เผยแพร่ |
---|
หากไม่มีนักการเมืองอย่าง นายธวัชชัย สัจจกุล เดินเข้าประตูของ พรรคพลังประชารัฐ พร้อมกับสดุดีการรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
ภาพการเดินเข้าประตูพรรคไทยรักษาชาติของ นายสุธรรม แสงประทุม คงไม่มีความแตกต่าง
เพราะฐานที่มาของทั้ง 2 เหมือนกัน
นั่นก็คือ ไม่ว่า นายสุธรรม แสงประทุม ไม่ว่า นายธวัชชัย สัจจกุล ล้วนเคยมีสายสัมพันธ์กับพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชา ชน พรรคเพื่อไทย
เพียงแต่ นายธวัชชัย สัจจกุล เห็นด้วยกับรัฐประหาร 2557
ขณะที่ นายสุธรรม แสงประทุม ไม่เห็นด้วยกับรัฐประหาร ไม่ว่าเมื่อปี 2549 ไม่ว่าเมื่อปี 2557
คำที่ติดปากของอดีตส.ส.หลายคนที่เคยสัมพันธ์กับพรรคไทยรัก ไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย แล้วเปลี่ยนขั้วไปอยู่กับ พรรคพลังประชารัฐ
คือ เห็นชอบด้วยกับการตัดสินใจทำรัฐประหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ตรงกันข้าม คนเข้าพรรคไทยรักษาชาติเห็น”ต่าง”
ไม่ว่า นายสุธรรม แสงประทุม ไม่ว่า นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ไม่ว่า น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ที่ออกจากพรรคเพื่อไทยมาอยู่พรรค ไทยรักษาชาติ
ยังเห็นพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตยไม่เคยแปร เปลี่ยน
ขณะเดียวกัน ที่เข้ามาอยู่พรรคไทยรักษาชาติเพราะเห็นว่าเป็นพรรคที่ดี มีจุดยืนต่อต้านรัฐประหาร ต่อต้านการสืบทอดอำนาจของคสช.
เพียงแต่เห็นว่าเพราะเงื่อนไขของ”รัฐธรรมนูญ”ทำให้จำเป็น ต้องย้ายจากเพื่อไทยมาอยู่พรรคไทยรักษาชาติ
สภาพการณ์ทางการเมืองทำให้ไม่เพียงแต่พรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่ตั้งทัพประจันหน้ากับพรรคพลังประชารัฐอย่างชนิดหมัดต่อหมัด
หากแม้กระทั่งพรรคไทยรักษาชาติก็เช่นเดียวกัน
ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าพรรคไทยรักษาชาติ จึงเป็นพันธมิตรกันโดยพื้นฐานในทางการเมือง นั่นคือมองคสช.ด้วยสายตาเดียวกัน
และเป็นพันธมิตรในการดับเครื่องชน”พลังประชารัฐ”