วอลโว่ “V40 T4 Facelift” “แฮทช์แบ็ก” ใหม่-เจอกันปลายปี

สันติ จิรพรพนิต
Volvo V40 T4 Momentum Studio Rear

“วอลโว่” รถสุดแกร่งสัญชาติสวีเดน เปิดเกมรุกในเมืองไทยหนักขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะหลังจากได้ “แอเน็ต แอนเดอร์สัน” มานั่งเก้าอี้บิ๊กบอส วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว

โดยเฉพาะในปีนี้ถือว่ามีรถใหม่ และแคมเปญเด็ดๆ ออกมาแย่งลูกค้าตลาดรถหรูอย่างได้ผล

การตั้งราคาถือว่าน่าสนใจเพราะพะบู๊ กับเจ้าตลาดทั้งเมอร์เซเดส-เบนซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู แบบจัดหนัก

ยิ่งการออกแบบภายนอก-ใน ที่แม้ยังมีกลิ่นอายของสแกนดิเนเวีย แต่ดูหรูหราและวัยรุ่นขึ้น ไม่ใช่รถที่เจาะกลุ่มผู้ใหญ่จ๋าเหมือนในอดีต

และแน่นอนว่าความปลอดภัยยังเป็นหัวใจหลักของวอลโว่ ตามสโลแกนที่คนไทยคุ้นเคยกันดีคือ “ทุกชีวิตปลอดภัยในวอลโว่”

ในปีนี้วอลโว่ ส่งรถใหม่และรุ่นไมเนอร์เชนจ์ออกมาเขย่าตลาดหลายรุ่น ล่าสุดคือพี่บิ๊ก “เอ็กซ์ซี 90 ที 8” (XC90 T8) เอสยูวีรุ่นใหญ่แบบปลั๊กอินไฮบริด

ส่วนรถขนาดกลางที่น่าสนใจไม่พ้นรุ่น “V40” รถที่ขายดิบขายดีเหลือเกินของวอลโว่ทั้งในตลาดโลก และเมืองไทย

เมื่อต้นปี วอลโว่ส่ง “V40 Crosscountry D4” มาทำตลาดใช้เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ ทวินเทอร์โบ ตั้งราคา 2 ล้านนิดๆ

และในปลายปีนี้สาวกวอลโว่ เตรียมเก็บตังค์รอได้เลยเพราะ “V40” รุ่นใหม่ล่าสุดกำลังจะเข้ามาอวดโฉมในเมืองไทย มีชื่อเต็มๆ คือ “V40 T4 Facelift”

“V40 T4 Facelift” อวดโฉมในงาน “Geneva Motor Show 2016” ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และเปิดจองในยุโรปช่วงเดือนพฤษภาคม

โดยกำลังจะเข้ามาประกาศศักดาในมืองไทยในอีกไม่กี่มากน้อยจากนี้

%e0%b8%a7%e0%b8%ad%e0%b8%a5%e0%b9%82%e0%b8%a7%e0%b9%881-768x587

“V40 T4 Facelift” ถือเป็นรุ่นปี 2017 ออกแบบด้านนอกดูสปอร์ตและลงตัวมากขึ้น จุดเด่นสุดไม่พ้นไฟหน้าทรงค้อนของเทพเจ้าแห่งเจ้าธอร์ (Thor Hammer) ดูหรูหราและล้ำๆ พอสมควร ซึ่งได้เห็นกันไปแล้วในรุ่น “เอ็กซ์ซี 90 ที 8”

ไฟหน้าแบบนี้จะเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์วอลโว่รุ่นใหม่ๆ ต่อจากนี้ด้วย

ส่วนกระจังหน้าขนาดใหญ่ ทรงเหลี่ยมๆ รีๆ พร้อมโลโก้ที่เป็นเอกลักษณ์พาดขวาง ต่ำลงมาเป็นช่องดักลมที่ออกแบบมีลูกเล่นพอสมควร

สร้างเส้นและเหลี่ยมสันบริเวณกระโปรงหน้ารถดูลื่นไหล และเอาใจวัยรุ่นมากขึ้น

มองผาดๆ ได้อารมณ์รถ “แอสตัน มาร์ติน” อยู่พอสมควร

เหลี่ยมสันด้านข้างโดยเฉพาะชายล่างเชื่อมกับด้านท้ายอย่างลงตัว

ไฟท้ายขนาดใหญ่เชื่อมไปเกือบถึงหลังคาด้านบน รูปทรงคล้ายรุ่น “V40 Crosscountry D4″

ประตูที่ 5 ขนาดใหญ่เด่นด้วยตัวอักษร” VOLVO” สีเงิน ต่ำลงมาเป็นท่อไอเสียคู่ซ้าย-ขวา ให้อารมณ์สปอร์ตมากขึ้น

%e0%b8%a7%e0%b8%ad%e0%b8%a5%e0%b9%82%e0%b8%a7%e0%b9%884-768x543

ภายในห้องโดยสารใช้แนวคิด “ออกแบบมาเพื่อคุณ” (Designed Around You) ด้วยโทนสีทันสมัย สะท้อนอิสระแห่งการเดินทาง เบาะนั่งใหม่สไตล์สปอร์ตบุหนังคุณภาพสูงสีดำชาโคล พวงมาลัยสีดำด้าน โลโก้วอลโว่ “iron mark” แบบใหม่บนพวงมาลัย

แผงหน้าปัด-ตกแต่งด้วยขอบอะลูมิเนียมสีดำ ประณีตด้วยเอกลักษณ์การออกแบบจากสวีเดน

นวัตกรรมที่ให้ความสะดวกเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสหรือสั่งการด้วยเสียงอย่าง Volvo Sensus Connect ช่วยค้นหาข้อมูลและควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ของรถได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านสัญญาณบลูทูธ รวมทั้งฟังเพลงจากเครื่องเล่นเพลงแบบพกพาโดยผ่านการเชื่อมต่อด้วยสัญญาณบลูทูธได้

จอแสดงผลแบบ TFT ขนาด 8 นิ้วที่มีรายละเอียดสูงติดตั้งอยู่เหนือคอนโซลกลาง เพื่อแสดงข้อมูลสำคัญต่างๆ ให้ผู้ขับขี่ทราบในแต่ละสถานการณ์

สะท้อนอารมณ์ในการขับขี่ด้วยธีมสีและรูปแบบการแสดงผลที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับได้ถึง 3 รูปแบบ คือ Elegance, Eco และ Performance

มีระบบกรองอากาศอัจฉริยะ CleanZone air purification system มีประสิทธิภาพในการดักจับอนุภาคเล็ก ละอองเกสร และฝุ่นผง ที่ปะปนมากับอากาศได้ดีที่สุด เพื่อบรรยากาศห้องโดยสารที่สะอาด ปลอดโปร่ง

ส่วนที่นั่งด้านหลังเห็นจากรูปเหมือนกับออกแบบมาให้ 2 ที่นั่ง วางลักษณะเบาะแยกกันคล้ายกับที่นั่งคู่หน้า

%e0%b8%a7%e0%b8%ad%e0%b8%a5%e0%b9%82%e0%b8%a7%e0%b9%886-768x512

ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินใหม่แบบ “Drive-E Powertrain” ขนาด 4 สูบ ความจุ 2,000 ซีซี ทวินเทอร์โบ กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,700 รอบต่อนาที และแรงบิด 300 นิวตันเมตรที่ช่วง 1,300-4,000 รอบต่อนาที

ความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 6.9 วินาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยในเมืองและนอกเมือง 16.4 กิโลเมตรต่อลิตร

นอกจากนี้ วอลโว่ ปรับเครื่องยนต์ให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์ออกแบบและพัฒนารถที่ปล่อยไอเสียในปริมาณที่ต่ำลง จึงออกแบบและพัฒนารถรุ่น V40 T4 ให้ปล่อยค่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เฉลี่ยอยู่ที่ 142 กรัมต่อกิโลเมตร ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ที่ 150 กรัมต่อกิโลเมตร

นอกจากจะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสามารถทำราคาได้น่าสนใจมากขึ้น

%e0%b8%a7%e0%b8%ad%e0%b8%a5%e0%b9%82%e0%b8%a7%e0%b9%885-768x511

แน่นอนว่าจุดเด่นที่สุดของค่ายนี้ไม่พ้นเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับเทพๆ ที่แม้ “V40 T4 Facelift” จะเป็นเก๋งกลางแต่ก็จัดหนักไม่แพ้รุ่นอื่นๆ

อาทิ ระบบช่วยในการจอดรถอัตโนมัติ (Park assist pilot) ช่วยจอดแบบขนานขอบทางง่ายดายขึ้น ระบบนี้จะควบคุมการบังคับเลี้ยวของรถเอง ผู้ขับขี่เพียงแค่ควบคุมความเร็วรถและปรับเปลี่ยนเกียร์เท่านั้น ระบบนี้ทำงานโดยเซ็นเซอร์อัลตร้าโซนิกที่ติดตั้งไว้ที่ด้านหน้า หลัง และข้างรถ

ระบบป้องกันการชนขณะขับขี่ความเร็วต่ำ “City Safety” ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เมื่อรถวิ่งในระดับความเร็วไม่เกิน 50 ก.ม./ช.ม. ระบบจะใช้เลเซอร์ที่ฝังอยู่ส่วนบนของกระจกบังลมหน้า สแกนพื้นที่ด้านหน้ารถในระยะห่างออกไป 10 เมตร เพื่อตรวจจับยานพาหนะด้านหน้ารถว่าหยุดอยู่กับที่หรือกำลังเคลื่อนที่อย่างช้าๆ

ถ้าระบบประเมินว่าการชนกำลังจะเกิดขึ้น เบรกจะถูกชาร์จเตรียมไว้เพื่อให้เหยียบเบรกได้ทันท่วงที หรือหากผู้ขับขี่ไม่เหยียบเบรก ระบบจะเบรกโดยอัตโนมัติ

โดยนี่เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยี ที่วอลโว่ภูมิใจนำเสนอเพื่อสู่เป้าหมายที่วอลโว่ตั้งไว้ว่าภายในปี ค.ศ.2020 จะต้องไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บสาหัสในรถวอลโว่รุ่นใหม่อีกต่อไป

มีให้เลือก 5 สี คือ สีขาว (Ice White Solid), สีเงินเมทัลลิก (Bright Silver Metallic), สีน้ำเงินเมทัลลิก (Power Blue Metallic), สีเทาเมทัลลิก (Osmium Grey Metallic) และสีดำ (Onyx Black Metallic)

ส่วนตัวเป็นๆ และราคาจะไปเปิดในงาน “มหกรรมยานยนต์” หรือ “มอเตอร์เอ็กซ์โป” ต้นเดือนธันวาคมนี้

แต่ถ้าประเมินแล้วราคาคงไม่หนีจากรุ่น “V40 Crosscountry D4” สักเท่าใดนัก