บันทึกในประวัติศาสตร์โลก ยูเอ็นถวายราชสดุดี “คิงภูมิพลอดุลยเดช” พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่

นําความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ

เมื่อสมัชชาสหประชาชาติ หรือยูเอ็นจีเอ จัดประชุมวาระพิเศษเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2559 ณ อาคารสำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

เพื่อแสดงความอาลัยและสดุดีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

United Nations Secretary General Ban Ki-moon (L) and President of the General Assembly Peter Thomson (C) observe a moment of silence during a tribute to the late King of Thailand Bhumibol Adulyadej in the General Assembly at United Nations headquarters in New York, October 28, 2016. REUTERS/Brendan McDermid
REUTERS/Brendan McDermid

นายปีเตอร์ ธอมสัน ประธานสมัชชาสหประชาชาติ ชาวฟิจิ กล่าวว่า

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก และได้รับการเคารพเทิดทูนอย่างที่สุด

การพัฒนาความเป็นอยู่ให้กับพสกนิกรตลอด 70 ปี สะท้อนการยึดมั่นในพระราชปณิธาน “ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยาม” โดยแท้จริง

การทรงงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย โครงการพระราชดำริต่างๆ มากมายพัฒนาทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจ ทรงเป็นศูนย์กลางทำให้เกิดเอกภาพทั้งในไทยและในภูมิภาค

สหประชาชาติทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ ของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ แด่พระองค์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2549 ทุกคนจะจดจำพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ในฐานะ “พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่”

หลังถวายราชสดุดี นายปีเตอร์ ธอมสัน นำที่ประชุมยืนสงบนิ่ง 1 นาทีเพื่อแสดงความไว้อาลัย

 

จากนั้น นายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวยกย่องว่า พระองค์ทรงทุ่มเทปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้วยพระวิริยะอุตสาหะ เพื่อปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและนำพาประเทศให้ทันสมัย

ทรงนำความมั่นคงและเสถียรภาพมาสู่ประเทศในช่วงบ้านเมืองเกิดวิกฤต

ความเศร้าโศกของประชาชนทั้งประเทศแสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงมีความสำคัญยิ่งใหญ่เพียงใด

ความมุ่งมั่นทรงงานเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ

ทำให้ประเทศไทยเจริญรุ่งเรือง

 

นายคาฮา อิมนัดเซ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรจอร์เจียประจำสหประชาชาติ ผู้แทนกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กล่าวว่า พระองค์ทรงเป็นที่เคารพรักเทิดทูนของประชาชนทั้งประเทศ ทรงได้รับการชื่นชมและเคารพจากทั่วโลก

ทรงเป็นผู้นำที่แท้จริงที่เป็นแรงบันดาลใจ ทรงทุ่มเทปฏิบัติพระราชกรณียกิจยกระดับความเป็นอยู่ของพสกนิกรชาวไทยทุกด้าน ทรงเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนทำงานเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง

พระองค์จะเป็นที่จดจำในฐานะผู้นำที่โดดเด่น เสียสละทุ่มเทเพื่อประเทศ ทรงเป็น “กษัตริย์นักพัฒนา” เป็นนักคิดผู้มีวิสัยทัศน์ที่มีบทบาทสำคัญขับเคลื่อนการพัฒนาระดับโลก

นายคริสเตียน บาร์รอส เมเล็ต เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรชิลีประจำสหประชาชาติ ผู้แทนกลุ่มประเทศละตินอเมริกาและแคริบเบียน แสดงความชื่นชมในพระราชกรณียกิจตลอดช่วง 70 ปี

ทรงได้รับความเคารพรักและเทิดทูนจากประชาชน

ทรงให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่และความก้าวหน้าของประชาชน อันเป็นที่มาของการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ของสหประชาชาติเมื่อปี 2549

ทรงได้รับการยอมรับในระดับโลกในฐานะประมุขแห่งรัฐที่เป็นศูนย์รวมจิตใจ สร้างเอกภาพและสันติภาพให้คนในชาติ

นายอับดุลลาห์ วาฟี เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไนเจอร์ประจำสหประชาชาติ ผู้แทนกลุ่มประเทศแอฟริกา ย้ำถึงการทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ ทุ่มเทพระวรกายปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน

ทรงเป็นกษัตริย์นักพัฒนาที่ประจักษ์ได้จากโครงการพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการ ปรัชญาของ “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นแนวทางนำไปประยุกต์ใช้เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในประเทศต่างๆ ได้กว้างขวาง

ครั้งนี้จึงมิใช่การสูญเสียของไทย แต่เป็นการสูญเสียของโลก

นายมานซูร์ อายัด อโลไทบี เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรคูเวตประจำสหประชาชาติ ผู้แทนกลุ่มประเทศเอเชีย-แปซิฟิก กล่าวว่า

ตลอด 70 ปีที่ผ่านมา พระองค์ทรงเป็นผู้สร้างเอกภาพและศูนย์รวมประชาชนในช่วงเวลายากลำบาก ทรงเป็นกษัตริย์ผู้มีความโอบอ้อมและนักสร้างสันติภาพ ส่งเสริมการเจรจาแทนความขัดแย้ง

ตลอดรัชสมัยได้นำพาประเทศสู่ความรุ่งเรือง มีเศรษฐกิจใหญ่อันดับต้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ความรักที่มีต่อพสกนิกร เห็นจากความมุ่งมั่นและอุทิศพระองค์ นำพาประเทศสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน

การสวรรคตนับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของไทยและของโลก

British Ambassador to the United Nations Matthew Rycroft speaks during a tribute to the late King of Thailand Bhumibol Adulyadej in the General Assembly at United Nations headquarters in New York, October 28, 2016. REUTERS/Brendan McDermid
British Ambassador to the United Nations Matthew Rycroft REUTERS/Brendan McDermid

นายแมตธิว ไรครอฟต์ ผู้แทนสหราชอาณาจักรประจำสหประชาชาติ ผู้แทนกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตก กล่าวว่า ทรงนำประเทศไทยตลอดรัชสมัยด้วยพระวิสัยทัศน์

ทรงขึ้นครองราชย์ขณะที่สหประชาชาติก่อตั้งได้เพียง 1 ปี และไทยเป็นประเทศสมาชิกลำดับที่ 55

ทรงปกครองประเทศด้วยพระวิสัยทัศน์ สร้างเอกภาพและน้ำหนึ่งใจเดียวกันของปวงชน

ประชาคมระหว่างประเทศน้อมรำลึกถึงพระองค์ในฐานะพระมหากษัตริย์ผู้ปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชน ผู้สนับสนุนการพัฒนา พระอัจฉริยภาพด้านศิลปะ ดนตรี และการถ่ายภาพ

ทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งเสถียรภาพของพสกนิกรชาวไทยตลอดไป

ผลงานของพระองค์ได้สร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญอย่างแท้จริง

United States Ambassador to the United Nations Samantha Power speaks during a tribute to the late King of Thailand Bhumibol Adulyadej in the General Assembly at United Nations headquarters in New York, October 28, 2016. REUTERS/Brendan McDermid
United States Ambassador to the United REUTERS/Brendan McDermid

นางซาแมนธา พาวเวอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า พระองค์ทรงเป็นมิตรที่ยาวนานกับสหรัฐอเมริกา ทรงพระราชสมภพที่สหรัฐอเมริกา

ที่จัตุรัส “คิงภูมิพลอดุลยเดช” มีชาวไทยมาแสดงความเคารพและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

ในการเสด็จฯ เยือนสหรัฐอเมริกาเมื่อปี ค.ศ.1960 สหรัฐอเมริกาน้อมรำลึกถึงพระราชดำรัสในการพระราชทานสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนที่ว่า ทรงประสงค์จะถูกจดจำเพียงว่า ทรงได้บำเพ็ญประโยชน์อย่างไรบ้าง

ตลอดรัชสมัยทรงลงพื้นที่ไปหาประชาชน เยี่ยมคนยากจน มีโครงการพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการ ทรงเพาะแปลงข้าวในวัง ผลิตสินค้าในโครงการส่วนพระองค์ และทรงประดิษฐ์นวัตกรรมด้วยพระองค์เอง

ทรงเชี่ยวชาญแก้ปัญหาน้ำท่วมด้วยหลักการ “แก้มลิง” ที่เลียนแบบธรรมชาติของลิงในการกักเก็บอาหารที่กระพุ้งแก้ม

ทรงเป็นกษัตริย์ที่ดูแลลูกในครอบครัว คือ ประชาชนชาวไทย สร้างคุณประโยชน์โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนเพื่อให้ครอบครัวของพระองค์ผาสุก

ด้วยเหตุนี้จึงทรงเป็นบุคคลที่วิเศษอย่างสมบูรณ์และประชาชนชาวไทยเคารพจงรักภักดี

Thailand's Ambassador to the United Nations Virachai Plasai speaks during a tribute to the late King of Thailand Bhumibol Adulyadej in the General Assembly at United Nations headquarters in New York, October 28, 2016. REUTERS/Brendan McDermid
REUTERS/Brendan McDermid

นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ กล่าวขอบคุณสมัชชาสหประชาชาติที่จัดประชุมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมกล่าวว่า

พระองค์ทรงเป็นแสงสว่างนำทาง เป็นศูนย์รวมจิตใจประชาชน เป็นเสาหลักทำให้เกิดเอกภาพในประเทศ

ทรงมีพระวิสัยทัศน์ในการพัฒนามนุษย์ เป็นที่มาโครงการต่างๆ ในการปรับปรุงชีวิตของประชาชน การรักษาสิ่งแวดล้อม ทรงนำประเทศไทยที่เป็นประเทศด้อยพัฒนามาเป็นประเทศรายได้ปานกลาง

ช่วงทศวรรษ 1960 ทรงเริ่มทดลองปลูกพืชทดแทนเพื่อแก้ปัญหายาเสพติด แนวคิดนี้ถูกใช้เป็นแนวทางยกเลิกการปลูกฝิ่นในหลายพื้นที่ทั่วโลก หน่วยงานสหประชาชาติยังยอมรับพระองค์ในฐานะพระมหากษัตริย์นักพัฒนา

สหประชาชาติยังกำหนดให้วันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา เป็น “วันดินโลก” มาตั้งแต่ปี ค.ศ.2014 อันมีที่มาจากโครงการวิจัยและการพัฒนาดินของพระองค์

จากโครงการพัฒนาหลายพันโครงการทั่วประเทศ สั่งสมและพัฒนาเป็น “หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ของขวัญอันล้ำค่าที่พระราชทานให้กับปวงชนชาวไทย เพื่อเป็นหลักดำเนินชีวิตและเป็นกรอบในการตัดสินใจ

ได้รับการยอมรับในฐานะแนวทางที่สามารถประยุกต์ใช้เพื่อบรรลุการพัฒนาที่ยั่งยืน

ประเทศไทยภูมิใจที่ได้แบ่งปันปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กับประเทศอื่นๆ