“มีชัย ฤชุพันธุ์” ประกาศเสียงดังฟังชัด ไม่รู้กี่ครั้ง

รัฐธรรมนูญปี 2560 ที่เขานั่งเป็นประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) นั้น

เป็นฉบับปราบโกง

เน้นป้องกันการเข้าสู่การเมืองเพื่อหวังฟอกตัว

เพิ่มความเข้มแข็งให้องค์กรอิสระเพื่อให้ทำงาน

เราจึงเห็น

รธน. มาตรา 234(3) เขียนหน้าที่ ป.ป.ช. ไว้ว่า

“กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ รวมทั้งตรวจสอบและเปิดเผยผลการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของบุคคลดังกล่าว ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต”

ให้สังเกตว่ามีการเพิ่มคำว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้ามา

และเมื่อ กรธ.ตามไปร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

ก็ยังเข้มขึ้นมาอีก

โดยระบุ มาตรา 102

ให้คู่สมรส แม้มิได้จดทะเบียนสมรส แต่อยู่กินกันฉันสามี-ภริยา ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินด้วย

ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ กรธ.ภาคภูมิใจ

เมื่อธงปราบโกง ชูนำมาแบบ “เข้มข้น” อย่างนี้

ป.ป.ช.จะไม่เต้นตามก็คงไม่ได้

ดังนั้น เมื่อถึงขั้นตอนจัดทำประกาศสำนักงาน ป.ป.ช.

ก็ต้องเข้มข้นตามไปด้วย

แน่นอน ต้องรวมถึงการกำหนดตำแหน่งเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินเพิ่มเติมด้วย

ขนาดคู่ครองนอกสมรส ยังบังคับให้แสดงทรัพย์สิน

แล้วข้าราชการอื่นๆ จะผ่อนปรนให้ได้อย่างไร

คำสั่งเหล็ก “แสดงทรัพย์สิน” จึงถูกประกาศออกมาให้ร้องโอดครวญกันในตอนนี้ไง

แล้วจะโทษใครดี

ป.ป.ช.ฝ่ายเดียว

หรือต้อง กรธ.ด้วย!

ไปไล่เบี้ยกันเอาเองก็แล้วกัน

และ แฮ่ม–อยากจะฝากไล่เบี้ยกันอีกประเด็น

นั่นคือ โดยสามัญสำนึก นายมีชัยในฐานะผู้ร่าง รธน. และ พ.ร.ป.ป.ป.ช. ควรจะเด็ดเดี่ยวมั่นคงกับ ป.ป.ช.

เพื่อยืนยัน รธน.ปราบโกง

แต่พอเสียง “ด่า” เรื่องการแสดงทรัพย์สินดังขึ้นเรื่อยๆ

มีคำแถลงจากกรรมการสภามหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ (มรร.) ว่า

“นายมีชัย นายกสภา มรร. ได้ตกลงกับกรรมการสภาจากภายนอก 12 คน จะลาออกจากตำแหน่ง วันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ เพราะไม่อยากวุ่นวายเรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สิน”

อ้าว ทำไมเป็นหนังคนละม้วนเช่นนั้น

คนที่ควรยืนหยัดกับ รธน.ปราบโกง กลับสละเรือเสียแต่แรก

งง!! เอ้า ช่วยครางชื่อ “มีชัย” แน