อุรุดา โควินท์ / ความทรงจำ : ชาและพาย

เขาบอก ชาวอุซเบกดื่มชาแทนน้ำ ดื่มทั้งวัน ทั้งชาร้อน ชาเย็น แล้วแต่ฤดูกาล

“ท้องไม่ผูกเหรอ” ฉันสงสัย

เขาหัวเราะ “มีแต่คนชงชาไม่เป็นเท่านั้นล่ะ ที่ดื่มชาแล้วท้องผูก”

ฤดูฝนปีนี้ ฝนมากกว่าทุกปี บางวันฝนขังเราไว้ในบ้าน ในวันแบบนั้นล่ะ ที่เราดื่มชาอร่อยกว่าทุกวัน ฉันชอบชาอุ่น เวลาดื่ม ฉันอมไว้สักครู่ ก่อนจะกลืนลงไป เมื่อก่อน เราดื่มแต่อู่หลงก้านอ่อน แต่ตอนนี้ บ้านของเรามีชาเบลนด์หลากหลายให้เลือกชง ชาเขียวเบลนด์กับข้าวคั่ว ชาดำเบลนด์กับเปลือกกาแฟ อู่หลงที่เบลนด์กับดอกไม้ได้หลากหลาย ทั้งกุหลาบ อัญชัน เก๊กฮวย และใบเตย

ชาเบลนด์สร้างความรื่นรมย์ให้เรา ทำให้เราค้นพบรสชาติใหม่ในชา ทำให้เรารับรสหวานที่ปลายลิ้นของอู่หลงได้มากขึ้น ทำให้เราได้ชาสีสวยขึ้น และทำให้การดื่มชาสนุกขึ้น

ฉันชอบชงชาในป้านแก้ว หรือบางครั้ง ฉันชงในแก้วน้ำที่หนาหน่อย ฉันชอบมองใบชาซึ่งม้วนเป็นก้อนกลมนั้น ค่อยๆ กลายเป็นใบชาอวบน้ำ ฉันเพลิดเพลินกับการชงนักหนา โดยเฉพาะกับชาเบลนด์ ไม่ใช่แค่เขียวเข้มใบชา แต่ฉันได้เห็นกลีบกุหลาบชมพู เหลืองเก๊กฮวย ม่วงอัญชัน ช่างอัศจรรย์ที่เราสามารถเก็บดอกไม้ใบไม้ไว้ และกินมันได้

ไม่ถึงกับดื่มชาทั้งวันเหมือนชาวอุซเบก แต่ชาไม่เคยห่างหายไปจากฉัน ตรงกันข้าม ชาอยู่ใกล้ เป็นความคุ้นเคย จนบางขณะฉันหลงลืมคุณค่าของมัน

บางครั้งฉันลืมไปว่า ฉันชอบป้วนเปี้ยนในบ้านตา เวลาตาจิบชา ตามักหยิบเงินในกระเป๋ามาแจก หยิบขนมในขวดโหลมาให้ ชาทำให้ตาอารมณ์ดี หรือไม่-ยามผ่อนคลาย ตาจะชงชาดื่ม

 

ช่วงที่ฉันอาศัยในนครศรีธรรมราช ชาเป็นเครื่องดื่มประจำบ้าน ฝนตกปีละ 8 เดือน บ่อยครั้งที่ตกทั้งวันทั้งคืน และต่อให้ฝนไม่ตก บ้านในสวนก็เย็นร่มรื่น เหมาะแก่การดื่มชา

กลางลานทรายนั่น ฉันก่อไฟไว้ บนโต๊ะใกล้กองไฟ มีกาน้ำ ป้านชา ใบชา และถ้วย บางวันอาจมีขนมหรือผลไม้ ฉันเตรียมไว้สำหรับเพื่อนชาวสวน

ยามพวกเขาอยากพักผ่อน ต้องการบทสนทนา หรืออยากอ่านหนังสือ พวกเขาจะคิดถึงบ้านของฉัน

เพิ่มฟืนในกองไฟ เติมน้ำในกา รอน้ำเดือด เราชงชาดื่มด้วยกัน บางวันเราตัดใบเตยใส่ลงไปในกาด้วย ใช้น้ำใบเตยชงชา ได้ชาตราสามม้าที่ต่างไปจากเมื่อวาน

ลานทรายไม่เคยเหงา มีคนแวะมาใช้เสมอ หากฉันเขียนหนังสือ หรือทำงานบ้านติดพัน เพื่อนๆ จะชงชาดื่มกันเอง พักให้หายเหนื่อย แล้วพวกเขาก็จากไปอย่างเงียบเชียบ

บ่อยครั้งที่ฉันไม่รู้ว่าพวกเขามาเมื่อไร และกลับไปตอนไหน พวกเขาดับเครื่องรถก่อนลงเนินบ้าน และหากจะกลับ พวกเขาก็เข็นมอเตอร์ไซค์ให้พ้นเนิน จึงค่อยติดเครื่อง

ทั้งนี้ เพื่อไม่รบกวนการทำงานของนักเขียน

 

ฉันเล่าเรื่องนี้สู่เขา ระหว่างที่เรารอแป้ง ขณะฉันอยู่พรหมคีรี เขาอยู่อุซเบกิสถาน แล้วชีวิตก็พาเรามาอยู่ที่นี่ด้วยกัน กำลังช่วยกันทำพายแบบรัสเซีย พายทอดซึ่งเขาชอบซื้อกินจากแผงข้างทาง ทั้งที่อาจารย์ชาวรัสเซียบอกว่านั่นมันพายปลอม ของแท้ต้องทำในบ้าน โดยแม่บ้านรัสเซีย

“มันเหมาะกับชาที่สุด อร่อยมาก แม้อาจารย์บอกว่าปลอม” เขาว่า

ศึกษาสูตรของแม่บ้านรัสเซียจากคลิป พบว่ามีไส้หลากหลาย ตั้งแต่กะหล่ำซอย เนื้อวัว มันฝรั่ง สำหรับตัวแป้ง แม่บ้านแต่ละคนมีส่วนผสมต่างไปบ้าง บางคนใช้น้ำ บางคนใช้นม บางคนมีไข่ บางคนไม่มี

เราตกลงใจใช้สูตรที่มีนมกับไข่ อุ่นนม 150 ML แล้วใส่ยีสต์ 10 กรัม คนให้ละลาย พักไว้ 10 นาที เติมน้ำตาลครึ่งช้อนโต๊ะกับไข่หนึ่งฟอง ตีให้เข้ากัน จากนั้นก็ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์

ฉันผสมแป้งในชามอ่างใบใหญ่ ใช้แป้ง 370 กรัม แบ่งแป้งออกเป็นสามส่วนโดยประมาณ เติมแป้งทีละส่วน ค่อยๆ คนจนเริ่มหนืด จึงใช้มือนวด นวดไม่นาน แค่ให้แป้งกลายเป็นก้อนเดียว เอาผ้าคลุมแป้ง ทิ้งไว้หนึ่งชั่วโมง

เราคุยกันระหว่างรอแป้ง และทำไส้ไปด้วย ใช้มันฝรั่ง 2 หัวเล็ก เนื้อสับหนึ่งถ้วยครึ่ง และหอมหัวใหญ่หนึ่งหัว มันฝรั่งนั้นต้มให้สุก บดรอไว้ หอมหัวใหญ่ซอยชิ้นเล็ก แล้วผัดไฟอ่อน ใช้น้ำมันนิดหน่อย รอหอมหัวใหญ่สุกค่อยใส่เนื้อสับ ผัดไฟกลางให้เนื้อสุกและแห้ง ปรุงรสด้วยเกลือกับพริกไทยดำบดหยาบ เทไส้ส่วนที่ผัดลงไปปนกับมันฝรั่งบด

ปรุงเกลือเพิ่ม เติมนมสักหนึ่งช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน

 

ครบหนึ่งชั่วโมง ฉันเอาแป้งออกมาตัดเป็นก้อน หนึ่งก้อนสำหรับพายชิ้น เขาว่า คนรัสเซียทำชิ้นใหญ่มาก แต่เราจะทำให้เล็กลง คลึงแป้งที่แบ่งแล้วให้กลม แล้วกดให้เป็นแผ่นวงกลม

ตักไส้ใส่กองตรงกลาง จับขอบแป้งมาชนกัน ใช้นิ้วมือกดขอบให้ติดกัน ได้พายรูปครึ่งวงกลม จะทอดแบบนั้นเลยก็ได้ แต่ฉันจับขอบของครึ่งวงกลมคว่ำลง ใช้มือกดเบาๆ เปลี่ยนรูปทรงพายสักนิด ได้ทรงรีที่ดูคล้ายเรือ น่ากินกว่าเป็นกอง

เราช่วยกันห่อจนแป้งหมด

“เอาล่ะ คราวนี้ก็ทอด” เขาว่า

ทอดในกระทะเทฟล่อน กะปริมาณน้ำมันให้สูงครึ่งหนึ่งของตัวพาย รอน้ำมันร้อน จึงหย่อนพายลงไป ใช้ไฟกลาง ทอดให้ด้านล่างสีสวย ค่อยกลับทอดอีกด้าน ได้พายสีน้ำตาลทองทั้งสองด้าน

ฉันก็ตักมาพักไว้ในกระชอน

 

เขาต้มน้ำชงชา

ฉันลุ้นว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไร รอชาไม่ไหว แอบชิมไปหนึ่งชิ้น อา…อร่อยมาก

หยิบพายอีกชิ้นใส่จานใบเล็กส่งให้เขา “ลองสิ”

ระหว่างรอเขาเคี้ยว ฉันใจเต้นตึกตัก และดูเหมือนนานเหลือเกิน กว่าเขาจะพูด “ฮืม…อร่อยกว่าที่เคยกินอีก”

ฉันยิ้มสุดริมฝีปาก มองพายในจานใบใหญ่ เราสองคนกินไม่หมดแน่นอน ฉันกดโทรศัพท์ชวนเพื่อนมากิน โทร.ไปสามสาย เพื่อนพร้อมมาทั้งสามคน บ่ายนี้คงคึกคักกว่าทุกบ่าย

“คนขยันทำอาหาร ยังไงก็ไม่ขาดเพื่อนโนะ” ฉันบอกเขา และคิด เราต้องเตรียมชงชาให้เพื่อน จะเลือกเบลนด์ไหนดีนะ