แมลงวันในไร่ส้ม : รับน้อง ‘4 รมต.พปชร.’ ทุกพรรคจ่อสตาร์ตเครื่อง เตรียมจัดบัญชีชื่อนายกฯ

แมลงวันในไร่ส้ม

 

รับน้อง ‘4 รมต.พปชร.’

ทุกพรรคจ่อสตาร์ตเครื่อง

เตรียมจัดบัญชีชื่อนายกฯ

 

ข่าวการเมืองเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ

หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ออกมาประกาศ “สนใจงานการเมือง”

ทำให้แวดวงการเมืองไหวตัวคึกคัก

พรรคพลังประชารัฐ หรือ พปชร. เปิดตัวยิ่งใหญ่ในวันเสาร์ที่ 29 กันยายน

นำโดยนายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม นั่งหัวหน้าพรรค ส่วนนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ยึดเก้าอี้เลขาธิการพรรค

ยังมีทีมเศรษฐกิจของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ มาร่วมบริหารอีก 2 คน

ได้แก่ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ เป็นรองหัวหน้าพรรค และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกฯ เป็นโฆษกพรรค

นอกจากนี้ ในรายชื่อกรรมการบริหารพรรค ยังมีผู้ช่วย รมต.อีกหลายคนนั่งอยู่

กระแสตอบรับไม่ค่อยสวยงามนัก เพราะทั้ง 4 รมต.ยืนยันว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง รมต. เพราะยังมีงานต้องสานต่อ

แต่จะแบ่งเวลาหาเสียง และทำงานในฐานะรัฐมนตรีให้ชัดเจน และพิจารณาลาออกเมื่อถึงเวลาเหมาะสม

อย่างไรก็ตาม กระแสโจมตียังไม่เบาบางลงไป

ร้อนถึงนายสมคิดต้องออกโรงมายืนยันว่า ทั้ง 4 รมต.ยังมีงานต้องดูแล และเห็นว่าไม่จำเป็นต้องลาออก

แม้รองนายกฯ ออกโรงมาเอง แต่เชื่อว่าคงไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นสักเท่าไหร่

 

การเปิดตัวของพรรคพลังประชารัฐ ที่มีรัฐบาล คสช.อยู่เบื้องหลัง ทำให้พรรคต่างๆ ต้องเร่งแสดงความชัดเจน

มีข่าวเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ถึงการต่อสู้ในพรรคการเมืองหลัก คือพรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เพื่อหาแม่ทัพนำสู้ศึกเลือกตั้งในช่วงต้นปี 2562

ปานปรีย์ พหิทธานุกร

พรรคเบอร์ 1 อย่างเพื่อไทย ปรากฏชื่อของ “ดร.ตั๊ก” นายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตผู้แทนการค้าไทย หนึ่งในทีมยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย

ดร.ปานปรีย์เปิดตัวให้สัมภาษณ์ “มติชน” ว่าด้วยแนวคิดในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการเมือง

และตอบคำถามเรื่องที่จะมาเป็นแคนดิเดตชิงหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

เพิ่มความคึกคักในลิสต์รายชื่อผู้เข้าประกวด จากเดิมที่มีชื่อของ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรค เป็นเต็งหนึ่ง

ส่วนรายชื่อเดิมๆ ยังมี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี, นายพิชัย นริพทะพันธุ์ แกนนำสายบู๊ด้านเศรษฐกิจของพรรค

ต้องรอว่า หลังจากคณะกรรมการบริหารพรรคจัดระเบียบภายในพรรคเสร็จเรียบร้อย พร้อมนัดประชุมเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ในวันที่ 28 ตุลาคมนี้

แคนดิเดตคนไหนจะคว้าเก้าอี้หัวหน้าพรรค พท.คนใหม่

แต่ก็ยังไม่แน่ เพราะยิ่งใกล้เลือกตั้ง ความชัดเจนมีมากขึ้น อาจจะเกิดรายการเซอร์ไพรส์มีผู้เข้าแข่งขันใหม่แต่หน้าเก่าโดดเข้าร่วมวงไพบูลย์

 

พรรคเก่าแก่อย่างประชาธิปัตย์ มักจะถูกล้อเลียนในเรื่องความขัดแย้งภายใน อาจเป็นเพราะกฎกติกา ธรรมเนียมในพรรค เปิดให้แสดงความคิดความเห็นได้มาก

หลังจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค โชว์ความใจกว้าง ประกาศเปิดให้เลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่ โดยจะมีการหยั่งเสียงสมาชิกผ่านแอพพ์ด้วย

เป็นที่ชัดเจนว่า มีผู้ลงแข่งขันแน่ๆ แล้ว 3 คนด้วยกัน

สื่อต่างๆ เสนอข่าวว่า ประกอบด้วย 1. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 2. นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก และ 3. “เสี่ยจ้อน” อลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรค

มีการวิเคราะห์ด้วยว่า รายการนี้มี “นอมินี” ของการเมืองภาพกว้าง ผลักดันคนเข้ามาเพื่อดึง ปชป.ไปสนับสนุนแผนงานการเมืองของตนเอง

ประเมินแนวร่วมและเสียงสนับสนุนล่าสุด ผู้ท้าชิงที่มีน้ำหนักมาก ได้แก่ “อภิสิทธิ์” กับ “หมอวรงค์”

“หมอวรงค์” พร้อมทีมเพื่อนหมอวรงค์ ได้รับการสนับสนุนจากว่าที่เลขาธิการพรรค “ถาวร เสนเนียม” หากหมอวรงค์ได้รับเลือกตั้ง

สำหรับนายถาวร เป็นอดีตรองหัวหน้าพรรค อดีตแกนนำ กปปส. ถึงที่สุดคือแนบแน่นกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ

อลงกรณ์ พลบุตร

นายถาวรนำทีม ร่วมกันเปิดตัวหมอวรงค์ที่บ้านเกิด จ.พิษณุโลก ด้วยคำขวัญ “กล้าเปลี่ยนเพื่อประชาชน” และประกาศตัวพร้อมเป็น “นายกรัฐมนตรี”

ขณะเดียวกัน นพ.วรงค์กับนายถาวร ควงแขนกันเดินสายลงพื้นที่ทั้งภาคเหนือและภาคใต้ ขอคะแนนเสียงสนับสนุนจากสมาชิกพรรค มีการไลฟ์สตรีมมิ่งทางเฟซบุ๊ก

โดยถือว่า เป็นมวยรอง ต้องขยันลงพื้นที่

ส่วนนายอภิสิทธิ์ ที่ผ่านศึกการเมืองมาบอบช้ำไม่น้อย ยังติดภารกิจต่างประเทศ แต่เตรียมลงหาเสียงในพื้นที่อีกเหมือนกัน

โดยมีเวลาเหลือ 1 เดือน เพราะทางพรรคจะเริ่มเปิดรับสมัครผู้สนใจเป็นหัวหน้าพรรค ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม จากนั้นจะพิจารณาแต่งตั้งกรรมการบริหารพรรคทันที

วันที่ 1-5 พฤศจิกายน เป็นการลงคะแนนหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค เพื่อเข้าที่ประชุมใหญ่ในวันที่ 11 พฤศจิกายน

ซึ่งในวันดังกล่าวจะได้หัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ทำให้กรรมการบริหารพรรคชุดเก่าสิ้นสุดวาระลงทันที

 

 

ส่วนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคคนเดิม ยังนอนมาแบบไร้คู่แข่ง

การประชุมใหญ่พรรคเมื่อ 2 ตุลาคมที่ผ่านมาเป็นไปอย่างคึกคัก

วงการเมืองถือว่า พรรคของเสี่ยหนูเป็นเต็งหนึ่งที่ คสช.จะต้องมาเชื้อเชิญไปร่วมรัฐบาล

เพราะนโยบายการเมืองยืดหยุ่น และไม่ปฏิเสธบทบาทของทหาร และยังมีแกนนำสำคัญอย่างนายเนวิน ชิดชอบ เป็นแบ๊กอัพสร้างเครือข่าย

กระแสการเมือง จะทำให้พรรคภูมิใจไทยเข้าสภาได้ในระดับ 40 เสียงบวกลบ

อีกพรรคที่ใช้จังหวะของช่วงรัฐประหาร จัดแถวถ่ายเลือด หลังจากแกนนำพรรคคนสำคัญถึงแก่อนิจกรรม คือ พรรคชาติไทยพัฒนา หรือ ชทพ.

จากนี้ไป จะเป็นบทบาทของ “กลุ่มนิวบลัด” ที่มี “ลูกท็อป” นายวราวุธ ศิลปอาชา มานั่งเป็นหัวหน้าพรรค ส่วนพี่สาวคือ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หลีกทางให้

สำหรับนายวราวุธ เริ่มเดินสายรับเชิญขึ้นเวทีและโชว์แนวคิด วิสัยทัศน์ได้อย่างไม่ธรรมดา

สมดีกรีนักเรียนนอก และยังทำธุรกิจแทนบิดา รวมถึงบริหารทีมฟุตบอลสุพรรณบุรี

น่าจะเป็นอีกพรรคที่ถือเป็น “ตัวแปร” ของการเมืองหลังเลือกตั้งปี 2562

 

นั่นคือภาพสะท้อนจากข่าวสารในพื้นที่สื่อ

ประเด็นที่จะคลี่คลายออกมาในขั้นต่อไปคือ แต่ละพรรคจะส่งชื่อใครเป็น “ว่าที่หัวหน้าพรรค” โดยส่งได้พรรคละ 3 คน

และแน่นอนว่า หัวหน้าพรรคก็ควรจะเป็น 1 ใน 3 ด้วย ไม่ว่าจะลงสมัคร ส.ส.หรือไม่ลง รัฐธรรมนูญ 2560 เปิดช่องไว้กว้างขวางมาก