สตรีในวัยเดียวกับบุรุษมักจะหง่อมหรือหย่อนยานเร็วกว่าอีกฝ่ายทั้งๆ ที่สตรีจะมีอายุยืนกว่าบุรุษก็ตาม

จนมีวลีอันมิบังควรว่า “ผู้หญิงแก่ง่ายตายช้า”

ซึ่งถ้าว่ากันตามหลักการแพทย์แผนไทยก็พอตอบได้ว่า การที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะสตรีมี “ต่อมโลหิตระดู” หรือ “มดลูก” อันเป็นที่ตั้งของ “โลหิตประจำเดือน”

ลองคิดดูซิ ถ้าบุรุษเพศในวัยเจริญพันธุ์ต้องเสียโลหิตเป็นประจำทุกเดือน ร่างกายก็คงจะเสื่อมโทรมเร็วเหมือนสตรีนั่นแหละ

แต่สำหรับสตรีในวัยเจริญพันธุ์ ถ้าเลือดไม่มาตามนัด หรือมากะปริบกะปรอย ก็ทำให้ร่างกายผอมแห้งแรงน้อยได้เช่นกัน

ส่วนสตรีวัยทองซึ่งอยู่ในภาวะที่เลือดกำลังจะเหือดแห้งไปและลมกำลังมาแรง ทำให้เกิดกลุ่มอาการโรคลมกำเริบ เช่น วิงเวียนศีรษะ หน้ามืดตาลายคล้ายจะเป็นลมบ่อยๆ วูบวาบหนาวๆ ร้อนๆ จิตใจระส่ำระสายหงุดหงิดง่าย

ที่สำคัญคือผิวพรรณซีดหมองคล้ำและเหี่ยวแห้ง

 

หมอไทยในสมัยโบราณท่านเอาใจใส่ในสุขภาพของสตรีผู้เป็นแม่ศรีเรือนเป็นอย่างดี จึงสร้างภูมิปัญญาดูแลสุขภาพสตรีตกทอดสืบต่อกันมาเป็นบทคำกลอน

ซึ่งหมอไทยรุ่นหลังรู้จักกันดีคือ “ตำนานลูกแปลกแม่” ของ หลวงรัตนพิมพานุรักษ์ ซึ่งบอกส่วนประกอบของตำรับยา “ลูกแปลกแม่” วิธีปรุงยาและสรรพคุณยาโดยพิสดาร

เรียกว่าพออ่านคำกลอนแล้วสามารถหาซื้อยามาปรุงรับประทานได้เลย พอขึ้นคำกลอน 2 บทแรกก็เข้าเรื่องกล่าวถึงส่วนประกอบยาและวิธีปรุงยาเลยทันที

“จักได้เริ่มเรื่อง เรียบเรียงพรรณนา ของเก่าเล่ามา เร่อร่าน่าชัง ยาลูกแปลกแม่ เจ้ากรมครุธแก่ เล่าเรื่องให้ฟัง ว่าชายหนึ่งได้มะตูมนิ่มขลัง สมหวังดังใจ ผลหนึ่งทำยา กล้วยน้ำไทเพิ่มหวีหนึ่งเทียวนา พริกไทยเท่ายา ว่าเต็มทะนาน นึ่งขึ้นด้วยกัน มะตูมเชือดหั่น กล้วยน้ำปอกฝาน พริกไทยในห่อ เอาคลุกคุลีการ ย่อยให้แหลกนาน ทำแผ่นตากเรียง แห้งแล้วลงครก ป่นแหลกสิ้นเสียง ยกโถตั้งเคียง น้ำผึ้งคลุกเท เสร็จแล้วเก็บไว้”

สรุปจากคำกลอนข้างต้นคือ “ยาลูกแปลกแม่” ประกอบด้วยสมุนไพรหลัก 3 ตัว ได้แก่ มะตูมนิ่มใช้ 1 ลูก กล้วยน้ำไท 1 หวี และพริกไทย 1 ลิตร (1 ทะนาน = 1 ลิตร)

 

กล้วยน้ำไท เป็นกล้วยที่คนโบราณถือว่าเป็นผลไม้ศักดิ์สิทธ์หรือ “กล้วยพิธี” ที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมและงานมงคลต่างๆ เช่น การบวงสรวงไหว้ครู ทำขวัญ เป็นต้น

กล้วยน้ำไทที่ใช้ทำยาเป็นกล้วยสุก มีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ

วิธีเก็บกล้วยน้ำไทสุกไว้กินนานๆ คือ เอาผลกล้วยแช่น้ำผึ้งดองในโหลแก้วที่ปิดสนิททิ้งไว้ 7 วัน จึงนำมารับประทานบำรุงร่างกายให้แข็งแรงอายุยืนยาว

กล้วยน้ำไทอุดมด้วยธาตุอาหารและพลังงาน

กล่าวคือ กล้วยน้ำไทสุกหนัก 100 กรัม มีพลังงาน 124 กิโลแคลอรี

คาร์โบไฮเดรต 29% โปรตีน 1.5% ไขมัน 0.2% และน้ำ 68.6% สารอนินทรีย์ 0.7%

และคนสมัยก่อนเขาใช้ด้านในของเปลือกกล้วยน้ำไทเช็ดลิ้นเด็กแก้หละละอองลิ้นขาว แต่เดี๋ยวนี้กล้วยน้ำไทหายากจะใช้กล้วยน้ำว้าแทนก็ได้

มะตูมนิ่ม ที่จริงก็เป็นพันธุ์เดียวกับมะตูมทั่วไป อาจจะมีผลกลมหรือผลรูปไข่ก็ได้แต่ผิวลูกจะนิ่มกว่า นำไปตากแห้งแล้วก็ยังนิ่ม

สรรพคุณมะตูมนิ่มเหมือนมะตูมธรรมดา ในที่นี้ใช้มะตูมสุกซึ่งมีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงหัวใจ บำรุงตับ เพิ่มระดับอินซูลิน ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด ลดไขมันในเลือด ป้องกันโรคความจำเสื่อม

เป็นยาระบาย ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใส

พริกไทย ปกติใช้พริกไทยดำ รสร้อนแรงของพริกไทยช่วยขับลมร้ายทั้งปวงออกจากร่างกาย เมื่อลมร้ายออกไป เลือดในกายสตรีก็จะบริบูรณ์ขึ้นด้วยกล้วยน้ำไทและมะตูม

ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลขึ้น

 

สรรพคุณของยาลูกแปลกแม่ก็บอกอยู่ในชื่อยาแล้วว่ายานี้ช่วยให้คุณแม่สาวสวยมีราศีขึ้นจนลูกแปลกตาจำคุณแม่ไม่ได้นึกว่าเป็นรุ่นเดียวกัน (ฮา) เพราะในตำนานยาลูกแปลกแม่ก็บันทึกถึงสรรพคุณไว้ตอนหนึ่งว่า “โรคภัยหายสิ้น กายินเฟื่องฟู คนอื่นแลดู เคลิ้มแปลกตาไป… กิน (ยา) ไปจนหมด กายสดเปล่งศรี ก่อนซูบกลับพี”

ที่ฮือฮากว่านั้นคือในตำนานยาลูกแปลกแม่ไม่เพียงบอกสรรพคุณว่าทำให้ “บุตรแปลกมารดา” เท่านั้น แต่ทำให้ “มารดาแปลกบุตร” ด้วย

ตีความให้ชัดก็คือยานี้นอกจากทำให้ลูกจำแม่ไม่ได้เพราะแม่สาวสวยขึ้น แต่ทำให้แม่จำลูกไม่ได้เพราะลูกแก่เร็วกว่าแม่ (ฮา)

และที่สำคัญ คือถ้ากินยาลูกแปลกแม่เป็นประจำจะช่วยให้มีอายุยืนยาวอย่างมีสุขภาพดี ซึ่งในตำนานก็กล่าวไว้ตอนท้ายว่า

“ครั้นกาลล่วงมา บุตรนั้นชรา สิ้นชีพดับสูญ มารดาอยู่มากกว่าบุตรเจ็ดคูณ”

เรื่องอายุยืนหรือไม่นั้นผู้หญิงไทยไม่ค่อยห่วง เพราะอายุยืนกว่าผู้ชายอยู่แล้ว ที่ห่วงก็คือกลัวแก่แล้วไม่สวยทำอย่างไรจะทำให้ “แก่ช้าตายช้า” ซึ่งภูมิปัญญาไทยดูแลสุขภาพสุภาพสตรีมีคำตอบให้ และยาแผนโบราณตำรับ “ลูกแปลกแม่” ก็เป็นคำตอบหนึ่ง

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อสอบถามและปรึกษาได้ที่มูลนิธิสุขภาพไทย โทร.0-2589-4243 , 0-2814-4013 หรือ 08-1300-3300