อุรุดา โควินท์ / อาหารไม่เคยโดดเดี่ยว : แกงส้มกับสายฝน

วันไหนของในตู้เย็นหมด และไม่ได้ไปตลาด (ทำงานติดพัน ฝนหนักเกินไป) ฉันจะออกไปซื้อหมูมาวางไว้ในครัว ทั้งสันคอ และสามชั้น ให้เขาเลือกใช้

ถ้าเขาหยิบสันคอ เราจะได้กินหมูทอดน้ำปลากับน้ำพริก แต่ถ้าเขาหยิบสามชั้น แล้วเดินไปตัดหยวก ฉันจะได้กินแกงส้มหมูย่างใส่หยวก

ฉันชอบกินแกงส้มใต้ แกงซึ่งเมื่อเดินทางพ้นชุมพรขึ้นมา มันถูกเรียกว่า แกงเหลือง ฉันกินแกงส้มไม่เหมือนคนอื่น คือไม่ค่อยชอบกินเนื้อสัตว์ในแกง ชอบกินน้ำแกงกับปลาทอด และผักสด

เว้นเสียแต่แกงส้มหมูย่าง ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลก ฉันไม่ค่อยชอบสามชั้น ไม่ค่อยชอบหมูย่าง แต่ชอบแกงส้มหมูย่างใส่หยวก กินเยอะ กินล้างผลาญทั้งหยวก และสามชั้น ตักข้าวสองจานพูนเป็นอย่างต่ำ

ถ้ามีคนถาม ฉันเรียนรู้อะไรบ้าง จากการใช้ชีวิตที่พรหมคีรี ฉันคงต้องขอให้ผู้ตั้งคำถามค้างคืนที่บ้าน พร้อมกับมอบนิยายของฉันให้อ่านเพิ่มเติม (หากเขาต้องการ)

 

ในความยืดยาว หลากหลาย มีสองเรื่องที่ฉันนำมาใช้บ่อยที่สุด ทุกวี่วัน

หนึ่ง-ฉันได้รู้ว่า ชีวิตมีทางเลือก มีความหลากหลาย มีสิ่งให้เราทดลอง และหากเมื่อใดเดินไปถึงทางตัน ฉันจะถอยก้าวหนึ่ง หาเส้นทางใหม่

สอง-อาหารใต้

ข้อแรก ช่วยลดความกลัว ไม่มากก็น้อย เราใช้ชีวิตด้วยความกลัว กลัวจน กลัวตกงาน กลัวแฟนบอกเลิก ในยามเผชิญสถานการณ์คับขัน ฉันบอกตัวเอง-มันเกิดขึ้นเพื่อให้ฉันได้เลือก (อีกครั้ง)

อาหารใต้กลายเป็นอาหารประจำครัว เป็นอาหารที่ฉันทำให้เพื่อนกิน เป็นความสดชื่นยามหงอยเหงา เป็นความอบอุ่นยามเหน็บหนาว

วันที่รู้สึกคล้ายโลกหยุดหมุน ไม่มีอะไรน่าสนใจ ทุกอย่างนิ่ง เงียบงัน ฉันแนะนำให้คุณกระตุ้นร่างกายและจิตใจด้วยแกงส้มหมูย่างใส่หยวก

คงต้องเน้นด้วยว่า ถ้าคุณกินเผ็ดได้ อย่าประนีประนอม ไปให้สุดทางของความเป็นแกงส้มใต้เถิด

หลังแกงส้มคำแรกเข้าปาก โลกของคุณจะเปลี่ยน

 

เขาถือพร้าเดินไปเอาหยวก เหวี่ยงพร้าเพียงครั้ง กล้วยก็ล้มลง เหวี่ยงพร้าอีกครั้ง เลือกเฉพาะส่วนที่ต้องการ วางมันไว้ในครัว

เป็นฉัน ที่ลอกมันออก ให้เหลือแต่หยวกอ่อนสีขาว ตัดเป็นท่อนยาวราว 2 นิ้ว แล้วหั่นตามยาวให้เป็นแท่งเล็ก

เขาก่อไฟสองเตา เตาหนึ่งหุงข้าว อีกเตาย่างหมูสามชั้น และตำ (ทิ่ม) เครื่องแกง

ครั้งที่ฉันยังอยู่ในพรหมคีรี ฉันซื้อก็แต่หมู หยวกหาข้างบ้าน รวมทั้งผักสดที่กินกับแกง แต่ในจังหวัดเชียงราย ฉันซื้อหยวกจากตลาดจานละ 10 บาท ฉันใช้สันคอแทนสามชั้น โดยย่างทั้งชิ้นใหญ่ แล้วค่อยหั่นเป็นชิ้นพอคำ

วันนี้ฝนตก เหมาะกับแกงส้ม และแม้ไม่ได้อยู่ในป่าฝน บ้านก็ถูกห่มคลุมด้วยกิ่งก้านลิ้นจี่ ครัวใหม่ของฉันไม่ได้ใช้ไม้ฟืน ฉันจึงย่างหมูด้วยกระทะเทฟลอน-ได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกัน

หมูย่างรอไว้แล้ว หยวกก็พร้อม เหลือแต่หัวใจของแกง

นั่นก็คือเครื่องแกง

 

หยวกมีน้ำมาก แกงแล้วยุบ ส่งน้ำออกมาในหม้อ แต่ฉันชอบหยวก ซื้อมาเท่าไรใส่ทั้งหมด ซึ่งหมายความว่า ต้องเตรียมเครื่องแกงให้มาก-หากต้องการความเผ็ดถึงใจ

ใช้พริกขี้นกแห้งเป็นส่วนประกอบหลักของเครื่องแกง บางบ้านใช้พริกขี้หนูสด (สีแดง) ร่วมด้วย หรือบางบ้านก็ใช้พริกขี้หนูสดอย่างเดียว กระเทียมไทยนิดหน่อย ขมิ้นอย่างแน่ใจว่าสีน้ำแกงจะเหลืองสวย และเกลือทะเล

ตำทุกอย่างให้เนียน ละเอียด แล้วจึงเติมกะปิ

แกงหยวก ต้องใส่กะปิมากเป็นพิเศษ และต้องใช้กะปิดี กะปิสำคัญมาก ถ้าดำไป เค็มไป ทั้งกลิ่น รส และสีของแกงจะเปลี่ยน

ตั้งหม้อ ใส่น้ำน้อยไว้ก่อน รอน้ำจากหยวกมาสมทบ ใช้ไฟแรง น้ำเดือดก็ใส่เครื่องแกง คนให้ละลาย แล้วใส่หมูกับหยวก รอหมูสุก หยวกนิ่ม ค่อยเติมน้ำมะนาว และชิม

ถ้าเราตำเครื่องแกงไว้มากพอ ใส่กะปิมากพอ แกงหยวกก็ต้องการน้ำปลาอีกนิดหน่อย หรือหากวันไหนใส่เกลือในเครื่องแกงหนักมือ น้ำปลาก็ไม่จำเป็น

ตอนชิม ฉันจะต้องแน่ใจว่ามันเปรี้ยว เค็ม และเผ็ด แกงส้มใต้ไม่มีความหวาน บางบ้านอาจตัดน้ำตาลหน่อย แต่ฉันไม่ เพราะอยากได้รสที่ทิ่มแทง ฉันจึงไม่ผ่อนปรน

 

แกงส้มต้องการชู้เป็นของทอด จะเป็นปลาแดดเดียว หรือไข่เจียวก็ได้ และมีผักสดเป็นเพื่อนตาย

แกงส้มจะอร่อยขึ้นอีก หากบ่มค้างคืน แล้วอุ่นอีกรอบ สีไม่สวยเท่าเดิม น้ำแกงดูข้นขึ้น แต่รสชาติเข้าเนื้อเข้าหนัง เหมาะกับการกินแบบราดข้าวที่สุด

ขณะเตรียมผักกินกับแกงส้ม ฉันเห็นตัวเองเดินไปร้านชำในหมู่บ้านหุบเขา…

นั่นไง เจ้าของร้านนั่งกินข้าวหน้าบ้าน ต้องเป็นข้าวราดแกงอะไรสักอย่าง กับของทอด และมีสะตอหรือลูกเนียงวางข้างจาน

คอยดูนะ พอฉันไปถึง แกจะถาม-วันนี้แกงไหร

“แกงส้มหยวกค่ะพี่” ฉันหลุดปากพูด

ฮ้าย แกงคนจนนิ…

แล้วฉันก็ได้ยินเสียงเพื่อนชาวสวนแซว ขณะฉันกินแกงส้มหมูใส่หยวกอย่างเอร็ดอร่อย