มาดามหลูหลี / Let”s Eat : กินให้อร่อยนะ

มาดามหลูหลี[email protected]

ว่ากันว่าการกินอาหารอร่อยๆ เป็นการระบายความเครียดอย่างหนึ่ง และสำหรับคนที่ไม่เครียด ได้กินอาหารอร่อยก็เป็นวิธีหาความสุขแบบง่ายๆ

จะกินอาหารให้อร่อย ต้องมีเพื่อนกิน กินกันหลายๆ คนได้สั่งหลายๆ อย่าง แต่สมัยนี้เพื่อนกินหายากจริง ร้านอาหารหลายแห่งยังต้องจัดที่นั่งเป็นแบบที่นั่งคนเดียว เช่น ด้านหน้าของเชฟที่เป็นครัวเปิดทำอาหาร หรือจัดโต๊ะสำหรับหนึ่งคน

Let”s Eat ละครเกาหลีที่เล่าเรื่องชีวิตชาวกรุงโซล ซึ่งส่วนใหญ่มักต้องเช่าห้องพักอยู่คนเดียว ใช้ชีวิตตัวคนเดียว กินข้าวหรือกินบะหมี่คนเดียวอยู่ในห้องแคบๆ อย่างเหงาหงอย

อีซูคยอง (อีซูคยอง) หญิงสาววัย 33 ปี ที่เคยผ่านชีวิตแต่งงานและหย่า ต้องอยู่คนเดียวจึงมักต้องกินอาหารคนเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่ชอบเลย อีซูคยองทำงานเป็นผู้จัดการสำนักงานทนายความของคิมฮักมูน (ชิมฮยอนทัค) เพื่อนสมัยเรียนที่แอบชอบเธอตั้งแต่วัยรุ่น

เพราะชีวิตคู่ไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง การหย่าและอยู่คนเดียวน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า เมื่อมาทำงานสำนักงานทนายความ ยิ่งทำให้อีซูคยองเป็นคนระมัดระวังตัว ไม่เชื่อใจใครง่ายๆ

อีซูคยองเป็นนักกินนักชิม ที่แสวงหาร้านอาหารอร่อยๆ กิน แต่เพราะต้องกินคนเดียว บางครั้งจึงไม่อาจกินอาหารที่อยากกินได้

ร้านอาหารเกาหลี แต่ละร้านจะมีเมนูเด่นเพียงอย่างเดียว มาเป็นชุดใหญ่ เช่น ร้านซี่โครงหมู, ร้านเป็ด ซึ่งพร้อมเครื่องเคียงมากมายที่เติมได้ไม่อั้น ต้องไปกินกันหลายๆ คน

 

เมื่ออีซูคยองได้มีเพื่อนบ้านใหม่อย่างยูนจินยี (ยูนโซฮี จาก Master of the Mark) เป็นสาวน้อยที่ร่าเริงสดใส แม้พ่อแม่จะถูกฟ้องล้มละลาย แต่เธอกลับดีใจที่ได้ออกมาอยู่คนเดียว และกูแดยอง (ยูนดูจุน) เพื่อนข้างห้องอีกคน ที่เป็นนักกินตัวยง

สามคนสามบุคลิกแต่ชอบกินเหมือนกัน รวมตัวกันเป็นชมรมคนชอบกิน มีไลน์กลุ่มเพื่อสื่อสารนัดหมาย แม้ว่าอีซูคยองจะไม่ค่อยไว้วางใจกูแดยองนัก เพราะเขาทำตัวแปลกๆ แต่การมีเพื่อนกินก็นับว่าดี

กูแดยองเป็นนักขายประกันมือหนึ่ง ที่มีเวลาเป็นอิสระ หากในห้องพักแทบไม่มีเฟอร์นิเจอร์ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ เพราะเขาคิดว่าอาจต้องย้ายบ้าน จึงไม่ซื้ออะไรให้รกรุงรัง ที่นอนเป็นเพียงผ้าปูนอน ตู้เสื้อผ้าไม่ต้องใช้ เขาใช้วิธีเก็บเสื้อผ้าไว้ที่ร้านซักรีด จึงไม่ต้องมีเครื่องซักผ้าหรือที่รีดผ้า ห้องพักเป็นแค่ที่หลับนอน ไม่ต้องใช้รับแขก

อาจเป็นวิถีของคนรุ่นใหม่ มีบ้านแค่ที่ซุกหัวนอน ไม่ต้องตกแต่ง เพราะทุกวันนี้มักพบปะหรือทำงานกันตามร้านกาแฟในห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับครบครัน

 

เมื่อทั้งสามคนนัดกินกัน ร้านที่เลือกต้องอร่อย และมีวิธีการกินที่ถูกต้อง ยิ่งทำให้อาหารอร่อย เช่น ถ้ากินชาบู คนทั่วไปมักใส่เนื้อสัตว์ลงไปก่อนเพื่อให้สุก และตามด้วยผักต่างๆ แต่กูแดยองบอกว่านั่นเป็นวิธีที่ผิด ที่ถูกคือต้องใส่ผักลงไปก่อนเพื่อความสดของผักช่วยทำให้น้ำซุปมีรสหวาน จากนั้นจุ่มเนื้อให้พอสุกเพื่อได้รสชาติสดหวานของเนื้อ

ท่าทางการกินของอีซูคยองและกูแดยอง ชวนให้น้ำลายไหลมากๆ กินกันหนุบหนับๆ อย่างเอร็ดอร่อย และที่สุดของชาบูคือ ใส่ข้าวสวยกับไข่ไก่ลงในน้ำซุปที่รสหวานหอม ปิดท้ายความอร่อย

อาหารเกาหลีที่คิดว่าหน้าตาคล้ายๆ กัน ที่จริงแล้วมีความแตกต่าง หากทุกๆ เมนูต้องกินกับเครื่องเคียงซึ่งเป็นผักต่างๆ โดยเฉพาะผักกาดดองหรือ “กิมจิ” อาหารประจำชาติของเกาหลี

กูแดยองเป็นนักกินจริงๆ เช่น ต๊กบ๊กกี ซึ่งเป็นแป้งข้าวเหนียวเส้นใหญ่ตัดสั้นประมาณ 2 นิ้ว ผัดกับซอสเผ็ดโกชูจัง มีการปิดท้ายด้วยบะหมี่ไข่มาคลุกเคล้ากับส่วนที่เหลืออย่างน่าเอร็ดอร่อย

เขาพูดถึงพิซซ่าว่า เป็นอาหารแห่งฤดูทั้งสี่ที่ใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล และท่าทางกินบะหมี่ถั่วแดงรสหวานเส้นเหนียวหนึบได้น่ากิน ซึ่งดูเป็นเหมือนขนมหวาน แต่กลับกินเป็นอาหารคาวมื้อหลักได้

 

Let”s Eat ซีรี่ส์เกาหลีที่เล่าเรื่องการกินอาหารได้อย่างน่ากิน ดูแล้วหิวเพราะต่อมน้ำย่อยคงทำงานหนัก

ดูน่าจะเป็นละครคอเมดี้ สนุกขำๆ กลับมีเรื่องฆาตกรรมมาเกี่ยวข้องให้น่ากลัว และเพราะอีซูคยองทำงานสำนักงานกฎหมาย และอยู่ตัวคนเดียว เธอจึงทำตัวเหมือนเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องกฎหมาย อ้างตัวบทกฎหมายเพื่อเอาเรื่องกับคนผิดได้

Let”s Eat โดยผู้กำกับฯ ปาร์กจุนฮวา สร้างจากนิยายญี่ปุ่นเรื่อง Shiksyareul Habshida

มีนักเขียนบททำงานร่วมกันคืออิมซูมิ, คิมฮโยชิน และอียีริม ทั้งหมดมี 3 ภาค ภาคแรกปี 2013, ภาค 2 ปี 2015 และภาค 3 ปี 2018 โดยยูนดูจุนเป็นพระเอกคนเดียวทั้งสามภาค หน้าตาหล่อใสไม่เปลี่ยน กับบทบาทการแสดงที่โดดเด่น

เชิญชมเชิญชิมให้เพลิดเพลิน เหมาะกับสังคมยุคโซเชียล ที่เวลากินอาหารต้องถ่ายรูปอัพเดตสเตตัส เพื่อบอกให้โลกรู้!!!