ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 12 - 18 ตุลาคม 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | วิถีแห่งอำนาจ |
ผู้เขียน | เสถียร จันทิมาธร |
เผยแพร่ |
วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย / เสถียร จันทิมาธร
3 ความหวัง ก๊วยเซียง (160)
ความสัมพันธ์ระหว่างก๊วยเซียงกับเอี้ยก่วยดำเนินไปด้วยความพิสุทธิ์ จริงใจอย่างยิ่ง งดงามอย่างยิ่ง หากมองย้อนไปในแต่ละก้าวย่าง
โดยเฉพาะเมื่อก่อนจะอำลาจาก
เอี้ยก่วยพึมพำว่า “วันที่ 24 เดือน 10 วันที่ 24 เดือน 10 ช่างรวดเร็วนัก เกือบ 16 ปีแล้ว” เอ่ยถึงตอนนี้พลันรู้สึกตัว
อุทานออกมาดัง “อา”
“ท่านคิดไปแล้ว อืมม์ เมื่อถึงวันที่ 24 เดือน 10 ของปีนี้ ท่านจะจุดธูปบนบานศาลกล่าว อธิษฐานตั้งความหวังต่อฟ้า 3 ประการ”
นั่นเป็นข้อตกลงระหว่างคนทั้ง 2
“ตั่วกอกอ หากภายภาคหน้าข้าพเจ้าคิดขอร้องท่าน 3 ประการ ท่านยินยอมรับปากหรือไม่” คำจากเอี้ยก่วยคือ “ขอเพียงกระทำได้ ยินดีปฏิบัติตามคำสั่ง” พลางล้วงกล่องใบเล็กๆ จากอกเสื้อ เปิดฝากล่อง คีบเข็มทองซึ่งเซียวเล้งนึ่งใช้เป็นอาวุธลับออกมา 3 เล่มยื่นส่งให้
“ข้าพเจ้าพอพบเห็นเข็มทองนี้เท่ากับพบหน้าท่าน หากท่านไม่สามารถมาพบกับข้าพเจ้าด้วยตัวเองก็ไหว้วานคนถือเข็มทองถ่ายทอดคำสั่ง ข้าพเจ้าจะกระทำให้แก่ท่าน”
ก๊วยเซียงยื่นมือรับเข็มทอง
บัดดลนั้นก็กล่าวขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย “ข้าพเจ้าขอบอกความหวังประการแรกก่อน” พูดจบก็คืนเข็มทองเล่มแรกให้เอี้ยก่วย
“ข้าพเจ้าต้องการให้ท่านปลดหน้ากากลงมา ชมดูโฉมหน้าแท้จริงของท่าน”
เอี้ยก่วยแม้จะรู้สึกว่าเป็นเรื่องง่ายดาย แต่ภายในใจครุ่นคิด “เราเมื่อออกปากก็ไม่สามารถคืนคำ ท่านถือเข็มทองนี้ต่อให้สั่งเรากระทำเรื่องยากลำบากเทียมฟ้าเราก็ถือเป็นภาระที่ปฏิเสธไม่ได้ ไฉนบอกให้เรากระทำเรื่องเล็กน้อยที่ไม่มีความสำคัญเช่นนี้”
ความสงสัยนี้พลันกระจ่างเมื่อก๊วยเซียงกล่าว
“หากกระทั่งโฉมหน้าแท้จริงของท่านยังไม่ได้พบเห็น ไหนเลยถือว่ารู้จักท่าน นี่หาใช่เรื่องเล็กน้อยไม่”
เอี้ยก่วยตอบ “ตกลง” ยกมือซ้ายปลดหน้ากากออก
ตามสำนวนแปล น.นพรัตน์ ถือว่ากิมย้งบรรยายค่อนข้างแปลก ที่เบื้องหน้าสายตาของก๊วยเซียงปรากฏเป็นเค้าใบหน้าอันซูบ สดใส คมคาย คิ้วเรียวจรดจอน ดวงตาเป็นประกาย สีหน้าขาวซีด ลักษณะอิดโรย
เอี้ยก่วยเห็นนางเหม่อมองอย่างตะลึงลาน สีหน้าผิดปกติธรรมดาอยู่บ้างจึงถาม “เป็นไรหรือ”
ก๊วยเซียงหน้าแดงวูบหนึ่ง กล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ไม่มีอันใด” แต่ภายในใจกลับครุ่นคิด “คิดไม่ถึงท่านหล่อเหลาถึงเพียงนี้”
นี่ย่อมเป็นความขัดแย้ง
ความขัดแย้งสัมผัสได้ตั้งแต่การบรรยายของกิมย้งบ่งบอกให้รับรู้ว่าใบหน้าที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังหน้ากากนั้นเป็นใบหน้า 1 ซูบ แต่ก็ 1 สดใส คมคาย
1 ดวงตาเป็นประกาย เพียงแต่ 1 สีหน้าขาวซีด อิดโรย
ขณะเดียวกัน บทสรุปของก๊วยเซียงที่กึกก้องอยู่ภายในใจที่ว่า “คิดไม่ถึงท่านหล่อเหลาถึงเพียงนี้” ย่อมมิได้เห็นแต่เพียงใบหน้า ดวงตา
หากแต่มองอย่างเห็นลักษณะอันเป็น “องค์รวม”
ยิ่งกว่านั้น คำถามของเอี้ยก่วยกับคำตอบของก๊วยเซียงก็มิได้ดำเนินไปตามสภาพความเป็นจริงในทางความคิด
คำว่า “ไม่มีอันใด” เสมอเป็นเพียงการกลบเกลื่อน
เพราะในคำถามของเอี้ยก่วยบังเกิดจากความสงสัยในอากัปกิริยาที่ก๊วยเซียงเหม่อมองมันอย่างตะลึงลาน สีหน้าผิดปกติธรรมดา
เพราะในคำตอบของก๊วยเซียงที่ว่า “ไม่มีอันใด” ใช่ว่าไม่มี
ตรงกันข้าม เอี้ยก่วยก็คาดหวังอย่างหนึ่ง ก๊วยเซียงก็มีบทสรุปอย่างหนึ่ง เพียงแต่มิได้สำแดงออกตรงๆ เท่านั้น
กระนั้น ความสำคัญของเรื่องราวอยู่ที่เข็มเล่มที่ 2 “ความหวังประการ 2 ของข้าพเจ้าคือ วันที่ 24 เดือน 10 ของปีนี้ซึ่งเป็นวันเกิดข้าพเจ้า
ขอให้ท่านมาเสียนหยาง พบกับข้าพเจ้า สนทนากับข้าพเจ้าสักครู่หนึ่ง”
เอี้ยก่วยไม่ปฏิเสธความหวังนี้ เพียงแต่มีเงื่อนไข “ข้าพเจ้ารับปากแล้ว นี่มิใช่เรื่องใหญ่โตอันใด เพียงแต่ข้าพเจ้าพบกับท่านคนเดียว ไม่พบกับบิดา มารดา และเจ้เจ๊ท่าน”
นี่คือความนัยอันดำรงอยู่ภายในของเอี้ยก่วย
แม้ก๊วยเซียงจะยื่นเข็มทองเล่มที่ 3 แต่ก็ถูกทักท้วงจากเอี้ยก่วย เราท่านจึงยังไม่รู้ว่าความหวังประการที่ 3 ของก๊วยเซียงคืออะไร