลาสสิคของค่ายปีกนก ที่อยู่ในฝันของคนจำนวนมาก และยังอยู่ในใจของใครหลายคน เจ้านายของมันต้องมีความรักในการขี่มอเตอร์ไซค์

เขาหยุดรถของเขาข้างหน้ารถผม ตะโกนบอกว่า “เวลคัม…ยินดีต้อนรับสู่สิงคโปร์” พร้อมกับยกนิ้วโป้งให้

ผมยิ้มริมฝีปากฉีกกว้างไปถึงหู

“แต้งกิ้ว”

เป็นยิ้มครั้งแรกในสิงคโปร์ หน้าค่ายกลวู้ดแลนด์ ไม่ใช่ยิ้มกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างผู้ชนะ ไม่ใช่ยิ้มเยาะให้กับวู้ดแลนด์ผู้ถูกตีแตกพ่ายยับเยิน แต่เป็นยิ้มแห่งความปลาบปลื้ม ยิ้มแห่งความสำเร็จ ยิ้มที่รู้สึกดีกับการใช้ชีวิตไม่ปกติธรรมดา ยิ้มที่ได้มาอยู่ที่นี่กับเจ้าสองสูบเสียงเพราะผู้หลงใหลในสายลม ยิ้มที่ได้รับการต้อนรับนั่น

แล้วก็มุ่งหน้าออกจากค่ายกลวู้ดแลนด์แบบมีรอยยิ้มเปื้อนหน้าโดยไม่หันกลับมามอง ไม่มองแม้มองผ่านจากกระจกหลัง

พร้อมกับตะโกนร้องดังๆ ราวกับอยู่ในคอนเสิร์ตกันส์ แอนด์ โรสเซส…อ้ากกกกกกกกกกกกกกกก

โจนทะยานด้วยเสียงเพราะพริ้งดุดันจากท่อไอเสียคู่ เข้าสู่ถนนไฮเวย์ที่สมบูรณ์แบบของสิงคโปร์