ฟ้า พูลวรลักษณ์ : อาลัย-เสียดายคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา

ฟ้า พูลวรลักษณ์

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก เล่มใหม่ (๑๓)

บทความนี้ ขอเขียนไว้อาลัยคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ที่เสียชีวิตไม่นานมานี้ ฉันเชื่อว่าเขาเป็นคนเก่งและคนดี เขาเป็นฮีโร่น้อยๆ ของโลกยุคใหม่นี้ ที่นำพาทีมฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ไปสู่ความเป็นแชมป์ของพรีเมียร์ลีก จุดสูงสุดในฟุตบอลอังกฤษ

ที่น่าทึ่งคือ เขานำพาทีมเล็กๆ ที่น้อยคนจะรู้จัก ซึ่งตอนนั้นยังอยู่แค่ดิวิชั่นสอง จนกลายเป็นทีมที่โด่งดังไปทั่วโลก เขาไม่เพียงเป็นที่รักในเมืองเลสเตอร์ซีตี้ หากแต่ยังเป็นฮีโร่ของชาวโลก

แต่สิ่งที่โดนใจของฉัน เวลาได้ยินข่าวเฮลิคอปเตอร์ตก คือทำไมเขาประมาทอย่างนี้ เนื่องด้วยเพราะเฮลิคอปเตอร์ไม่ควรเป็นยานพาหนะที่ใช้เดินทางทั่วไปเลย

เพราะจากข่าว ทำให้ทราบว่า เขาเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ทุกแมตช์ และเขาเป็นแฟนตัวยงของบอลเลสเตอร์ เท่ากับว่าเขาใช้มันประจำ จุดนี้เองคือความประมาท หากเขานานๆ ใช้ที ฉันก็จะไม่รู้สึกอะไร

ฉันเข้าใจว่าการเดินทางจากสนามบินมาสนามบอล หากนั่งรถอาจต้องใช้เวลา เพราะรถติด แต่นั่นคือปัญหาที่เขาต้องเลือก เขาอาจเลือกที่จะไปดูเพียงบางแมตช์ ไปเฉพาะแมตช์ที่สำคัญ หรือไม่ก็ยอมรับสภาพรถติด ยังจะดีกว่า

หากเขาเสียชีวิตเพราะเครื่องบินพาณิชย์ที่เขานั่งตก หรือแม้จะเป็นเครื่องบินส่วนตัวที่มีขนาดใหญ่ หรือเขาประสบอุบัติเหตุรถยนต์ นั่นก็ยอมรับได้ว่าเป็นโชคร้าย

แต่การเสียชีวิตเพราะนั่งเฮลิคอปเตอร์ประจำนั้น ฉันรู้สึกว่าเป็นความประมาท

มันทำให้ฉันคิดถึงปลาฟุกุ หรือปลาปักเป้า ซึ่งถือเป็นอาหารชั้นสูง มันเป็นปลาที่มีพิษอยู่ในอวัยวะภายใน มันซ่อนอยู่เต็มไปหมด อาจอยู่ในรังไข่ ตับ ดวงตา หรือแม้แต่ผิวหนัง ที่ร้ายที่สุดคืออยู่ที่ตับ แม้พ่อครัวที่ทำอาหารชนิดนี้จะผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี แต่หากเรากินปลาฟุกุ เราก็อดรู้สึกไม่ได้ว่า ความตายกำลังจ้องหน้าเราอยู่

พิษของปลาปักเป้านี้ ไม่มียารักษา ถ้าโดนคือตายลูกเดียว

การกินปลาฟุกุ หากนานๆ กินที ก็ยอมรับได้ แต่หากจะกินทุกวัน หรือกินเป็นประจำ ฉันว่านี้คือการใช้ชีวิตแบบประมาท

ฉันคิดถึงความตายของแชมป์นักมวยซูโม่คนหนึ่ง ที่เสียชีวิตเพราะกินปลาปักเป้า ที่สำคัญคือเขาชอบกินปลาชนิดนี้มาก และกินประจำ แต่วันหนึ่งมันก็พลาดจนได้

คนกินปลาปักเป้าแล้วเสียชีวิตมีมาก แต่ที่ฉันสนใจคือคนกินประจำ เพราะนี้คือความตายที่เกิดจากความประมาท และคนตายเป็นแชมป์ซูโม่ที่มีชื่อเสียง ยิ่งน่าเสียดาย

วันหนึ่ง ในออสเตรเลีย ฉันเกือบจะไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ท่องเที่ยว ฉันจำไม่ได้ว่าเขาจะพาไปเที่ยวไหน ฉันจองตั๋วไว้แล้ว แต่มันมีคิว ในขณะที่ฉันกำลังรออยู่ จนเกือบถึงคิวของฉันแล้ว ปรากฏว่ามีลมพายุ เฮลิคอปเตอร์ลำนั้นกลับมาได้ แต่แทบจะเอาชีวิตไม่รอด ผู้โดยสารลำนั้นบอกว่า โชคดีมากที่กลับมาได้ และคิวอื่นๆ สำหรับวันนั้นถูกแคนเซิลหมด ตอนฉันจองตั๋วใบนั้น ฉันคิดถึงอันตราย แต่ฉันคิดว่าครั้งหนึ่งในชีวิต นานๆ ครั้งน่าจะไม่เป็นไร แต่แม้กระนั้นก็ยังมีปัญหาจนได้

สำหรับฉัน ยานเฮลิคอปเตอร์เป็นยานอันตราย ใช้เฉพาะจำเป็นเท่านั้น

แต่คนรวยที่มีสิทธิ์จะใช้มันมากเท่าไรก็ได้ อาจเผลอไป เคยตัว คิดว่าสิ่งนี้ไม่มีปัญหาอะไร

มันเหมือนลงเรือน้อยท่องไปในทะเลหรือมหาสมุทร มันจะเป็นเรื่องปกติได้อย่างไร

๖ฉันไม่ได้ขี้ขลาดขนาดว่า ไม่กล้านั่ง ไม่กล้าเสี่ยง ที่จริงชีวิตนี้เราต้องเสี่ยง แต่มันมีเส้นแบ่งระหว่างความพอดีกับความประมาท

เครื่องบินหัดขับกับเฮลิคอปเตอร์ สิ่งเหล่านี้ไม่ควรใช้ประจำ ฉันเห็นคนตายมากมาย

ความผิดปกตินิดเดียว คือตาย

คนขับรถแข่งก็มีความเสี่ยง แต่กรณีนั้นเป็นกรณียกเว้น เพราะคนปกติจะไม่ขับรถแข่ง ต้องเป็นคนที่มี sense พิเศษ เป็นคนขับรถเก่ง ชอบความเร็ว ดังนั้น เมื่อเขาขับรถแข่ง เขาก็เลือกชีวิตของตนแล้ว ความเสี่ยงนี้ถือว่ายอมรับได้

หากคุณวิชัยเลือกจะเป็นนักขับรถแข่ง ก็แสดงว่าเขามี sense พิเศษอันนั้น และเลือกจะใช้ชีวิตที่ค่อนข้างเสี่ยง หากเขาเสียชีวิตเพราะเหตุนี้ ก็ยอมรับได้

แต่หากไม่ แต่กลับไปนั่งในรถที่มีความเร็วสูง จะทำอย่างนั้นทำไม

มีคนจำนวนมากกล้ากินปลาปักเป้า เพราะถือว่าพ่อครัวได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี และกินแล้วก็ปลอดภัยดี ของอร่อยแบบนี้ ไม่ต้องไปกลัว เช่นเดียวกับเฮลิคอปเตอร์ มีคนขับที่ฝึกฝนมาแล้วอย่างดี เพราะเขาเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เครื่องยนต์ต้องได้รับการตรวจสอบอย่างดี จะมีความน่ากลัวตรงไหน

ภัตตาคารปลาปักเป้าก็มีคนกินมากมาย เฮลิคอปเตอร์ก็มีบินว่อนให้เห็นทุกวัน สิ่งที่ฉันพูดอยู่นี้ มีเหตุผลหรือ ฉันคิดไปเองหรือเปล่า

ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน วิธีการคิดของฉันขึ้นกับ

๑ probability

๒ ลางสังหรณ์

ข้อแรกกับข้อสอง รวมตัวกัน

ข้อแรก เป็นข้อมูลที่ฉันก็ตรวจสอบไม่ได้ชัดเจน เพียงคาดคะเน

ส่วนข้อสองเป็นความรู้สึกส่วนตน

แต่ชีวิตในโลกนี้ ต้องมีสองข้อนี้ประกอบกันเสมอ ชีวิตที่ไม่พึ่งพาลางสังหรณ์เลย คือชีวิตที่ประมาท

มันเป็นสิ่งเล็กๆ ประจำวันของเรา เหมือนระบบตรวจสอบในร่างกายของเรา ลางสังหรณ์ของคนเราจะคมชัดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน เพราะชีวิตเป็นจิต และสิ่งรอบตัวของเรานั้น ที่จริงแล้วคือลมพายุ เราเอาเหตุผลอย่างเดียว ไม่พอ

แต่มันก็พึ่งพาข้อแรกด้วย คลื่นแห่งความน่าจะเป็น ที่ฉันใช้อยู่เสมอ แต่เราต้องอย่าลืมว่า โดยคำจำกัดความของมันก็ชัดเจนแล้ว ว่าคลื่น ซึ่งเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้

บทความนี้เขียนขึ้นด้วยความอาลัย เสียดายเขา แต่ก็แอบแฝงด้วยความขุ่นเคืองใจ ว่าเขาไม่ควรเสียชีวิตแบบนี้ มันง่ายดายเกินไป มันไม่จำเป็นเลย

พวกคุณไม่รู้สึกหรือ ว่าเฮลิคอปเตอร์เป็นยานพาหนะที่อันตราย

พวกคุณไม่รู้สึกหรือ เวลานั่งกินปลาฟุกุ ว่านี้คืออาหารที่อันตราย

พวกคุณไม่รู้สึกหรือ ว่าถนนบางสาย ไม่จำเป็นจริงๆ ไม่ควรเดิน

พวกคุณไม่รู้สึกหรือ ว่าคำพูดบางคำ ไม่ควรเปล่งออกจากปาก

หรือว่าฉันคิดไปเอง ลางสังหรณ์เป็นเรื่องส่วนตัวของฉันคนเดียว