หนุ่มเมืองจันท์ : เจาะวิธีคิด ทำไม “นาคี ๒” ถึงประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย ?

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

นาคี 2

นาทีนี้ต้อง “นาคี 2” ครับ

หนังไทยเรื่องนี้กำลังเป็น “ปรากฏการณ์”

คล้ายๆ กับ “พี่มาก…พระโขนง”

เพียงแค่ 2 วันแรก ทำรายได้ทั่วประเทศ 100 ล้านบาท

4 วันทะลุ 200 ล้านบาท

แรงแบบนี้คาดการณ์กันว่ารายได้คงทะลุ 400 ล้านค่อนข้างแน่

500 ล้านอาจเป็นไปได้

แต่จะถึง 1,000 ล้านเทียบเท่า “พี่มาก” คงยาก

บอกตามตรงว่าผมไม่เคยรับรู้ถึงกระแสของหนังเรื่อง “นาคี 2” เลย

ในเครือข่ายเฟซบุ๊กของผม ไม่มีการพูดถึงหนังเรื่องนี้

จนถึงวันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันฉายวันแรก “กร” ชลากรณ์ ปัญญาโฉม ของเวิร์คพอยท์ ที่ตอนนี้กำลังสนใจธุรกิจหนังบอกว่า “นาคี 2” แรงมาก

แค่บ่าย 2 รายได้สูงถึง 11 ล้านบาท

คาดว่าทั้งวันคงจะได้ถึง 50 ล้านบาท

ฟังแล้วตกใจเพราะหนังทั่วไปทำรายได้ 11 ล้านในวันหยุดก็ถือว่าดีมากแล้ว

แต่นี่แค่ครึ่งวันของวันธรรมดาก็ได้ 11 ล้าน

แล้ววันหยุดเสาร์-อาทิตย์จะขนาดไหน

พอตอนกลางคืน เฟซบุ๊กของ “มิ้นท์” พิมศิริ ทองร่มโพธิ์ พิธีกรคู่ของผมในรายการ “ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ” ก็ลงภาพคนต่อแถวซื้อตั๋วหนัง “นาคี 2”

“มิ้นท์” เป็นผู้บริหารอยู่ค่ายเอสเอฟฯ ครับ

จากนั้นข่าวเรื่อง “นาคี 2” ก็เริ่มออกมาอย่างต่อเนื่อง

กระแสแรงจนผมต้องเข้าไปตามข่าวอย่างละเอียด

อยากรู้ว่าทำไมถึงเกิดปรากฏการณ์ “นาคี 2”

“นาคี 2” เป็นหนังภาคต่อจาก “นาคี” ละครโทรทัศน์สุดฮิตของช่อง 3 เมื่อปี 2559

ตอนที่แพร่ภาพทางโทรทัศน์ กระแส “นาคี” แรงมาก

ไม่เพียงแต่เรตติ้งกระฉูด

“ป่าคำชะโนด” ที่อุดรธานี ที่เชื่อกันว่าเกี่ยวพันกับพญานาค และเป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่องนี้ก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม

ประมาณละคร “บุพเพสันนิวาส” ที่ทำให้คนแห่ไปเที่ยวอยุธยาและลพบุรี

ความน่าสนใจของเรื่องนี้ก็คือ แทนที่ช่อง 3 จะทำ “นาคี 2” เป็นละครโทรทัศน์

เขากลับเลือกทำเป็นหนัง

ร่วมทุนกับ “เอ็มพิคเจอร์” ในเครือเมเจอร์

ไม่ฉายในจอทีวี แต่ฉายในโรงภาพยนตร์

ถือเป็น “โมเดลธุรกิจ” ที่แปลกมาก

ช่วงก่อนหนังจะลงโรง ช่อง 3 โหมประโคมหนักมาก

ลองนึกถึงคอละครช่อง 3 ที่เคยดู “นาคี” ภาคแรกมาแล้วสิครับ

เขาผูกพันกับตัวละครในเรื่อง

พอบอกว่า “นาคี” มีภาค 2

คนที่เคยดูมาแล้วก็อยากรู้ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร

ไม่ดูก็คาใจ

ฐานลูกค้าของ “นาคี 2” จึงแตกต่างจากหนังทั่วไป

ไม่ใช่ “คนดูหนัง” ทั่วไปกลุ่มเดียว

แต่เป็น “คนดูละคร” ทางโทรทัศน์ซึ่งเป็น “กลุ่มใหม่”

ไม่แปลกที่หลายโรงบอกว่าคนดูบางคนมาซื้อตั๋วหนัง แต่ยังไม่รู้ว่าโรงหนังอยู่ชั้นไหน

ในเฟซบุ๊กของผม มีน้องๆ หลายคนต้องทำตัวเป็น “ลูกกตัญญู” พาแม่ไปดู “นาคี 2”

ทั้งที่แม่ไม่เคยดูหนังมาหลายปีแล้ว

ปรากฏการณ์ “นาคี 2” จึงเป็นปรากฏการณ์ของคนดูละครไปดูหนัง

เป็นกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มีความตั้งใจสูงมาก

นอกจากนั้น เขายังใช้กลยุทธ์ที่ไม่เคยมีหนังเรื่องไหนใช้มาก่อน

นั่นคือ การใช้กลยุทธ์ “ความเชื่อ” ซึ่งตรงกับเนื้อหาของหนัง

เขาทำเครื่องรางของขลังแจกคนที่จองตั๋วล่วงหน้าครับ

เป็นเหรียญ “ปกปักรักษา” ที่ผ่านการปลุกเสก

ผ่านพิธีสมโภชนาคา-ครุฑาภิเษก

ใครจองบัตรล่วงหน้า ไปรับเหรียญที่โรงหนัง

นั่นคือ เหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนจองตั๋วล่วงหน้าสูงมาก

ทำให้แค่ครึ่งวันแรกของวันพฤหัสฯ ยอดรายได้จึงสูงถึง 11 ล้านบาท

ในต่างจังหวัดโดยเฉพาะภาคอีสาน

คนแน่นโรง

ประเด็นที่น่าสนใจของปรากฏการณ์ “นาคี 2” มี 2 เรื่อง

เรื่องแรก “โทรทัศน์” ยังมีพลัง

โดยเฉพาะในกลุ่มชาวบ้านในต่างจังหวัดและคนมีอายุ

คนกลุ่มนี้มีความภักดีในตัวสินค้ามาก

ไม่เหมือน “คนกรุง” ที่เสียงดังแต่พร้อมเปลี่ยนใจหรือลองของใหม่ตลอด

ลองดูยอดคนดูยูทูบเพลงลูกทุ่งกับเพลงฮิตของคนกรุงสิครับ

เพลงลูกทุ่งระดับ 100 ล้านวิวเพียบเลยครับ

เพราะคนต่างจังหวัดจะกดฟังซ้ำแล้วซ้ำอีก

ทั้งที่บางเพลงคนกรุงไม่รู้จักแม้แต่ชื่อเพลง

ไม่แปลกถ้าสินค้าตัวไหนโดนใจชาวบ้านหรือคนต่างจังหวัดเมื่อไร

เราจะเห็นพลังที่คาดไม่ถึงทุกครั้งไป

หนังหลายเรื่องไม่ทำเงินใน กทม. หรือโดนนักวิจารณ์ถล่มเละ

แต่ในต่างจังหวัดกลับทำเงินมโหฬาร

ไม่ว่าจะเป็น “หลวงพี่แจ๊ส-ส่มภัคเสี้ยน” ทำรายได้เป็นหลัก 100 ล้าน

เรื่องที่สอง กลยุทธ์การทำ “หนัง” ต่อจาก “ละคร” น่าสนใจมาก

สร้างฐานมวลชนจากละครที่ดูฟรี

ทำให้คนดูคุ้นเคยและผูกพันกับ “ตัวละคร”

แล้วมาเก็บกินในโรงหนัง

ความสำเร็จจาก “นาคี 2” น่าจะทำให้เกิด “โมเดลธุรกิจ” ใหม่

ซึ่งไม่ใช่แต่ช่อง 3 ที่ทำได้

ช่อง 7 ก็ทำได้เช่นกัน

ลองนึกเล่นๆ สิครับว่าเรื่องไหนน่าจะทำเป็นหนังบ้าง

“บุพเพสันนิวาส” อาจไม่เหมาะนัก

แต่ถ้าละครที่ MASS มากๆ อย่าง “คมแฝก” หรือ “อังกอร์”

หนังบู๊แบบนี้หายไปจากตลาดหนังไทยนานแล้ว

คนต่างจังหวัดก็อาจจะดู

บางทีเราจะได้เห็นฉากปิ้งไก่ในตำนานแบบเต็มจอเสียที

ถ้า “นาคี 2” แจก “เหรียญ”

“อังกอร์” ก็แจก “ไก่ย่าง”

ควันโขมงทุกโรงภาพยนตร์