คสช. รออะไรอยู่?

หลังจาก คสช.ทำรัฐประหาร เรา-ในฐานะเจ้าของประเทศคนหนึ่ง-ก็ตั้งตารอสิ่งที่ คสช.ประกาศว่าจะทำ จะสร้าง จะเปลี่ยนแปลง จะปฏิรูป จะเลือกตั้ง…ฯลฯ

เวลาผ่านมาจนจวนเจียนจะ 5 ปีแล้วก็ยังไม่ไปถึงไหน

และถ้าจะมีการเลือกตั้งจริงในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2562 ก็เท่ากับว่า คสช.เหลือเวลาอีกเพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น

เป็นอันว่าทำสิ่งที่ชาวบ้านอยากเห็นไม่ทันสักอย่าง…ปราบโกงและต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น ลดความเหลื่อมล้ำ ขจัดความยากจน เปิดเผยความจริงเรื่องน้ำมัน ปตท. สร้างความถูกต้องเป็นธรรม สร้างความปรองดอง ความสงบสันติในภาคใต้ ปัญหายาเสพติด ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม ราคาเกษตรกรรมตกต่ำ สารพิษและสารเคมีในเกษตรกรรม

และเรื่องเก่าที่สืบเนื่องมาจนถึงวันนี้…ขยะพลาสติก ขยะล้นเมือง ล้นทะเลจนสูญเสียการท่องเที่ยว ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าขั้นวิกฤต


เราอาจจะแยกเรื่องที่รัฐบาล คสช.ยังไม่ได้ทำออกเป็น 3 ประเภท

1. เรื่องที่รัฐบาลนี้หมดความชอบธรรมที่จะทำ ได้แก่ เรื่องปราบโกง และการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะทำไปก็เท่ากับเตะลูกบอลเข้าประตูตัวเอง

2. เรื่องที่รัฐบาลแพ้มาแต่ในมุ้ง พูดไม่ออกมาตั้งแต่ต้น หรือพูดแถไปอย่างน้ำขุ่นๆ ตรรกะบิดเบี้ยว เช่น กรณี ปตท. ปัญหาราคาน้ำมันแพงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน

3. เรื่องที่ คสช.เปลี่ยนจุดยืนหันมา “เล่นการเมือง” จะเพื่อสืบทอดอำนาจหรือไม่อยากลุกออกจากการนั่งทับของเสียก็ตาม พอเล่นการเมืองก็ต้องรักษาผลประโยชน์ของยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจ รวมทั้งบรรดาผู้เป็น “กองหนุน” คสช.จึงจำเป็นต้องเมินเฉยกับปัญหาขยะล้นเมือง สารพิษจากยา แม้กระทั่งจะปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดก็เกรงใจบริษัทยา-ทำไม่ได้

ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงบางส่วนของปัญหา บางเรื่องเป็นปัญหาเก่าที่เรื้อรังมานาน คสช.ก็ผลักโทษไปที่รัฐบาลเก่า

แต่ปัญหาที่เกิดใหม่ก็ไม่เห็นว่ารัฐบาลออกแอ๊กชั่นอะไร แถมจะเล่นงานพวกที่ออกมาโวยวายเสียด้วยซ้ำ

ล่าสุดสื่อญี่ปุ่นรายงานข่าวเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบภูเขาขยะ มีขยะสะสมกว่า 300,000 ตัน ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วเกือบทั้งเกาะ อาจต้องใช้งบประมาณกว่า 300 ล้าน และเวลากว่าปีถึงจะบรรเทาปัญหาลงได้

ผมควรจะเล่าเรื่องขยะเมื่อ 10 กว่าปีหรือเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา ครั้งไปเที่ยวฮ่องกงแล้วแวะซื้อของกินและของใช้เล็กน้อยที่ร้านค้าใกล้โรงแรมที่พัก จ่ายเงินเรียบร้อยแล้วขอถุงใส่ พนักงานคนขายส่งสัญญาณมือบอกราคาค่าถุง คิดเป็นเงินไทยก็ราวๆ 4 บาท

งงอยู่ครู่หนึ่งกว่าจะนึกออกว่าเราไม่ได้อยู่ในเมืองไทย จึงโบกมือปฏิเสธไม่เอาถุง ใช้สองนิ้วหนีบของที่ซื้อเดินเข้าลิฟต์ไปโดยไม่มีปัญหาอะไร

ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยคิดคำนึงถึงเรื่องขยะล้นโลกมาก่อน รู้สึกประทับใจที่ทางการฮ่องกงเขามีวิสัยทัศน์ แก้ปัญหาโดยไม่ต้องเกรงใจใครหน้าไหน

ทั่วโลกเห็นภัยของขยะ ไทยเราเริ่มรณรงค์อย่างเป็นรูปธรรมในราวปี พ.ศ.2526 หรือ 2527 โดยองค์กรเอกชน “สมาคมสร้างสรรค์ไทย” ของคุณหญิงชดข้อย โสภณพนิช ในแนวทางให้คนไทยมีจิตสำนึก “ทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทาง” ด้วยโลโก้ตาวิเศษพร้อมคำพูด “อ๊ะ อ๊ะ…ตาวิเศษเห็นนะ…”

เป็นโครงการเอกชนซึ่งได้ผลในระดับน่าพอใจ ไทยหลุดจากมหานครที่เคยได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 5 ของเมืองที่สกปรกที่สุด!

แต่เมื่อมาถึงยุค “ขยะล้นโลก ล้นทะเล” และยุค “ขยะพลาสติก” โดยที่ภาครัฐยังงอมืองอเท้า โครงการตาวิเศษจึงพลอยเงียบไปด้วย ชาวบ้านที่ศรัทธา “ตาวิเศษ” กำลังเรียกร้องให้ออกมาเดินหน้าแทนรัฐอีกครั้ง

ผมขอเรียกร้องด้วยครับ… เมื่อ 2 เดือนที่แล้วไปวัดราชบพิธฯ จอดรถริมคลองหรือคูตามที่เจ้าหน้าที่จัดระเบียบไว้ (ไม่ไกลจากทำเนียบรัฐบาลเท่าไร) ผมต้องเดินเอามือปิดจมูกและกลั้นหายใจเป็นพักๆ ไปจนถึงวัด

ประเทศทางฟากตะวันตกตื่นตัวเรื่องขยะมานานแล้ว เดนมาร์กก้าวล้ำหน้า เก็บภาษีถุงพลาสติกมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2536 รณรงค์ให้ใช้ซ้ำ มีเครื่องรับซื้อพลาสติกที่เพียงแต่นำพลาสติกชนิดรีไซเคิลใส่เข้าไป เครื่องก็จะตรวจสอบแล้วจ่ายสลิปออกมา นำสลิปไปใช้แทนเงินสดซื้อของได้

อังกฤษเสนอเครือจักรภพ (53 ประเทศ) ยกเลิกการใช้หลอดพลาสติกและคอตตอนบัด ไอร์แลนด์ เยอรมนี สวีเดน ออสเตรเลีย ฯลฯ ต่างต่อสู้เพื่อพิทักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ประเทศทางฟากตะวันออกและเพื่อนบ้านของเราก็ก้าวไปไกลกว่าเรามาก พม่าเลิกใช้ถุงพลาสติกมาแต่ปี 2552 มาเลเซียเลิกใช้ปี 2560 ส่วนประเทศฟิลิปปินส์เพิ่งสั่งห้ามใช้ถุงพลาสติก ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ปรับตัวด้วยการใช้ถุงกระดาษอย่างบางแทน

เคนยา ประเทศที่ไม่ได้อยู่ทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออก เท่กว่าทุกชาติ ออกกฎหมายห้ามใช้และจำหน่ายถุงพลาสติก กำหนดโทษรุนแรง จำคุก 4 ปี ปรับ 1.2 ล้านบาท

ในวันสิ่งแวดล้อมโลกที่ผ่านมา ยูเอ็นประกาศให้ไทยเป็นประเทศที่ใช้ถุงพลาสติกมากที่สุด

จังหวัดลำพูนประกาศเป็นจังหวัดปลอดโฟมแห่งแรกและแห่งเดียว จังหวัดอื่นรณรงค์พอเป็นพิธีตามคำสั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา การตายของวาฬนำร่องครีบสั้นเมื่อเดือนมิถุนายน ผ่าท้องพบขยะพลาสติกน้ำหนัก 8 กิโลกรัม จำนวน 80 ชิ้น

ปัญหาขยะเป็นเรื่องระดับชาติ คสช.เกรงใจผลประโยชน์ของใครหรือรออะไรอยู่?