แม้จะไม่มีความเคลื่อนไหวหวือหวาในทางการเมืองเหมือนกลุ่มสามมิตร หรือพรรคพลังประชารัฐ ที่เดินสายดูดและเปิดตัวบุคคลที่ดูดมาจากพรรคอื่นอย่างต่อเนื่อง

แต่พรรคภูมิใจไทยเปิดตัวพรรคในการประชุมใหญ่ทีเดียวเล่นเอาหลายพรรคสะเทือน

เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีกระแสการเดินของพรรคภูมิใจไทยเลย

ไม่เพียงแต่ดูด ส.ส.เกรดเอ ระดับอดีตรัฐมนตรีมาได้แล้ว ยังใจถึง ที่ให้ตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคพ่วงมาด้วย

อย่างนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร อดีต ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคชาติไทยพัฒนา เคยดำรงตำแหน่งอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และได้ย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทยในปี 2556 สุดท้ายเข้ามาอยู่ค่ายสีน้ำเงิน พร้อมรับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค

เช่นเดียวกับนายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา แม้จะไม่มีดีกรีรัฐมนตรี และก็ถือเป็นอีก 1 ส.ส.เกรดเอ ที่เสียงดีไม่มีตก ย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย และพ่วงด้วยตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค

แถมยังหนีบหลานชายหน้าหยก นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ มาร่วมทีมคนรุ่นใหม่ภูมิใจไทย สู้เขต 1 อุทัยธานี ส่วนนายชาดา ลงเขต 2

การพ่วงตำแหน่งให้ผู้มาใหม่ครั้งนี้ เพื่อสร้างกำลังใจที่ฮึกเหิมในการต่อสู้ในพื้นที่ เพราะที่ผ่านมา พรรคเดิมไม่เคยให้ตำแหน่งแห่งหนใดๆ เป็นเพียงสมาชิกพรรคเท่านั้น ส่วนคนเก่าๆ ที่อยู่มาก่อนก็ต้องทำความเข้าใจกันเป็นพิเศษภายในพรรค

นอกจากใจถึงให้ตำแหน่งสำคัญกับคนมาใหม่ ในการประชุมใหญ่พรรคเมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา เสี่ยหนู นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคต่อไป โดยไม่มีใครกล้าคัดค้าน และนอกจากรองหัวหน้า 2 คนจากผู้มาใหม่ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ยังคงครองตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคต่อเนื่องเช่นกัน และในครั้งนี้ นายบุญลือ ประเสริฐโสภา ได้ขยับขึ้นมาเป็นรองหัวหน้าพรรค

ขณะที่เสี่ยโอ๋ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ น้องชายนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังอยู่ในเก้าอี้เลขาธิการพรรค ขณะที่นายสุนทร วิลาวัลย์ เจ้าพ่อเมืองปราจีนบุรี ดันหลานสาว นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ เป็นรองเลขาธิการพรรคคนที่ 1 และนายรังสิกร ทิมาตฤกะ เป็นรองเลขาธิการพรรคคนที่ 2 ส่วนเหรัญญิกพรรค คือนางนาที รัชกิจประการ มือขวานายชัย ชิดชอบ

สำหรับนายศุภชัย ใจสมุทร จากรองเลขาฯ ย้ายไปนั่งเป็นนายทะเบียนพรรค ดูเรื่องกฎหมายแทน

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมใหญ่พรรคครั้งนี้ ไร้เงา “นายสุชาติ ตันเจริญ” หัวหน้ากลุ่มริมน้ำ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการเปิดตัวและนำอดีต ส.ส. และผู้สมัครพรรคภูมิใจไทยบางส่วนไปร่วมรับประทานอาหารกับกลุ่มสามมิตร

กระทั่งปรากฏตัวครั้งล่าสุด ในบ้านศิลาชัย จ.บุรีรัมย์ ในงานวันเกิด “นายชัย” และยังไม่มาปรากฏตัวในพรรคอีกเลย

แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับ “นายพิเชษฐ์ ตันเจริญ” อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้เป็นน้องชายนายสุชาติ และนายณัชพล ตันเจริญ อดีต ส.ส.ภูมิใจไทย ยังคงเหนียวแน่นมารายงานตัวเป็นที่เรียบร้อย

เช่นเดียวกับก๊วน “สะสมทรัพย์” ที่มีข่าวว่า นายไชยา สะสมทรัพย์ พร้อมจะมาเปิดตัวในวันประชุมใหญ่พรรค แต่ก็ไร้เงาเช่นกัน

ว่ากันว่างานนี้ ทั้งนายสุชาติและนายไชยา ยังเคลียร์ปัญหาบางอย่างกับพรรคพลังประชารัฐไม่ลงตัว เนื่องจากพรรคพลังประชารัฐก็ต้องการกำลังพลจากทั้ง 2 ค่ายนี้เช่นกัน จนทั้ง 2 จะต้องจัดหาว่าที่ผู้สมัครให้ แต่เจ้าตัวยืนยันว่าจะอยู่กับพรรคภูมิใจไทย

ซึ่งเรื่องนี้จะต้องจับตาดูกันอีกครั้ง

ถึงแม้ว่าแฟนคลับจะพลาดการเปิดตัวบิ๊กเนม แต่ก็ยังถือว่าพรรคภูมิใจไทยเป็นเสือซุ่มมิใช่น้อย ที่สามารถดีล ส.ส.พรรคอื่นมาร่วมสังกัดอย่างไม่เอิกเกริก

ไม่ว่าจะเป็น นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ อดีต ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา บุตรชาย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตหัวหน้าพรรคมหาชน ที่แม้จะไม่ประสงค์ลงพื้นที่ แต่ขอลงบัญชีรายชื่อพรรค ส่วนพื้นที่นั้น ขอยกให้ทีมนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตรทำพื้นที่แทน ส่วนนายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ อดีต ส.ส.สุโขทัย พรรคชาติไทยพัฒนา ตัดสินใจทิ้งพรรค มาร่วมกับพรรคภูมิใจไทยเช่นกัน

แว่วว่า งานนี้เลือดพรรคชาติไทยพัฒนาจะไหลออกไม่หยุดเพราะสมาชิกพรรคไม่ได้รับการดูแลเหมือนเมื่อครั้งที่เคยอยู่กับ “ป๋าเติ้ง” นายบรรหาร ศิลปอาชา จนทำให้หลายคนต้องเอาตัวรอด

ขณะที่ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนายืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าทีมโคราชยังแน่นปึ้ก ไม่มีใครย้ายออก แต่นายพลพีร์ สุวรรณฉวี อดีต ส.ส.นครราชสีมา เป็นบุตรชายว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ และ ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา ได้ชิ่งจากพรรคชาติพัฒนา ไปอยู่สังกัดพรรคเพื่อไทย สุดท้ายตัดสินใจย้ายมาทีมโคราชให้กับพรรคภูมิใจไทย

ส่วนค่ายพระแม่ธรณี ก็ไหลไม่แพ้กัน เพราะเดิมทางฝั่งตะวันออกส่วนใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะได้ ส.ส.ยกแผง แต่งานนี้

นายมานิตย์ ภาวสุทธิ์ อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ และนายประมวล เอมเปีย อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายบรรจบ รุ่งโรจน์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ยกทีมมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย แม้ในอดีต นายประมวลจะเคยมีปัญหากับพรรคภูมิใจไทยเมื่อครั้งร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ จนออกมาตอบโต้กันนัว แต่วันนี้ในทางการเมือง นายประมวลและพรรคภูมิใจไทยกอดคอกันเป็นที่เรียบร้อย แถมยังมีเสียงกระซิบจากผู้ใหญ่ในพรรคว่านายประมวลดูแลเอาใจใส่พื้นที่ได้เป็นอย่างดี

ไม่เพียงเท่านี้ นายมานิตย์ยังได้ตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคอีก 1 ตำแหน่ง ด้วยเหตุผลที่ว่า นายอิทธิพล คุณปลื้ม ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เจ้าถิ่นแห่งเมืองชลบุรี ก็ได้ควบตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ จึงขอเอาตำแหน่งไปการันตีในพื้นที่ว่าทางภูมิใจไทยก็ให้ตำแหน่งมาเช่นกัน

นอกจากฝั่งตะวันออกแล้ว ยังมีอดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์จากภาคกลางตอนบน อย่างนายสมควร โอบอ้อม อดีต ส.ส.นครสวรรค์ ย้ายมาซบพรรคภูมิใจไทยอีกคน แถมยังบอกเหตุผลด้วยว่าถูกต้นสังกัดเดิมลอยแพ ส่งผู้สมัครคนอื่นชิงเก้าอี้แทน

นอกจากนี้ยังมีนายมงคล ศรีกำแหง อดีต ส.ว.จันทบุรี และนายพงษ์พันธุ์ สุนทรชัย อดีต ส.ส.หนองคายหลายสมัยจากพรรคเพื่อไทย (พท.) ร่วมขบวนด้วยอีกคน

ขณะเดียวกัน อดีต ส.ส.ภูมิใจไทยที่เคยมีข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะไปร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ก็มาร่วมงานเช่นกัน เช่น นายสุชาติ ศรีสังข์ อดีต ส.ส.มหาสารคาม นายนที สุทินเผือก หรือกรุง ศรีวิไล อดีต ส.ส.สมุทรปราการ โดยทั้งหมดยืนยันเสียงแข็งว่าไม่เคยทิ้งพรรคภูมิใจไทย เพียงแต่โดนคนในกลุ่มสามมิตรนำชื่อไปใส่เท่านั้น

ดังนั้น แม้ว่าจะเห็นพรรคภูมิใจไทยนิ่งเงียบ ไม่ออกสื่อให้หวือหวา แต่ยังคงมีความเคลื่อนไหวในพื้นที่ ทั้งการเดินสายของนายอนุทินและนายศักดิ์สยาม ที่ตระเวนลงพื้นที่ในภาคอีกสาน ทั้งงานวัด งานบุญ งานมวลชน ตลอดจนงานดีลแบบลับๆ ไม่ขาด

ประมาณว่า ไม่พูดเยอะ เจ็บคอ!!!