ยานยนต์ /สันติ จิรพรพนิต/’MG3 ใหม่’ ที่สุดรถเล็ก ช่วงล่างเด่น-ระดับยุโรป

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ /สันติ จิรพรพนิต [email protected]

 

‘MG3 ใหม่’ ที่สุดรถเล็ก

ช่วงล่างเด่น-ระดับยุโรป

 

ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมในบ้านเรากับค่าย “เอ็มจี” รถแบรนด์ยุโรปแต่อยู่ภายใต้อุ้งมือของแดนมังกร

“เอ็มจี” ถือว่ามีอายุอานามไม่มากในบ้านเรา แต่ด้วยสายป่านยาวเหยียดโดยยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์ของจีน จับมือกับบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี รวมไปถึงการตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย

ทำให้คนไทยวางใจว่าไม่ทิ้งทุ่นกันง่ายๆ เนื่องจากลงทุนกันเป็นหมื่นๆ ล้าน

บวกกับรูปลักษณ์ภายนอก-ภายใน ออปชั่นและเทคโนโลยีที่ใส่เข้ามาเหนือกว่ารถในเซ็กเมนต์เดียวกัน ยิ่งเมื่อเทียบกับราคาที่ตั้งเอาไว้ถือว่าคุ้มค่าทีเดียว

เพราะเทคนิคการตั้งราคาที่ส่วนใหญ่จะถูกกว่ารถค่ายอื่นๆ ในเซ็กเมนต์เดียวกัน โดยจะมีราคาใกล้เคียงกับรถที่เซ็กเมนต์ต่ำกว่า

โดยเฉพาะรุ่นล่าสุดที่เปิดตัวคือ “เอ็มจี3” (MG3) เก็ง 5 ประตู นี่ยิ่งชัด เพราะเครื่องยนต์เป็นกลุ่ม “ซิตี้คาร์” หรือ 1.5 ลิตร ออปชั่นต่างๆ มาแบบเหนือๆ

แต่ตั้งราคาพอๆ กับรถอีโคคาร์เท่านั้น

 

ภายนอกยังคงคอนเซ็ปต์การออกแบบ “บริต ไดนามิก” (BRIT DYNAMIC) ที่ทำให้สมรรถนะ การควบคุม การออกแบบ และความปลอดภัย สนุกยิ่งขึ้นด้วยการผสานเทคโนโลยี สีสัน ความสะดวกสบาย ความคล่องแคล่ว และความสนุกในการขับขี่เข้าด้วยกัน

กระจังทรง 6 เหลี่ยมหน้าเป็นเอกลักษณ์คล้ายรุ่นอื่นๆ ของเอ็มจี และยังคล้ายกับ “มาสด้า” ด้วย ตรงกลางเป็นโลโก้ MG ขนาดใหญ่

ไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์ มีระบบควบคุมการเปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมไฟส่องสว่างขณะขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) ชายล่างออกแบบดูสปอร์ตคล้ายกับมีสปอยเลอร์ในตัว

กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถพร้อมไฟเลี้ยว มีสเกิร์ตที่ด้านข้างเป็นสีเข้มมาให้ด้วย

ไฟท้ายแนวตั้งแบบแอลอีดี ไลต์ไกด์ (LED Light Guide) ดูเด่นและไฮโซกว่าของเดิม พร้อมไฟเบรกดวงที่สามและไฟตัดหมอกหลัง เสริมด้วยสปอยเลอร์หลังดีไซน์สปอร์ต

ที่เด่นสุดไม่พ้นหลังคาซันรูฟปรับไฟฟ้า ที่ถือว่าเป็นครั้งแรกของเซ็กเมนต์

ล้อแมกซ์ 16 นิ้วลายสวยและดูแพงมาก

ส่วนภายในแผงคอนโซลหน้าตกแต่งเส้นสายสีสันโมเดิร์นกราฟิก พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่นและระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ

เรือนไมล์ทรงกลม 2 วงมาตรฐาน ไม่มีอะไรหวือหวาตรงกลางเป็น Multi-Function Display

ขยับมาตรงกลาง หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ และช่องเชื่อมต่อยูเอสบี หน้าจอตัวนี้ทันสมัยและติดตั้งทรูไอดี มิวสิก มาให้ด้วย

ลำโพง 6 ตัว เสียงพอประมาณ

ส่วนระบบนำทางเด่นขึ้นเพราะร่วมกับ “วงใน” และอโกด้า แสดงร้านอาหาร หรือโรงแรมที่พักได้ด้วย

 

แน่นอนว่าที่เด่นอีกอย่างคือระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะ “i-SMART” แม้จะไม่เต็มรูปแบบเหมือนรุ่น “ZS” ที่โด่งดังกลายเป็นวลีติดหู “ฮัลโหล เอ็มจี” แต่ก็ถือว่าระดับน้องๆ

“i-SMART” สามารถสั่งการด้วยเสียง เช่น การเปิด-ปิดแอร์ เปิด-ปิด เลือกคลื่นวิทยุ แต่ไม่สามารถสั่งงานเปิด-ปิดซันรูฟได้

อย่างไรก็ตาม การเปิด-ปิดซันรูฟเป็นระบบไฟฟ้า กดแค่ปุ่มเดียวง่ายๆ

ทั้งยังเชื่อมกับสมาร์ตโฟนได้ สั่งเปิด-ปิดล็อกประตู หรือหาที่อยู่ของรถ

เบาะนั่งมีลายกราฟิกเล็กๆ นั่งได้สบายพอประมาณ ที่นั่งด้านหลังเหลือพื้นที่เพียงพอ เบาะหลังปรับได้แบบ 60:40

ติดตรงที่นั่งหลังไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มาให้ ไม่มีแม้กระทั่งที่วางแก้วน้ำ

ที่ว่างด้านหลังใส่ของได้จุพอสมควร

มาถึงขุมพลังเบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว VTi-TECH ความจุ 1,498 ซีซี จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดมัลติพอยต์ ให้กำลังสูงสุด 112 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบ/นาที

ระบบส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ พร้อม Manual Mode ที่ปรับปรุงใหม่ รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงได้สูงสุดถึง E85

ระบบเกียร์จะแตกต่างจากรุ่นเดิมที่เป็นกึ่งอัตโนมัติ

 

ถึงเวลาลองของจริง อันดับแรกเลยต้องบอกว่าภายนอกสีสันของเอ็มจี3 ดูน่ารักและจัดจ้านเหลือเกิน มีให้เลือกทั้งแบบสีเดียว หรือทูโทน หลังคาดำ หรือขาว

กุญแจยังเป็นแบบเสียบบิดสตาร์ต เบาะนั่งกระชับตัวดีระดับหนึ่ง อุปกรณ์ปรับแต่งต่างๆ อยู่ใกล้มือดีมาก

อัตราเร่งช่วงต้นค่อนข้างช้าไปนิดหนึ่งหากมองว่านี่เป็นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เพราะแทบไม่ต่างจากรถอีโคคาร์เลย

แต่เมื่อมาถึงความเร็วกลาง-ปลายไหลได้เร็วไปยันราวๆ 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง เริ่มดื้อละครับ

ต้องขยี้ขยำกันพักใหญ่ๆ กว่าจะไต่ไปถึง 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง

แน่นอนว่าความเร็วขนาดนี้ผมไปวิ่งเล่นบนทางด่วนตอนกลางคืนนะครับ

เมื่อปรับเกียร์มาที่โหมด “S” ช่วงต้นไม่ต่างกันมากนัก แต่ช่วงกลาง-ปลายมาเร็วขึ้น

สิ่งที่ต้องชมคือช่วงล่างเสถียรมาก ไม่ว่าจะเป็นความเร็วระดับไหน ถือว่าเป็นจุดเด่นที่สุดจุดหนึ่งเลย

ยิ่งเมื่อเข้าโค้ง หรือเชนจ์เกียร์เพื่อลดความเร็วจนรถกระตุก ช่วงล่างยังไม่มีแกว่ง

ช่วงล่างเป็นแบบ “EUROPEAN TUNING SUSPENSION” ด้านแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลัง ทอร์ชั่นบีม

พวงมาลัยน้ำหนักค่อนข้างดีในความเร็วสูง แต่ถ้าในความเร็วต่ำอาจจะหนักไปสักนิด เพราะเป็นระบบไฮดรอลิก ไม่ใช่ไฟฟ้าแบบสมัยนิยม

เมื่อเข้าเกียร์ถอยจะมีภาพจากกล้องมองหลังส่งมาที่จอด้านหน้า บวกกับรัศมีวงเลี้ยวเพียง 5.425 เมตร และตัวถังขนาดกะทัดรัดแบบท้ายตัด ทำให้การจอดในที่แคบๆ ทำได้ง่าย

 

มีอีกสิ่งที่ต้องติงคือเสียงลม-เสียงเครื่อง เข้ามาค่อนข้างชัด ความเร็วแค่ 100 ต้นๆ ก็ได้ยินแล้ว ยังไม่ผ่านจุดปราบเซียนที่ 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ยิ่งเมื่อกดคันเร่งหนักๆ เพื่อทำความเร็ว เสียงรถยนต์เครียดใช้ได้

เช่นเดียวกับเสียงยางบดกับถนนเข้ามาเกือบทุกเม็ด แต่เข้าใจว่าน่าจะเกี่ยวกับยางติดรถด้วยเพราะเป็นเกรดธรรมดา ถ้าไม่คิดอะไรมาก ขับไปสักพักค่อยเปลี่ยนก็ไม่ว่ากัน

หรือถ้าใครอยากได้ความนิ่มนวลและความเงียบมากขึ้นเปลี่ยนยางไปเลยก็ได้อยู่

ระบบความปลอดภัยไม่ธรรมดา มากันครบ ทั้งถุงลมคู่หน้า ระบบเบรก ABS ระบบเสริมแรงเบรก-กระจายแรงเบรก ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง

ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ควบคุมการลื่นไถล ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน ระบบป้องกันการลื่นไถล เมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน

มองภาพรวม “เอ็มจี3” ทั้งภายนอก-ภายใน ออปชั่น และสมรรถนะ เทียบกับราคาที่ตั้งมา ถือว่าคุ้มค่ามากพอสมควร

เป็นรถเล็กที่เหมาะกับวัยรุ่น หรือหนุ่มสาวที่เพิ่งทำงานใหม่ๆ อย่างมาก

มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย ราคา 519,000-629,000 บาท