มหัศจรรย์ “โปรเม เอรียา” สร้างประวัติศาสตร์ กวาดทุกรางวัลแอลพีจีเอ!

สร้างความฮือฮาเขย่าวงการกอล์ฟอีกครั้ง

สำหรับ “โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล” นักกอล์ฟสาวไทย วัย 22 ปี ที่ได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟคนแรกที่สามารถกวาดรางวัลใหญ่ประจำปีของแอลพีจีเอครบทุกรางวัล ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน หลังจบการแข่งขันรอบสุดท้าย กอล์ฟรายการใหญ่ส่งท้ายปี “ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ” ที่รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

กอล์ฟรายการดังกล่าว เอรียาจบอันดับ 5 ร่วม มีสกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์ 276 ส่วนแชมป์คือ เล็กซี่ ธอมป์สัน โปรสาวชาวอเมริกัน หลังมีสกอร์รวม 18 อันเดอร์พาร์ 270 ทิ้งห่างอันดับ 2 เนลลี่ คอร์ด้า เพื่อนร่วมชาติ 4 สโตรก

ส่วนผลงานของนักกอล์ฟสาวไทยคนอื่นๆ ที่ร่วมแข่งศึกซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ โปรแหวน-พรอนงค์ เพชรล้ำ จบอันดับ 30 ร่วมกับโปรสายป่าน-ปัณณรัตน์ ธนพลบุญรัศมิ์, โปรจูเนียร์-ธิฎาภา สุวัณณะปุระ จบอันดับ 48 ร่วม, โปรแจน-วิชาณี มีชัย จบอันดับ 55 ร่วม และโปรโม-โมรียา จุฑานุกาล พี่สาวของเอรียา จบอันดับ 58 ร่วม

แม้ว่าเอรียาจะไม่ได้แชมป์ แต่ก็ทำให้เธอมีคะแนนสะสม “เรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบ” เป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนน 6,750 คะแนน พร้อมกับคว้าเงินรางวัลโบนัส 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 32 ล้านบาท) ไปครองเป็นครั้งที่ 2 ต่อจากปี 2016

นอกจากนี้ เอรียายังคว้ารางวัลสโตรกเฉลี่ยต่ำสุดจากผลงานตลอดทั้งปี (28 รายการ) หรือ “แวร์ โทรฟี่” ไปครองอีกรางวัล ด้วยสถิติ 69.415

และนับเป็นครั้งแรกในการเล่นกอล์ฟอาชีพของเธอ

สรุปรางวัลที่เอรียาคว้ามาได้ในปีนี้ ได้แก่ รางวัลอันนิก้า เมเจอร์ อวอร์ด สำหรับนักกอล์ฟที่ทำผลงานดีที่สุดในรายการระดับเมเจอร์ 5 รายการ, รางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี 2018, รางวัลนักกอล์ฟทำเงินรางวัลมากที่สุดของฤดูกาล, รางวัลสโตรกเฉลี่ยต่ำสุด หรือ “แวร์ โทรฟี่”, รางวัลนักกอล์ฟที่จบ 10 อันดับแรกมากที่สุด (17 ครั้ง) หรือคิดเป็น 61 เปอร์เซ็นต์ของการเล่นทั้งหมด, ครองสถิติเบอร์ดี้สูงสุด (470 ครั้ง) และแชมป์เรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบ

นับเป็นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเอรียา ที่ได้สร้างความยิ่งใหญ่เป็นที่ประจักษ์ในวงการกอล์ฟโลก

เอรียาบอกว่า ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะสามารถกวาดรางวัลแห่งปีของแอลพีจีเอได้ทุกประเภท ซึ่งถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ เพราะแต่ละรางวัลไม่ใช่จะได้มาง่ายๆ และรู้สึกภูมิใจกับผลงานของตัวเองในปีนี้

“มันเป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อ เมไม่ได้คาดหวังมาก่อนเลยว่าจะสามารถคว้ารางวัลเหล่านี้ได้ คือเมออกมาเล่นวันสุดท้าย (ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ) ด้วยความคิดที่ว่า ขอเล่นวันนี้ให้ดีที่สุดเท่านั้น เมรู้สึกดีและภูมิใจในตัวเองมากๆ กับรางวัลต่างๆ ที่ได้ เมอยากขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยที่ติดตามเชียร์ อดหลับอดนอนให้กำลังใจ เมขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้”

โปรสาววัย 22 ปี ระบุ

เอรียาบอกด้วยว่า จากรางวัลต่างๆ ที่ได้ในปีนี้ รางวัลที่เป็นไฮไลต์ของตัวเองคือ “แวร์ โทรฟี่” หรือสกอร์เฉลี่ยต่ำสุด เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ทำได้ เพราะที่ผ่านมาไม่ค่อยได้ลุ้นมากนักในปีก่อนๆ แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการในการเล่นของตัวเอง

ขณะเดียวกันย้อนไปดูผลงานของเอรียา ปีนี้คว้าแชมป์ 3 รายการ (2 แอลพีจีเอ ทัวร์, 1 เมเจอร์) ประกอบด้วย “คิงส์มิลล์ แชมเปี้ยนชิพ” ที่รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา, “ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น” ที่รัฐอลาบามา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

และ “เลดี้ส์ สกอตติช โอเพ่น” ที่ประเทศสกอตแลนด์ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทำเงินรางวัลรวมสูงสุด 2,743,949 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 90.4 ล้านบาท) จากการเล่น 28 รายการตลอดทั้งปี นับเป็นเงินรางวัลรวมต่อหนึ่งฤดูกาลมากที่สุดในการเล่นกอล์ฟอาชีพของเธอ

เมื่อรวมกับรางวัลโบนัส 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากแชมป์ “เรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบ” และ 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ จากรางวัลนักกอล์ฟที่จบ 10 อันดับแรกมากที่สุด ส่งผลให้เอรียามีรายได้จากเงินรางวัลรวมปีนี้ 3,843,949 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 126 ล้านบาท)

เบื้องหลังความสำเร็จของเอรียาในครั้งนี้คือ เฟีย นิลสัน และลินน์ มาร์ริออตต์ ทีมงานโค้ชจิตวิทยาจาก “วิชั่น 54” ที่ได้ให้คำแนะนำในการตีแต่ละช็อต รวมถึงให้เธอเล่นอย่างมีความสุข จนประสบความสำเร็จ

โดยหลังจากนี้ทีมงานจะวิเคราะห์แนวทางการเล่นว่ายังมีสิ่งใดที่ต้องปรับปรุงแก้ไข เพื่อสู้ศึกต่างๆ ในปีหน้า

ขณะเดียวกัน เอรียายังปิดฤดูกาล 2018 อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการครองมือ 1 ของโลกต่อไป ตอกย้ำการเป็นนักกีฬาไทยที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก

แต่การที่เอรียาจะรักษาอันดับโลกและความสำเร็จต่างๆ ที่เกิดขึ้น ก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้ซึ่งเป็นช่วงที่เอรียาผงาดครองมือ 1 ของโลกใหม่ๆ เธอมีความกดดันและเครียดมาก จากการที่ต้องเจอคู่แข่งที่พร้อมจะล้มเธอทุกสัปดาห์

แน่นอนว่าความล้มเหลวที่เคยเกิดขึ้นกับเอรียา ย่อมเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้เธอมีจิตใจที่แข็งแกร่ง และพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในการแข่งขัน

ส่วนโปรแกรมการแข่งขันกอล์ฟในปีหน้าจะเริ่มต้นด้วยรายการ “ไดมอนด์ รีสอร์ต ทัวร์นาเมนต์ ออฟ แชมเปี้ยนส์” ที่รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 17-20 มกราคม 2562 ชิงเงินรางวัลรวม 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 39 ล้านบาท)

หลังจากกวาดทุกรางวัลของแอลพีจีเอในปีเดียวกันแล้ว ล่าสุดเอรียาเตรียมจัดการแข่งขันกอล์ฟการกุศล เพื่อหารายได้สนับสนุนมูลนิธิสร้างรอยยิ้มเพื่อน้องๆ ในชนบท ภายใต้ชื่อรายการว่า “โม-เม กอล์ฟ แชริตี้ 2018” ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 3 ธันวาคมนี้ ที่สนามอัลไพน์ กอล์ฟ คลับ จ.ปทุมธานี

จากนี้ไปเชื่อว่าทุกสายตาในวงการกอล์ฟจะจับจ้องไปที่เอรียาอย่างแน่นอน ว่าเธอจะสามารถรักษาฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของตัวเองได้ดีแค่ไหน

แต่ที่แน่ๆ แฟนกีฬาชาวไทยพร้อมส่งกำลังใจให้เอรียาเดินหน้าไล่ล่าความสำเร็จทุกรายการในปีหน้าต่อไป