ช่วงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

กำลังให้วิญญาณ “ตู่ดิจิตอล” เข้าสิงร่างอย่างเต็มร้อย

จะได้เป็น “มนุษย์ยุคไซเบอร์” โดยสมบูรณ์แบบ

ทั้งการเรียนรู้ที่จะเอาเนื้อหาขึ้นโซเชียลมีเดียด้วยตนเองให้คล่องแคล่ว

อย่างก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม

ตู่ดิจิตอลหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกภาพนักข่าว

พร้อมบอกว่า “ยิ้มสวยๆ นะ เดี๋ยวลงให้”

โชว์อารมณ์ดี ซึ่งก็เป็นอีกคุณสมบัติของตู่ดิจิตอล

ที่จะต้องไม่เป็น “ลุงฉุน” ตามนิสัย

ต้องเปิดใจกว้างกับความเห็นทั้งที่ชอบ-ไม่ชอบ ที่ทะลักเข้ามาในเพจของตนเองอย่างชิล-ชิล

เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็น “บุ๋น” (อย่างน้อยก็ตอนนี้)

ก็ต้องมีคนมา “บู๊” แทน

โดยเฉพาะบู๊กับฝ่ายตรงข้ามตลอดกาลอย่างนายทักษิณ ชินวัตร

ซึ่งกวนอกกวนใจอยู่หลายเรื่อง

ไม่ว่า ใช้ช่องว่างรัฐธรรมนูญ แตกพรรคเป็นพรรคสาขา พรรคสำรอง พรรคแนวร่วม อย่างสนุกสนาน

แถมยังเบ่งข้ามชาติอีกด้วยว่า เครือข่ายเหล่านี้จะทำให้พรรคเพื่อไทยกวาดเสียงได้ถึง 300 เสียง

น่าหมั่นไส้

พี่ใหญ่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงกระโดดออกมาเล่นบทบู๊แทนน้องตู่เสียหน่อย

บทบู๊ที่เล่น ก็เช่น

จี้ไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาว่าพฤติกรรมคนแดนไกล

เข้าข่ายครอบงำพรรคหรือไม่

พร้อมกระทุ้งให้สื่อนำเสนอว่า สิ่งที่นายทักษิณทำ มันกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงอย่างไร

“ช่วยเขียนทีนะ”

“สื่อกระทุ้งสิ เพราะพูดอย่างนี้มันเกี่ยวข้องทุกพรรค พรรคเขาด้วย และพรรคเราด้วย”

คำพูดสะดุดหูสื่อโครมใหญ่

จนต้องถามสวนกลับไปทันควัน

“…พรรคเรา” ที่ท่านระบุคือพรรคใด

พล.อ.ประวิตรเหมือนจะรู้สึกตัว รีบกล่าวแก้โดยไวว่า

“พรรคเราก็คือพรรครัฐบาล”

ไปกันแบบน้ำตื้นๆ อย่างนั้นแหละ

ไม่รู้ว่า ตอนที่พูดถึง “พรรคเรา” พี่ใหญ่คิดไปถึงพรรคไหน

พรรคพลังประชารัฐหรือเปล่าไม่ทราบ

แต่ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหน

การเหมาว่าเป็นพรรค “ของเรา” นั้นมันสุ่มเสี่ยงยิ่ง

เพราะขณะไปไล่เบี้ยให้ กกต.และสื่อไปจัดการกับนายทักษิณ ว่าครอบงำพรรคเพื่อไทยอยู่แหม็บ-แหม็บ

แต่กลับมาพูดถึงพรรค “เรา” เสียเอง

ไม่รู้ว่า พล.อ.ประวิตรไปเป็นสมาชิกพรรคนั้นเมื่อไหร่ และไปเกี่ยวข้องอะไรกับเขา

ถึงเหมาว่าเป็นพรรคของเรา

แบบนี้อาจจะถูกย้อนเกล็ดว่า เข้าไปครอบงำพรรคที่ตนเองไม่ได้เกี่ยวข้องหรือเปล่า

หรือแอบเข้าไปบริหารจัดการกับมือ เลยเผลอหลุดปาก

พรรคเราออกมา!