คุยกับทูต ‘เอฟรอน อักกุน’ 6 ทศวรรษมิตรภาพไทย-ตุรกี (จบ)

คุยกับทูต เอฟรอน อักกุน 6 ทศวรรษมิตรภาพไทย-ตุรกี (จบ)

“การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับตุรกีเริ่มขึ้นเมื่อ 12 พฤษภาคม ปี ค.ศ.1958 ปีเดียวกับที่เราเปิดสถานเอกอัครราชทูตที่กรุงเทพฯ และขณะนี้เรากำลังเตรียมจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีแห่งความสัมพันธ์ของเราสองประเทศ”

และนั่นถือเป็นจุดเริ่มต้นมิตรภาพอันดีระหว่าง 2 ประเทศ จวบจนถึงปี ค.ศ.2018 นี้ จึงนับเป็นโอกาสครบรอบ 60 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตอันแน่นแฟ้น

เมื่อเจาะลึกลงไปก็ได้เห็นความสัมพันธ์ที่ได้มีการจัดทำโครงการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรม (Cultural Exchange Program) ระหว่างรัฐบาลไทยและตุรกีเมื่อปี ค.ศ.2006-2010 อันเป็นผลมาจากความตกลงทางวัฒนธรรมไทย-ตุรกี (Thai-Turco Cultural Agreement)

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ.2017 ณ อาคารไปรษณีย์กลางบางรัก บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ และสถานเอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทย ได้เปิดตัวตราไปรษณียากรที่ระลึก 60 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ และหนังสือความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรสยามกับออตโตมัน

เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกีประจำประเทศไทย นางเอฟรอน ดาเดเลน อักกุน (Her Excellency Mrs.Evren Da?delen Akg?n) เล่าถึงแผนการฉลองครบรอบ 60 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูต

“เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมของไทยและตุรกีได้ลงนามในปฏิญญาแสดงเจตจำนงการดำเนินความร่วมมือด้านวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐตุรกีว่าด้วย ปีแห่งวัฒนธรรมไทย-ตุรกี ค.ศ.2018 มีเนื้อหาโดยรวมครอบคลุมถึงกิจกรรมที่ทั้งสองฝ่ายอาจพิจารณาจัดร่วมกัน ทั้งในไทยและตุรกี อาทิ ศิลปะการแสดง ดนตรี นาฏศิลป์ การออกแบบ นิทรรศการในหัวข้อต่างๆ และกิจกรรมเกี่ยวกับภาพยนตร์ รวมทั้งความร่วมมือด้านอื่นๆ”

ส่วนหนึ่งของกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่แสดงในตุรกี Thai Cultural Roadshow 2018

ในโอกาสแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีความสัมพันธ์ไทยและตุรกี กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการต่างประเทศ สถานทูตไทย ณ กรุงอังการา กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวตุรกี ได้จัดกิจกรรมความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่าง 2 ประเทศขึ้นที่เมืองอังการาและอิสตันบูล ภายใต้ชื่อความสัมพันธ์ไทย-ตุรกี ระหว่างวันที่ 26 กันยายน – 1 ตุลาคมที่ผ่านมา กิจกรรมมีความหลากหลายทั้งการฉายภาพยนตร์ การแสดงแม่ไม้มวยไทย โขน ศิลปะพื้นบ้าน อาหารไทย แฟชั่นโชว์ผ้าไทยและรำไทย

“เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นเจ้าภาพต้อนรับนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและคณะในประเทศตุรกี ซึ่งเป็นความร่วมมือที่กำลังดำเนินอยู่ระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ”

“กิจกรรมที่น่าจะเริ่มต้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า อาทิ การแสดงดนตรีจากประเทศตุรกีในเดือนธันวาคม เช่นเดียวกับงานเทศกาลภาพยนตร์และอาหาร การแสดงหุ่นเด็ก งานศิลปะ การสัมมนาทางโบราณคดี และอื่นๆ ตอนนี้พ่อครัวหรือเชฟชาวตุรกีผู้มีชื่อเสียงคือ นายมิเรลี (Mireli) เดินทางมาถึงประเทศไทยเพื่อแสดงฝีมือในระหว่างวันที่ 26-27 ตุลาคมนี้ โดยได้รับการสนับสนุนจากสายการบินของตุรกีคือ เตอร์กิช แอร์ไลน์ (Turkish Airlines)”

ท่านทูตกล่าว

ถามถึงความท้าทายที่สำคัญที่สุดและวิธีการจัดการ

“เป็นการรับตำแหน่งเอกอัครราชทูตครั้งแรกของดิฉัน เห็นได้ชัดว่ามีขอบเขตความรับผิดชอบที่ใหญ่โตและซับซ้อนมาก แต่ก็คุ้มค่ามากเช่นกัน ทุกตำแหน่งหน้าที่ในสถานที่ใหม่มักมีความท้าทายเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อย้ายไปยังภูมิประเทศใหม่ๆ ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติในโอกาสที่ได้มารับตำแหน่งที่ประเทศไทยซึ่งเป็นมิตรประเทศของเราถึง 60 ปี เป็นประเทศที่มีความสำคัญในภูมิภาคและอาเซียน ซึ่งเราให้ความสำคัญเป็นพิเศษ”

“ความท้าทายเรื่องแรก คือการติดตามเหตุการณ์และเรื่องราวที่น่าสนใจต่างๆ โดยการพบปะผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทำตัวให้กลมกลืนไปกับชีวิตประจำวัน ทำให้เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว”

“ความท้าทายต่อมาคือ ทั้งสามีและดิฉันต่างได้รับมอบหมายให้เป็นเอกอัครราชทูตทั้งคู่ จึงต้องมีชีวิตที่แยกจากกันโดยปริยาย การจัดการเรื่องนี้ค่อนข้างลำบากเพราะเราได้พบกันโดยเฉลี่ยเพียงเดือนละครั้งที่ประเทศไทยหรือบรูไนดารุสซาลามซึ่งสามีไปประจำที่นั่น แต่เราก็ติดต่อพูดคุยกันเป็นประจำ”

“ความท้าทายลำดับสุดท้ายคือ ทั้งตุรกีและไทยมีวาระประจำภูมิภาคที่มีรายละเอียดเข้มข้นมาก แต่การที่ทั้งสองฝ่ายจะหาโอกาสที่เหมาะสมพบกัน ก็ต้องมีการวางแผนล่วงหน้าอย่างรอบคอบจริงๆ ดิฉันรู้สึกโชคดีในเรื่องนี้ เนื่องจากเรามีการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีแห่งความสัมพันธ์ของเราทั้งสองประเทศ เราจึงมีความตั้งใจที่จะให้ความสำคัญซึ่งกันและกันเป็นอันดับแรก”

สิ่งที่คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ท้าทายในวันข้างหน้า

“ในระยะเวลาข้างหน้าอีกไม่นาน เราจะย้ายที่ทำการสถานทูตของเราไปสู่แห่งใหม่ และดูเหมือนว่าจะเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่มาก นอกจากนี้ ดิฉันอยากขอเชิญเพื่อนชาวไทยไปเยือนตุรกีกันให้มากขึ้น โดยหวังว่าปีแห่งวัฒนธรรมไทย-ตุรกี ค.ศ.2018 จะเป็นประโยชน์ในเรื่องนี้ และสายการบินตุรกีคือ เตอร์กิช แอร์ไลน์ (Turkish Airlines : THY) ก็ยังได้เพิ่มเที่ยวบินต่อวันขึ้นอีก”

“โดยทั่วไป ดิฉันขอพูดว่า การทำงานอย่างมีพลวัตนั้นเป็นการช่วยสร้างให้เกิดงานใหม่ขึ้นในความสัมพันธ์ทวิภาคี และดิฉันคิดว่า ทูตอีกหลายท่านก็คงจะคิดแบบเดียวกัน”

บทบาทที่จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยและตุรกี

“เอกอัครราชทูตและนักการทูตทั่วไปปฏิบัติหน้าที่ในต่างประเทศด้วยวัตถุประสงค์หลายประการ ที่สำคัญคือ การเป็นตัวแทนประเทศของคุณเองซึ่งเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในอีกด้านหนึ่ง หน้าที่ที่สำคัญคือการช่วยสร้างความเชื่อมโยงระหว่างสองประเทศ ในทิศทางนี้นักการทูตและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเอกอัครราชทูตจะพยายามติดต่อกับผู้คนจากหลากหลายวิถีชีวิตในประเทศที่พวกเขาไปประจำเพื่อทำความเข้าใจในวัฒนธรรม ได้รู้จักประเทศ เป็นการไปสำรวจถึงทางเลือกอื่นที่อาจจะนำไปเสริมสร้างในความสัมพันธ์ทวิภาคีและพหุภาคีระหว่างสองประเทศด้วย”

“ดังนั้น สถาบันที่เป็นทางการและตัวแทนของสถาบันจึงเป็นผู้สื่อสารหลักของเรา รวมทั้งบุคคลจากแวดวงต่างๆ ทั้งในการศึกษา ศิลปะและวัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ สื่อมวลชน กีฬา คือผู้ที่เรายินดีที่จะติดต่อเพื่อแสวงหาสิ่งที่สามารถทำร่วมกันได้มากขึ้นระหว่างสองประเทศ และเพื่อประโยชน์ร่วมกันของประชาชนของเรา ซึ่งในแง่นี้ดิฉันรู้สึกโชคดีมากที่ได้มาอยู่ในประเทศไทย ที่ซึ่งคนให้การต้อนรับขับสู้ มีน้ำใจไมตรีและกระตือรือร้น”

“ค.ศ.2018 เป็นปีแห่งหกทศวรรษของมิตรภาพอันยาวนานระหว่างตุรกีและไทย นี่เป็นสิ่งจูงใจที่ประชาชนของเราทั้งสองประเทศควรจะต้องใกล้ชิดกัน พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันให้มากยิ่งขึ้น”

“ปัจจุบันคนตุรกีและคนไทยได้วีซ่าท่องเที่ยวฟรีถึง 30 วัน และเมื่อปีที่แล้วนอกเหนือจากเที่ยวบินตรง 2 เที่ยวบิน กรุงเทพฯ-อิสตันบูล ภูเก็ตกลายเป็นจุดหมายปลายทางอันดับที่ 300 ของสายการบินของตุรกีคือเตอร์กิช แอร์ไลน์ ซึ่งได้มีการลงนามในข้อตกลงการบินพลเรือนเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาโดยจะมีเที่ยวบินเพิ่มขึ้นอีก”

เตอร์กิช แอร์ไลน์ ขึ้นแท่นสายการบินที่บินไปยังประเทศและจุดหมายปลายทางต่างๆ มากกว่าสายการบินอื่นใดในโลก โดยได้เปิดให้บริการเที่ยวบินตรงมายังภูเก็ต 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ.2017 เพื่อเฉลิมฉลองจุดหมายปลายทางแห่งที่ 300

“ไทยและตุรกีเป็นประเทศที่เจริญรุ่งเรืองและตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาค ทั้งสองประเทศจึงควรเพิ่มความร่วมมือกันให้มากขึ้นทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคีเพื่อประโยชน์ร่วมกันของประชาชนทั้งสองฝ่ายและสร้างความเจริญมั่งคั่งให้แก่ภูมิภาคของตนต่อไป”

“และเช่นเดียวกับทุกประเทศ ตุรกีเป็นประเทศที่สวยงามด้วยมรดกโลกและสิ่งมหัศจรรย์ของโลก รวมทั้งร่องรอยแห่งอารยธรรมโบราณอันยิ่งใหญ่ ผู้คนที่เป็นมิตร จึงควรค่าแก่การไปเยือนเป็นประสบการณ์ที่มีค่าและมิอาจลืมไปชั่วชีวิต”

ท่านทูตฝากข้อความถึงผู้อ่านว่า

“ดิฉันอยากให้ท่านระลึกถึงความจริงที่ว่า ตุรกีและไทยมีความคล้ายคลึงกันมากทั้งในด้านความอบอุ่น อ่อนโยนในการต้อนรับผู้มาเยือน อาหารที่ยอดเยี่ยม ประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ ความงดงามของธรรมชาติ ประเทศตุรกีและไทยมีความเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อ รวมทั้งมีศักยภาพที่ดีโดยรวม”

ทั้งสองประเทศยังตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ การเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีแห่งความสัมพันธ์ แสดงให้เห็นว่าไทยและตุรกีมีความสัมพันธ์กันอย่างราบรื่น นับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน และมีความร่วมมือกันในหลากหลายมิติ

โดยเฉพาะวัฒนธรรม ซึ่งเปรียบเสมือนตัวเชื่อมความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างไทยและตุรกีฉันบ้านพี่เมืองน้อง โดยไม่มีขีดจำกัดของเชื้อชาติ ศาสนา และภาษา ในขณะเดียวกันคนไทยก็ควรเตรียมตัวให้พร้อมที่จะทำหน้าที่ทูตวัฒนธรรม เพื่อเปิดประตูประเทศไทยให้ต่างชาติได้เห็นแง่มุมที่งดงามและประทับใจในสยามเมืองยิ้มด้วยเช่นกัน