วิเคราะห์ : เมื่ออดีตไล่ล่าลุงกำนัน ปฏิบัติการเดินคารวะแผ่นดินไม่ราบรื่น จากนี้ไป ไม่เหมือนเดิม!

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้อยู่เบื้องหลังการก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย หันกลับมาเดินบนถนนอีกรอบ

เพื่อขอให้ประชาชนมาร่วมสมัครสมาชิกพรรค ภายใต้ชื่อปฏิบัติการเดินคารวะแผ่นดิน ให้อารมณ์และบรรยากาศเหมือนกลับไปในช่วง 5 ปีที่แล้ว

ปฏิบัติการเริ่มต้นที่บริเวณปากคลองตลาดในวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนจะใช้เวลาขยายไปยังพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ ในจุดอื่นๆ ทั้งย่านสำเพ็ง สุขุมวิท สีลม เจริญกรุง เป็นต้น

ก่อนจะเริ่มปฏิบัติการขยายไปยังพื้นที่ต่างจังหวัด

สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ปฏิบัติการในวันนี้ของนายสุเทพไม่เหมือนกับปฏิบัติการปิดกรุงเทพฯ ในอดีตอีกแล้ว

ในครั้งนั้น มีประชาชนบางส่วนโดยเฉพาะชนชั้นกลาง เห็นด้วยและตอบสนอง ยอมสวมผ้าใบกับใจถึงๆ มาเดินกับนายสุเทพ

เราได้เห็นดาราจำนวนมาก เปิดหน้าเปิดตา ออกมาเป่านกหวีดสนับสนุน

แต่วันนี้ มีเพียงนายสุเทพมาพร้อมทีมงานจำนวนไม่มาก เดินไปตามถนนเส้นสำคัญ เพื่อแจกใบสมัครเข้าร่วมพรรค

และด้วยบริบทการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปมาก หลังจาก คสช.เข้ามาบริหารประเทศเข้าสู่ปีที่ 5 ความขัดแย้งทางการเมืองไม่ได้ถูกแก้ไขอย่างแท้จริง มิหนำซ้ำยังฝังรากลึกกว่าเดิม

การเดินของนายสุเทพวันนี้จึงไม่ราบรื่นเหมือน 5 ปีที่แล้ว

27 ตุลาคม ระหว่างที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) นำคณะผู้จัดตั้งพรรค ปฏิบัติการ “เดินคารวะแผ่นดิน” เพื่อเชิญชวนประชาชนร่วมกันเป็นเจ้าของพรรคด้วยการสมัครเป็นสมาชิกที่เยาวราช ก็ได้มีชายคนหนึ่งขี่จักรยานยนต์ผ่านพร้อมตะโกนด่าทอ

ตามรายงานข่าวแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับตัวไว้ หลังเจ้าหน้าที่ไปดูการโต้เถียงทางการเมืองกันอย่างดุเดือด ระหว่างตรรกะแนวคิดทางการเมืองแบบหนุนรัฐประหาร และไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องออกตัวขอให้แยกย้ายกันไป

กรณีต่อมาเกิดขึ้นวันเดียวกัน เมื่อคณะนายสุเทพเดินไปพบชายคนหนึ่ง ก็ได้สอบถามอย่างตรงไปตรงมาว่า ไหนบอกไม่ลงการเมือง ทำให้นายสุเทพตอบว่า “ผมไม่ลงสมัคร ผมไม่เอาตำแหน่งอะไร ผมช่วยเขาไง ถ้าเราไม่ช่วยแล้วใครจะช่วยบ้านเมืองล่ะ ใช่ไหม ประชาชนทุกคนเราก็ต้องช่วยกัน”

ชายคนดังกล่าวพูดขึ้นมาว่า “ผมเคยสนับสนุนคุณ แต่ตอนนี้ผมไม่ได้ช่วย” ซึ่งนายสุเทพตอบทันควันว่า “โอเค ไม่เป็นไร” ก่อนจะหันหน้าเดินหนีไปทางอื่น

ถัดมาอีกหนึ่งวัน นายสุเทพเดินทางไปอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก บรรยากาศเรียบร้อย

แต่ในรายงานข่าวระบุว่า แม้มีกลุ่ม กปปส.จากต่างจังหวัดมาต้อนรับ แต่ความนิยมก็แตกต่างจากในอดีตอย่างมาก มีคนมาร่วมน้อย

จากนั้นในวันที่ 29 ตุลาคม นายสุเทพก็กลับมาเดินกลางกรุงเทพฯ อีก เริ่มตั้งแต่ลุมพินี สีลม สาทร ซึ่งเมื่อ 5 ปีที่แล้วนายสุเทพได้รับความนิยมจากประชาชนในย่านนี้มาก ที่นี่มีรายงานว่า ทันทีที่แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทยเริ่มเดินเข้าสู่ถนนสีลม มีชายคนหนึ่งได้เดินมาสอบถามว่าเป็นพรรคของนายสุเทพหรือไม่ เมื่อทราบว่าใช่ ก็ตะโกนทันทีว่าโกหก แล้วเดินหันหลังจากไป

หลายกรณีที่ผ่านมาสร้างแรงกดดันให้กับนายสุเทพทันที โดยนายสุเทพชี้แจงกับสื่อมวลชน กรณีมีประชาชนตะโกนด่าทอและแสดงความไม่เห็นด้วย ตอบโต้ว่าเป็นฝีมือของกลุ่มอำนาจเก่า

“ขณะนี้ได้มีขบวนการที่พยายามก่อกวนการทำงานทางการเมืองของพรรค รปช. โดนฝ่ายอำนาจเก่าส่งคนมาตะโกนด่าบ้าง มาแสดงการโต้แย้งไม่เห็นด้วยบ้าง ก่อกวนด้วยวิธีการต่างๆ นานา ผมเห็นชัดว่ามีการว่าจ้างให้มากระทำการเหล่านี้” นายสุเทพระบุ

หลังจากนั้นก็ยังมีการปล่อยคลิปที่กลุ่มนายสุเทพถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าห้างสรรพสินค้าชื่อดัง รวมถึงร้านค้าต่างๆ ที่คณะของนายสุเทพเดินผ่าน

ทำให้ทีมงานนายสุเทพต้องปรับกลยุทธ์ ให้ทีมล่วงหน้าไปดูก่อนว่าเส้นทางที่จะผ่าน มีคนเป็นมิตร พร้อมหรือไม่พร้อมที่จะต้อนรับอย่างไร เพื่อลดการเผชิญหน้าและภาพที่ไม่ดี

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในวันที่ 30 ตุลาคม การแสดงอาการไม่พอใจ ต่อต้านเชิงสัญลักษณ์ และตั้งคำถามยังเกิดขึ้นตลอดการเดินสายทำกิจกรรม เช่น ระหว่างที่กำลังเดินสายรับสมัครสมาชิกพรรค ได้มีนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มศว เข้ามาไลฟ์สดและสอบถามนายสุเทพว่า “ที่ผ่านมาต่อสู้กับประชาชนเต็มที่ แต่ตอนนี้กลับมาเล่นการเมือง มีความคิดเห็นอย่างไร และการมาหาเสียงครั้งนี้ทำเพื่ออะไร” เล่นเอานายสุเทพและคณะอึ้งไปเหมือนกัน

ต่อมา เวลา 11.30 น. เมื่อขบวนของนายสุเทพมาถึงซอยศรีเวียง หน้าโรงแรมแชงกรี-ลา มีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว พูดเสียงดังเชิงต่อว่านายสุเทพว่า “ไม่ห่มผ้าเหลืองมาเหรอคะ ไหนว่าจะบวชไม่สึก คิดว่าประชาชนโง่หรือคะ กินข้าวนะ ไม่ได้กินหญ้า รู้ไว้ด้วย” แต่นายสุเทพไม่ได้ตอบโต้กลับแต่อย่างใด

ถัดจากนั้นไม่นาน ระหว่างที่นายสุเทพและคณะเดินพบปะประชาชนอยู่ฝั่งตรงข้ามซอยเจริญกรุง 44 มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาชูป้ายภาพของนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถ่ายคู่กัน โดยเดินชูภาพไปมาในซอยดังกล่าวต่อหน้าขบวนของนายสุเทพ และกล่าวสั้นๆ ว่า “นี่แหละคือคนที่จะช่วยประชาชนอย่างแท้จริง”

นักข่าวไปถามนายสุเทพถึงกรณีที่ผ่านมาล่าสุดนี้ นายสุเทพก็ยังยืนยันว่าเป็นฝีมือของอำนาจเก่า ที่จ้องมาป่วน คนพวกนี้ตนเองจําได้

ล่าสุดวันที่ 31 ตุลาคม มีชายคนหนึ่งนำป้ายพร้อมข้อความว่า “LIAR LIAR” ที่แปลว่า คนโกหก ชูใส่ต่อหน้านายสุเทพ ระหว่างออกเดินคารวะแผ่นดินหาสมาชิกพรรคเป็นวันที่ 6 ย่านประตูน้ำ ซึ่งนายสุเทพได้ยกนิ้วโป้งให้พร้อมถามว่า เขาจ้างคุณมาเท่าไหร่? และชายชูป้ายตอบกลับไปว่า “เปล่าครับ ผมเป็นประชาชนคนไทย และมาขอให้ไม่เป็นไม้ค้ำยันเผด็จการ” ก่อนที่จะเดินแยกกันโดยไม่มีเหตุวุ่นวายอีก

กรณีที่ยกมาเหล่านี้คือกรณีที่เป็นข่าวเท่านั้น ยังมีในกระแสโซเชียลมีเดียที่ยังไม่ได้พูดถึง

แม้นายสุเทพและพรรคพวกจะหันหน้าเข้าสู่ระบบการเมืองปกติ

แต่การลงถนนในครั้งนี้ เป็นสภาวะที่นายสุเทพไม่ใช่แกนนำผู้ชุมนุม แต่เป็นเสมือนนักการเมืองมาหาเสียงกับประชาชน

เมื่อเท่าเทียมกันแล้ว การปะทะ พบปะกับความเห็นที่แตกต่าง จึงเป็นเรื่องปกติมาก

นี่ก็เป็นผลจากการที่นายสุเทพได้กระทำไว้ในอดีตนั่นเอง