เปิดใจ “ฐิติราช หนองหารพิทักษ์” กับ ภารกิจ 3 ปี นำทัพสอบสวนกลาง เป็น บช.มืออาชีพเกรดเอ

โล่เงิน

3 ปี นำทัพสอบสวนกลาง “ฐิติราช หนองหารพิทักษ์” ปั้น บช.มืออาชีพเกรดเอ

มากกว่า 3 ปีที่ “บิ๊กหมู” พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ กุมบังเหียนกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ปั้นจนเป็นกองบัญชาการพิเศษ ที่เจ้าตัวนิยามว่า “แพทย์เฉพาะทาง” ให้กลับมายิ่งใหญ่ สมชื่อ “สอบสวนกลาง” เป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชนอีกครั้ง

ฝากผลงานให้องค์กรสีกากี ก่อนรับภารกิจสำคัญ ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ดำรงตำแหน่ง “นายทหารราชองครักษ์”

ตามกระแสข่าวในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับไม้ต่อยุคบิ๊กหมู นักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่นที่ 34 มี “บิ๊กทิน” พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง นรต.37 รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง อดีตผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม นั่งเก้าอี้กุมบังเหียนผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางคนต่อไป

นับแต่ต้นปี 2558 ที่ “บิ๊กหมู” คุมทัพสอบสวนกลาง ภารกิจหลักคือกู้วิกฤตศรัทธา กู้ภาพลักษณ์ คืนภาพและผลงานอันน่าเกรงขามของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ซบเซาด้านผลงานไปในช่วงก่อนหน้ากลับคืนมา

กว่า 3 ปี กับการนำทัพ บิ๊กหมูทำได้สำเร็จ!?

กองบังคับการปราบปราม หรือกองปราบฯ กลับมามีบทบาทเป็นหน่วยบรรเทาทุกข์ สางปมคดีอาชญากรรมสะเทือนขวัญ สะเทือนใจ ซับซ้อน ซ่อนปมให้ประชาชนอีกครั้ง

คดีหวย 30 ล้าน ปมขัดแย้งระหว่างหมวดจรูญ ข้าราชการตำรวจบำนาญ และครูปรีชา ข้าราชการครูใน จ.กาญจนบุรีเป็นคู่พิพาท จากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ต้องถึงมือกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำไปสู่การหาข้อยุติในคดีอาญา กล่าวหาแจ้งความเท็จ เอาผิดนายตำรวจระดับผู้บังคับการจังหวัด ที่ยื่นมือเข้าไปในการสอบสวน และเบี่ยงเบนข้อเท็จจริงทางคดี สอบสวนกลางผสานกำลังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และกองปราบปราม แกะรอยจนสำเร็จ

ปฏิบัติการทลายเหลือบไรวงการผ้าเหลือง บุกมุมมืดดงขมิ้น จับกุมพระเถระชั้นผู้ใหญ่และเครือข่ายลูกศิษย์ กรณีทุจริตเงินทอนวัด ยักยอกเงินงบประมาณส่งเสริมการศึกษาและกิจกรรมในโรงเรียนปริยัติธรรม เป็นผลงานโบแดงกองปราบปรามในนามสอบสวนกลาง

“กองปราบฯ เองก็ผ่านทั้งช่วงเวลาที่ตกต่ำมีคนด่าทอและหันหนี บางช่วงกองปราบฯ ก็มียุครุ่งเรืองเป็นที่ชื่นชมยินดีของประชาชนเฉกเช่นในปัจจุบัน ทุกท่านก็ทราบดี สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับตัวเรา อย่างผู้นำเอง ถ้าเป็นผู้นำที่ดี ลูกน้องก็ชื่นชม กองปราบฯ จะรุ่งเรืองหรือไม่ ผู้บังคับบัญชาทุกคน ทุกกองกำกับการและไพร่พลต่างก็มีส่วน”

“นอกจากนี้ กองปราบฯ ก็ถือเป็นเขี้ยวเล็บของกองบัญชาการสอบสวนกลาง ผมอยากให้ทุกท่าน ทั้งผู้บังคับบัญชาและไพร่พลทุกคนปฏิบัติตนอย่างมั่นคงแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ และกองปราบฯ ก็จะเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างคำที่ว่า “ที่พึ่งสุดท้ายที่หมายพึ่ง” นอกจากนี้ บรรดาผู้ร้ายในปัจจุบันก็มีการวางแผนอย่างรอบคอบ มีทนาย มีเส้นสาย ซึ่งพอตำรวจทำหน้าที่ บ้างก็โดนฟ้องกลับ ทางตำรวจเราก็ต้องปฏิบัติงานให้ก้าวทันตามพวกผู้ร้าย และพยายามทำอย่างดีที่สุดเพื่อประชาชน เพราะปัจจุบันตำรวจดีก็เยอะ ตำรวจไม่ดีก็มีเหมือนกัน” พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวกับผู้ใต้บังคับบัญชา ในงานครบรอบ 70 ปีกองปราบฯ ที่ผ่านมา

เป็นเหมือนคำสอนฝากไว้ให้ตำรวจรุ่นหลังเดินต่อ คงให้สอบสวนกลางรักษาความเป็นกองบัญชาการเกรดเอของสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป

ตุลาคม 2561 สอบสวนกลางยุคใหม่ จะมีกองบังคับการน้องใหม่ เป็นโครงสร้างคล้ายทดแทนกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ที่ยกฐานะเป็นกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เป็นหน่วยพิเศษ เสริมทัพสอบสวนกลาง เรียกชื่อกองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ ผุดใหม่ 10 กองกำกับการ

สอบสวนกลางในยุคต่อไป ที่มีชื่อ “บิ๊กทิน” คุมทัพกองปราบปราม มีชื่อว่าที่นายพลหนุ่ม “พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช” รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม นรต.50 นายตำรวจรุ่นใหม่ ไฟแรง คุมกำลังกองปราบปราม ชื่อว่าที่นายพลอีกคน พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม นั่งว่าที่ผู้บังคับการกองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ

ขยับเดอะฉิม “พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด” ผู้บังคับการปราบปรามคนปัจจุบัน นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 37 ไปรีโนเวต กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. อัพเกรดให้เป็นกองบังคับการที่มีศักยภาพสืบสวนสอบสวนไขคดีโจรเสื้อเชิ้ต

“บิ๊กหมู” เผยว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ใช้เวลากับการปั้นสอบสวนกลางให้กลับมาเป็นหน่วยที่พึ่งของประชาชนอีกครั้ง เสริมเขี้ยวเล็บให้ตำรวจในสอบสวนกลาง โดยเฉพาะในกองบังคับการปราบปรามที่มีวัฒนธรรมภายในองค์กรเข้มแข็งให้กลับมาเป็นนักสืบที่ทำการสืบสวนคลี่คลายคดีบำบัดทุกข์ของประชาชนอย่างมืออาชีพเชื่อถือได้ เพราะเราพลาดไม่ได้ จับแพะไม่ได้ ขณะที่กองบังคับการอื่นๆ ในสอบสวนกลางที่ผ่านมาก็พยายามทำให้เป็นกองบังคับการเฉพาะทางด้านต่างๆ ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ต่อไปจะต้องสางคดีเด็ก-สตรี ไม่เฉพาะเรื่องค้ามนุษย์

“ผมพยายามสร้างทีมสอบสวนกลางที่ผนึกกำลังความสามารถเฉพาะทางของหน่วยต่างๆ เข้าร่วมคลี่คลายคดี เราไม่ทำให้ใครเป็นพระเอก แต่ทีมสอบสวนกลางคือพระเอกร่วมกัน ร่วมกับพื้นที่ ทีมของเรารวบรวมความเชี่ยวชาญทุกด้าน จะร่วมกันทำงานทำหน้าที่ตำรวจสางคดีทุกคดี ภายใต้ความเป็นมืออาชีพ เหมือนแพทย์เฉพาะทางรักษาถูกโรค”

พล.ต.ท.ฐิติราชทิ้งท้าย