ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 9 - 15 พฤศจิกายน 2561 |
---|---|
ผู้เขียน | เสถียร จันทิมาธร |
เผยแพร่ |
วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย / เสถียร จันทิมาธร
ฤๅ อึงกง เท่ากับ เอี้ยก่วย (164)
เป็นอันว่าปัญหาการตายอย่างมากด้วยเงื่อนปมของนีมอซิงทำให้อึ้งย้งนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ทั้งหมดอยู่ที่ความสงสัยต่อพฤติการณ์ของก๊วยเซียง
จึงลอบลุกจากเตียงเดินทางถึงเชิงกำแพงเมือง
สั่งทหารที่เฝ้าประตูเมืองเสียนหยางเปิดประตูรุดไปยังศาลบูชาเอียวเก๋าทางทิศใต้ของตัวเมือง ขณะนั้นเป็นเวลายาม 4 ดาวดาราเคลื่อนคล้อยใกล้เลือนลับ จันทร์กระจ่างถูกเมฆดำบดบัง
อึ้งย้งถือกระบองสั้นด้ามหนึ่งทุ่มเทวิชาตัวเบาปราดขึ้นภูเขาเฮียงซัว
ขณะห่างจากศาลบูชาเอียวเก๋าหลายสิบวาพลันได้ยินที่ข้างหลักหินน้ำตารินมีสุ้มเสียงผู้คนดังลอดออกมา จึงหมอบร่างต่ำลง ย่องฝีเท้าเข้าใกล้ ห่างจากหลักศิลาหลายวา ซ่อนตัวหลังต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ไม่กล้าเคลื่อนเข้าใกล้
ได้ยินคน 2 คนสนทนาโต้ตอบกันพอร้อยเป็นเรื่องราวได้ว่า
อึงกง (ท่านผู้มีพระคุณ) สั่งพวกเรารอคอยที่หลังหลักหินน้ำตาริน เหตุใดหลักหินนี้ตั้งชื่อกระบิดกระบวนถึงเพียงนี้ ฟังดูหาเป็นมงคลไม่
ในชีวิตอึงกงนั้นคล้ายมีเรื่องราวที่ไม่สมมาดปรารถนา
ดังนั้น พอพบเห็นลำไส้ขาด กำสรวล น้ำตารินหลั่ง จะจดจำใส่ใจ
ด้วยความสามารถของอึงกง ทอดตาทั่วแผ่นดินสมควรไม่มีเรื่องยุ่งยากอันใด แต่เราสังเกตแววตา ฟังจากน้ำเสียงคล้ายกับในใจมีเรื่องราวที่ไม่เบิกบาน คำหลักหินน้ำตารินนี้เกรงว่าเป็นชื่อที่เขาตั้งขึ้นมาเอง
เราเคยได้ยินนักเล่านิทานตาบอดบอกว่า
สมัยสามก๊ก เมืองเสียนหยางเป็นของไต้จิ้นแม่ทัพที่เฝ้ารักษานามเอียงเก๋า มีความดีความชอบใหญ่หลวงได้รับแต่งตั้งเป็นไท้ฮู่ (เจ้าพระยา) ทำหน้าที่ปกป้องชายแดน คุ้มครองราษฎรอยู่เย็นเป็นสุข ปรกติท่านชมชอบท่องทิวทัศน์ภูเขาเฮียงซัว
หลังจากถึงแก่อสัญกรรม ชาวเมืองรำลึกถึงพระคุณจึงปลูกสร้างศาลบูชาเอียวเก๋าหลังนี้ ก่อตั้งหลักหินประกาศเกียรติคุณ
ราษฎรพอพบเห็นหลักหินนี้รำลึกถึงคุณงามความดีเมื่อครั้งท่านยังมีชีวิต มักร่ำไห้ออกมา
ดังนั้น หลักหินนี้ขนานนามว่าหลักหิน “น้ำตาริน” คนผู้หนึ่งมีการกระทำเช่นเอียวเก๋านับว่าเป็นลูกผู้ชายที่แท้จริงแล้ว
อึงกงประกอบวีรกรรมผดุงธรรมะ ทั่ว 4 ทะเล 5 ทะเลสาบ ไม่ทราบมีคนได้รับพระคุณของเขามากน้อยเท่าใด หากเขาเป็นขุนนางที่เมืองเสียนหยาง ไม่แน่ว่ายังมีคุณงามความดีกว่าเอียวเก๋าอีก
ก๊วยไต้เฮี้ยบแห่งเมืองเสียนหยางทั้งปกป้องมาตุภูมิ คุ้มครองราษฎร และประกอบวีรกรรม ผดุงธรรมะ
นับว่ารวมปมเด่นของเอียวเก๋ากับอึงกงพวกเราเข้าด้วยกันแล้ว
กาลก่อนพวกเราตั้งตัวเป็นศัตรูกับอึงกง ภายหลังกลับได้รับการช่วยเหลือจากเขา จิตใจที่ปฏิบัติต่อศัตรูเช่นสหายของอึงกงนี้สามารถเปรียบเทียบกับเอียวเก๋า
นักเล่านิทานที่เล่าเรื่องสามก๊กยังบอกว่า
ระหว่างที่เอียวเก๋า เอียวไท้ฮู่ เฝ้าเมืองเสียนหยาง คู่อริของท่านผู้เฒ่าเป็นแม่ทัพง่อก๊อกนามลกข้องซึ่งเป็นบุตรชายของลกซุน เอียวเก๋าส่งทหารไปทำสงครามในดินแดนของง่อก๊ก เกี่ยวข้าวของราษฎรนำมาเป็นเสบียงอาหารก็จะชดใช้เป็นเงินให้แก่ราษฎรของง่อก๊ก
ต่อมาลกข้องล้มป่วยลง เอียวเก๋าส่งยาให้ลกข้องก็รับประทานโดยไม่ลังเล ผู้ใต้บังคับบัญชาตักเตือนให้ระมัดระวังแต่ลกข้องหาเคลือบแคลงสงสัยไม่
หลังจากรับประทานตัวยา อาการก็ทุเลาหายดี
เนื่องด้วยเอียวเก๋ามีจริยธรรมอันสูงส่งแม้แต่ข้าศึกยังเคารพยกย่อง ขณะที่เอียวเก๋าถึงแก่อสัญกรรม แม้แต่แม่ทัพนายกองของง่อก๊กยังคร่ำครวญหวนไห้อยู่หลายวัน
อัจฉริยะที่พิชิตใจคนเช่นนี้จึงนับเป็นผู้กล้าหาญ
อึงกงนัดหมายพวกเรามาพบกันในที่นี้ คาดว่าคงนับถือเลื่อมใสต่อความประพฤติของเอียวเก๋าแล้ว เราเคยได้ยินอึงกงบอกว่าในชีวิตเอียวเก๋ามีคำพูดประโยคหนึ่งกล่าวได้ตรงใจกับเขา ครั้งกระโน้นหลังจากที่ลกข้องเสียชีวิต ง่อก๊กมีสภาพอ่อนแอ เอียวเก๋าทำหนังสือเสนอให้ปราบล่อก๊กแต่ถูกกังฉินคัดค้าน เอียวเก๋าทอดถอนใจ รำพึงว่า
“เรื่องไม่สมมาดปรารถนาในโลก มีอยู่ถึง 7-8 ส่วน” อึงกงชื่นชมคำพูดประโยคนี้ที่สุด
เอียวเก๋า เอียวเก๋า นามนี้มิใช่ออกเสียงคล้ายกับชื่อของอึงกงหรอกหรือ
ได้ยินดังนั้นอึ้งย้งใจหายวูบ นางต้องครุ่นคิดขึ้นอย่างสงสัย ชื่อที่ออกเสียงคล้ายกับนาม “เอียวเก๋า” หรือว่าเป็น “เอี้ยก่วย”
ไม่ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
ที่ว่าเป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะในความคิดของอึ้งย้ง “พลังฝีมือของก่วยยี้ต่อให้มีความรุดหน้าก็ไม่ลึกล้ำถึงขั้นนี้”
ตกลง “อึงกง” ผู้นั้นคือใคร